นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 18 ม.ค. 2025 12:29 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ความเสียใจ
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 12 ส.ค. 2021 7:51 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4806
ในการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร สิ่งที่บ่อนทำลายความสุขของสัตว์โลกมากที่สุดก็คือกิเลส สิ่งที่ส่งเสริมความสุขความเจริญมากที่สุด คือ คุณธรรม

พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า การตอบแทนบุญคุณของคุณแม่ที่สูงสุด คือการช่วยให้ท่านเห็นประโยชน์ มีกำลังใจในการปล่อยวางกิเลสและบำเพ็ญคุณธรรม งานนี้ท่านต้องทำเอง แต่เราช่วยได้ด้วยการชักนำบ้าง ด้วยการเป็นตัวอย่างที่ดีบ้าง ถึงแม้ว่าความรักและความกตัญญูเป็นเครื่องดลบันดาลใจเรา ถ้าจะให้สำเร็จผล สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกสองข้อ คือปัญญาและความใจเย็น ต้องค่อยเป็นค่อยไป

พระอาจารย์ชยสาโร









"..ตราบใดที่ความรู้
ของสูเจ้าของตน
ยังไม่ชัดแจ้ง ก็ให้อาศัย
ครูอาศัยอาจารย์ไปก่อน

เมื่อใดปัญญาขอตนแจ่มแจ้ง
ดีแล้วก็จะเชื่อตนได้ทั้งหมด
มีตนเป็นหลักฐานแก่ตน
มีตนเป็นพยานแก่ตน
มีตนไม่คัดค้านตน

นี้เองจึงได้ประโยชน์สุข
ของธรรม ในผู้รู้ธรรม
ในผู้ถึงคุณของธรรมะ.."

มหาปุญฺโญวาท
หลวงปู่จาม มหาปุญโญ







มีน้อยใช้น้อยถ้าพออยู่พอกินก็เป็นสุข -มีมากถึงพันล้านหมื่นล้าน ให้ตัณหาบังคับตลอดเวลา ก็เป็นทุกข์ตลอดเวลา

หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ







#ก่อนอื่นให้คิดถึงพ่อถึงแม่ของเราก่อน

พ่อแม่นี้มีคุณมากทีเดียว ท่านเทียบไว้ในธรรมว่า พ่อกับแม่ของเรานี้เท่ากับเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง

#นั่นฟังซิ_คุณก็มาก_โทษก็มาก_อยู่กับพ่อแม่

เช่นเดียวกับคุณก็มาก โทษก็มากกับพระอรหันต์ ทำลายพระอรหันต์เพียงองค์เดียวนี้ ฟ้าดินถล่ม ตกนรกอเวจีหลุมแรกเลย

นั่น ทำลายพ่อกับแม่คนใดก็ตาม ลงในหลุมเดียวกัน น้ำหนักแห่งความแผดเผาของกรรมที่ร้ายแรง มีน้ำหนักไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน

#ระหว่างพ่อแม่ของเรา_ที่เราไปทำลายท่าน_เป็นความเสียหาย

เราถึงตกนรกอเวจีขนาดนั้น เช่นเดียวกับทำลายพระอรหันต์ พระพุทธเจ้า และยังสงฆ์ให้แตกแยกจากกันแตกความสามัคคี กรรม ๕ ประเภทนี้เป็นกรรมที่หนักมากที่สุดเลย

#ทีนี้พ่อแม่ของเรา_เลี้ยงดูมาตั้งแต่อยู่ในท้อง_จนกระทั่งบัดนี้

ตกคลอดออกมาแล้ว เอาชีวิตเข้าแลกเลย พ่อแม่ของเราทุกคนไม่ได้มีว่า คนนั้นเป็นคนจน คนนี้เป็นคนมั่งมี เลี้ยงลูกให้ล้มหายตายจากไป เพราะพ่อแม่ไม่สามารถจะเลี้ยงดูได้นั้น เราไม่ค่อยเห็นมีกัน

เห็นแต่ทุ่มลงไป ๆ มีเท่าไรทุ่มลงไปเพื่อลูกเต้าของตัวเอง ไม่คำนึงถึงความทุกข์จนข้นแค้นของพ่อของแม่เลย

#คิดถึงลูกนี้เป็นสำคัญมากกว่าอื่น

เพราะฉะนั้นเวลาโตขึ้นมาจึงโตขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรง โตขึ้นมาด้วยเลือดในหัวอกของแม่เรา

#หลวงตาพระมหาบัว #ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมนักเรียน ร.ร.วิวัฒน์พลเมืองค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี
เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๕ (บ่าย)









ติดคุกอยู่เมืองมนุษย์ ก็ยังไม่เท่าอำนาจกรรมจองจำให้เป็นเปรตอยู่นี่

พระคุณย่าจันดี โลหิตดี








โยม : #ในบรรดาลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่มั่น_จะได้ธรรมขั้นสูงเหมือนกันกับท่านไหมครับ หมายความว่าได้ธรรมเท่ากับหลวงปู่มั่นไหมครับ อาทิ หลวงตามหาบัวหรือองค์อื่นๆที่มรณภาพไปแล้วอัฐิกลายเป็นพระธาตุอย่างนี้ครับ ?

หลวงปู่ : อันนี้บอกไม่ได้ว่าท่านสำเร็จธรรมขั้นไหน
รู้เพียงแต่ว่า...ก่อนมรณภาพท่านจะอธิฐานจิตให้ร่างกายปรากฏแก่ตาโลก หลังจากที่เผาสรีระสังขารเรียบร้อยแล้ว อัฐิจึงไม่เหมือนกับบุคคลทั่วไป เช่นกลายเป็นแก้วไปเลยก็มี

โยม : ปกติหลวงปู่จำวัดกี่ทุ่มครับ

หลวงปู่ : โอ๊ย!...เอาแน่บ่ได้ดอก บางวันก็ ๖ ทุ่ม ตี ๑ ก็มี บางทีนอนหลับเงียบเดียวก็ลุกเลย บางทีปัสสาวะไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ( หลวงปู่เป็นโรคไส้เลื่อนแต่ท่านไม่ยอมผ่าตัด) นี่แหล่ว...เขาว่าสังขารผู้เฒ่า สังขารมันฮ้างแล้ว

โยม : หลวงปู่ไม่นอนมากใช่ไหมครับ ?

หลวงปู่ : อย่างมากก็ประมาณ ๒ ชั่วโมง ได้อยู่ดอก

โยม : หลวงปู่ก็ยังนั่งภาวนาไหวอยู่ใช่ไหมครับ ?

หลวงปู่ : บางครั้งก็ดูหนังสือ บางครั้งก็นั่งภาวนา
บางครั้งก็นั่งกำหนดจิตพิจารณาสังขารร่างกาย อย่างฟันนี้มันออกมาหมดแล้ว เหลืออยู่ซี่เดียว เคยใช้ฟันปลอมแต่เคี้ยวแล้วไม่ถนัดเคี้ยวผักก็ไม่ขาด(หัวเราะ) ทั้งปวดหัว ทั้งแน่นท้องไม่เป็นตาอยู่ว่าอย่างงั้น หมอเขาบอกว่าให้กัดไว้ให้ติดแน่นกับกราม เลยถอดทิ้งไม่รู้เอาไปไหนแล้ว ตั้งแต่นั้นมา ฉันข้าวก็ไม่ได้แน่นท้องเหมือนใส่ฟันปลอม ธาตุขันธ์อันนี้มันไม่ถูกกับของวิทยาศาสตร์เขาตั๊ว.....เลยเหลืออยู่ซี่เดียวพอได้เคี้ยวผักได้

โอวาทคำสอนหลวงปู่หนูเพชร ปัญญาวุโธ
วัดป่าภูมิพิทักษ์ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
(ทายาทธรรมหลวงปู่พรหม จิรปุญโญ)

คัดลอกจากหนังสือประวัติ
หลวงปู่หนูเพชร ปัญญาวุโธ เมื่อปี ๕๗

ผู้คัดลอก : นรินทร์ ศรีสุทธิ์









"อาตมามีความเสียใจอยู่อย่างหนึ่ง
เสียใจอยู่อย่างยิ่งว่า สมัยเมื่อแม่ยังมีชีวิตอยู่
อาตมาก็ไม่มีความรู้อะไร แม้จะบวชแล้ว
ก็มีความรู้ธรรมะโง่ๆ เง่าๆ งูๆ ปลาๆ อย่างนั้นแหละ
ถ้ามีความรู้อย่างเดี๋ยวนี้ ก็จะช่วยแม่ได้มาก
ให้พอใจรู้ธรรมะอย่างยิ่ง แต่แม่ชิงตายไปเสียก่อน
ก่อนที่อาตมาจะมีความรู้พอจะสอนธรรมะลึกๆ
ให้แม่ได้ นี่เป็นเรื่องที่นึกแล้วก็ว้าเหว่อยู่ไม่หาย"

ท่านพุทธทาสภิกขุ






"การดูกิเลส และแสวงธรรม
ท่านทั้งหลาย อย่ามองข้ามใจ
ซึ่งเป็นที่อยู่ของกิเลส และเป็นที่สถิตอยู่
แห่งธรรมทั้งหลาย กิเลสก็ดี ธรรมก็ดี
ไม่ได้อยู่กับกาลสถานที่ใดๆ ทั้งสิ้น
แต่อยู่ที่ใจ คือเกิดที่ใจ เจริญขึ้นที่ใจ
และดับลงที่ใจดวงรู้ๆ นี้เท่านั้น"

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต







"ถ้ากำลังรักแม่ วันนี้ขอให้ความรักของเรา
ปรากฏด้วยการกระทำ และการพูด

ถ้ากำลังโกรธ หรือน้อยใจแม่ ขอให้อภัยท่าน
และวันนี้ตั้งใจทำอะไรสักอย่างให้แม่มีความสุข
อย่าเป็นทุกข์ เพราะการคาดหวัง

แม่ไม่ใช่พระอรหันต์อยู่ในบ้าน แม่เป็นคนธรรมดา
พยายามเอาใจท่านมาใส่ใจเรา และทำให้ความสัมพันธ์
กับแม่ดีที่สุด เท่าที่จะเป็นได้ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่า
จะอยู่ด้วยกันอีกนานเท่าไร"

อาจารย์ชยสาโร ภิกขุ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 94 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO