พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
พุธ 11 ส.ค. 2021 7:34 am
เราเป็นภิกษุ เห็นไหม ทุกคนเกิดมามีชีวิต มันต้องอยู่ต้องกินเหมือนกันทั้งนั้น แต่การอยู่การกินของใคร การอยู่การกินของขอทาน การอยู่การกินของคฤหัสถ์เขา การอยู่เห็นไหม กิน รับประทาน เสวย ของเรามันฉัน การกินการอยู่มันเป็นเรื่องการกินการอยู่นี่แหละ แต่ทำไม่เหมือนกัน อยู่เหมือนกันแต่ทำไม่เหมือนกัน
ชีวิตเราต่างจากคฤหัสถ์แล้วนะตั้งแต่วันบวช อุปัชฌาย์บอกเลย ชีวิตของภิกษุต่างจากคฤหัสถ์แล้ว ไม่ใช่ดำรงชีวิตแบบคฤหัสถ์เขา เขาก็กินอยู่อาศัยเหมือนกัน เราก็กินอยู่อาศัย แต่กินอยู่อาศัยแบบผู้เห็นภัย กินอยู่อาศัยแบบผู้มีสติสัมปชัญญะไม่ได้กินอยู่อาศัยแบบโลกเขา เขากินเราก็กิน เอ้า เขากินด้วยกูก็กิน เขานอนกูก็นอน แล้วชีวิตเราต่างจากคฤหัสถ์ตรงไหน? ชีวิตมันต่างจากคฤหัสถ์ตรงไหน?
ชีวิตมันต่างจากคฤหัสถ์เพราะว่ามันมีสำนึกนี่ไง มีสำนึกว่ากินอยู่เหมือนกันนี่แหละ แต่กินอยู่ไม่เหมือนกัน กินอยู่แบบพระ กินอยู่แบบคฤหัสถ์เขา กินอยู่กับสังคมของเขา ทีนี้กินอยู่แบบพระกินอย่างไร ดูสิ เช้าขึ้นมาบิณฑบาตมา เราจะกินอย่างไร เราจะอาศัยอย่างไร แล้วดูสิ ไม่ใช่เอานิสัยของโลกๆ มา เขาก็กินได้ เดี๋ยวนี้เขากินเป็นโต๊ะจีน เขากินหูฉลาม เขากินในเหลากันน่ะ ไอ้พระเขาจะลากเข้าไปกินในโรงแรมกันโน่นน่ะ จะไปกินอย่างนั้นเหรอ เพราะอะไร? เพราะไม่มีสำนึกไง ไม่มีสำนึก ชีวิตแตกต่างจากคฤหัสถ์แล้วนะ
ในเมื่อสังคมเขาเป็นอย่างนั้น สังคมเขาเป็นไป เขาอยากทำของเขาไป นั่นมันเรื่องสังคมของเขา ถ้าพระเขาจะไปทางนั้น พระโลกๆ ก็เรื่องของเขา เขาเป็นผู้ไม่เห็นภัยในวัฏสงสาร ในเมื่อเราเป็นผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เราจะทำตัวอย่างนั้นไม่ได้
ในเมื่อทำตัวอย่างนั้นไม่ได้ เราสำนึกไหม เราสำนึกว่าชีวิตเราต่างจากคฤหัสถ์หรือยัง ถ้าชีวิตเราไม่ต่างจากนั้น ผมอยู่บนหัวโกนทำไม แล้วทำไมไม่ไว้ผม ไม่นุ่งกางเกงแบบเขาล่ะ นี่เราไม่นุ่งกางเกงแล้วนะ เราละมาแล้ว ผมบนหัวเราก็โกนทิ้งหมดแล้ว เราไม่นุ่งกางเกงแล้ว ชีวิตแบบนั้น ความคิดแบบนั้น เขาเรียกว่านิสัยคฤหัสถ์ ที่ขอนิสัย ๕ ปีเขาทำตรงนี้ไง
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
วัดป่าเขาแดงใหญ่
พระธรรมเทศนาสอนพระ
๓ กรกฎาคม ๒๕๕๑
ณ วัดป่าสันติพุทธาราม
#หลวงตาสอนว่า..
สอนใครก็ตาม สู้สอนเจ้าของไม่ได้
โทษใครก็ตาม สู้โทษเจ้าของไม่ได้
เพราะโทษเจ้าของ มันเผาเจ้าของ
ดูตัวโทษที่มันเผาอยู่นี้ ให้มันทันกันซิ
นักปฏิบัติไม่ดูหัวใจนี้ จะดูที่ตรงไหน
__
#หลวงตาพระมหาบัว #ญาณสัมปันโน
#เทศน์อบรมพระ ณ #วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐
"#กิเลสอันเดียวเท่านั้น"
#หลวงปู่สอนว่า..
อยู่บ้านอยู่ห้อง ก็อย่าอยู่เฉยๆ
พุทโธ พุทโธบ้าง
ไปอยู่ไหน ก็ให้มีพุทโธบ้าง
ยุงกัด ฝ่ามือเพี้ยะเลย
ไม่ได้แบบนี้น่ะ
เมตตาให้มันบ้าง
เมตตายไม่เอา
นั่งหาเหตุและผลของมัน
นั่งดูอารมณ์
อารมณ์ดี อารมณ์ร้าย
ให้รู้จัก ให้พิจารณา
——
โอวาทคำสอน
#หลวงปู่สมภาร #ปัญญาวโร
#วัดป่าวิเวกพัฒนาราม
อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ
ณ กุฏีหลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร
วัดถ้ำประทุน อ.บางละมุง
จ.ชลบุรี (วันที่ 3 มิ.ย.2562)
บันทึกธรรม : นรินทร์ ศรีสุทธิ์
"ความชั่ว ไม่มีในที่ลับ ที่แจ้ง
เราไปทำในที่ลับ ทำความชั่ว
มันก็บาปอยู่นั่นเท่าเดิม
เราไปทำอยู่ในที่แจ้ง ที่คนเห็น
มันก็บาปอยู่เท่าเดิม
คนกระทำความดี ทำอยู่ในที่ลับ
ไม่มีใครเห็นก็ดี กราบไหว้บูชา
ไหว้พระสวดมนต์ก็ดี รักษาศีลก็ดี
เจริญภาวนาก็ดี อยู่ในที่คนไม่เห็น
อยู่ในห้องใครไม่เห็นก็ดี
มันก็เป็นความดีอยู่นั้นแหละ
ความชั่วก็เช่นกัน ความดีก็เช่นกัน"
หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
"ใครจะติเตียน นินทา
เป็นเรื่องของผู้ติเตียน นินทา
คนไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก
คนเกิดมาแล้ว หูต้องได้ยินเสียง
เสียงดีเสียงชั่ว ก็ต้องมีเข้ามาในหู
ไปห้ามไม่ให้ผู้อื่นว่าไม่ได้
ภาวนาพุทโธ ตั้งใจลงไป
ให้มั่นคง เหมือนแผ่นดิน
แผ่นดินไม่หวั่นไหว ฉันใด
ใจเราก็อย่าได้หวั่นไหว ฉันนั้น"
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
"คนดี อยู่ที่ตัวเรา ถ้าเราดีเสียแล้ว
ไปอยู่ที่ไหน มันก็ดี เขาจะนินทา สรรเสริญ
จะว่าจะทำอะไร เราก็ยังดี แม้เขาจะข้ามหัวไป
ก็ยังดีอยู่
แต่ถ้าเรายังไม่ดี เขานินทา เราก็โกรธ
ถ้าเขาสรรเสริญ เราก็ยินดี ก็หวั่นไหว
อยู่อย่างนั้น
เมื่อรู้ว่า คนดีอยู่ที่ไหนแล้ว
เราจะมีหลักในการปล่อยวางความคิด
เราจะอยู่ที่ไหน เขาจะรังเกียจ
หรือจะว่าอะไร ก็ถือว่าไม่ใช่เขา
หรือเขาชั่ว เพราะดีหรือชั่ว อยู่ที่ตัวเรา
เราย่อมรู้จักตัวเราเอง ยิ่งกว่าใคร"
หลวงปู่ชา สุภัทโท
“ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นนะ สร้างความดีไว้
ความดีช่วยคุ้มครองเรา บุญกุศลติดตามรักษาเราไป
เส้นทางเดินในสังสารวัฏยาวไกลที่สุดเลย
ระหกระเหินที่สุด น่ากลัวที่สุด มีโอกาสนะชาตินี้
ได้สร้างคุณงามความดีนะ ทำให้เต็มที่”
พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
".."กรรม" ที่เกิดแก่ส่วนรวม
คือ เกิดแก่บ้านเมืองแก่
ประเทศชาติ ตามเหตุผลแล้ว
ต้องเป็นกรรมของส่วนรวม
ของประเทศชาติ ซึ่งมีเรา
ทุกคนรวมอยู่เป็นหนึ่งแน่นอน
ยอมรับว่าความร้อนของ
บ้านเมืองเรา ซึ่งต้องเกิดแต่
กรรมไม่ดีไม่งามแน่นอน เรา
ต้องเป็นหนึ่งในผู้ก่อกรรม
อันยังให้ความเดือดร้อนนั้นเกิด
ถ้าทุกคนหรือมากคน ยอมคิด
ได้เช่นนี้ แล้วยอมแก้ไขด้วย
การพยายามทำกุศลกรรม
คือทำดี ลดละการทำอกุศล
คือทำไม่ดี ให้เต็มสติปัญญา
ความสามารถ ย่อมยังให้เกิด
ผลดีได้ มากคนคิดได้
มากคนทำดี มากคนลดละ
เลี่ยงหลีกการทำความชั่ว
การทำบาปอกุศล
ย่อมยังให้เกิดผลดี
ได้มากเป็นธรรมดา
แก่ประเทศชาติ
ทำเหตุดีมาก
ผลดีย่อมมากแน่นอน "
พระโอวาทธรรม
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
กรมหลวงวิชรญาณสังวร
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.