นวรัตน์ดอทคอม

นักบวช ต้องบวชมาเพื่อละ
ไม่ใช่บวชมาเพื่อกอบโกย

ธรรมะจากองค์หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต







#ธรรมะลูกนอกวัง

เราจงทำความดีเพื่อรักษาจิตของเราให้เป็นสุข อย่าทำความดีเพื่อหวังให้ได้เงิน หวังให้ร่ำรวย หวังให้การงานก้าวหน้า ถ้ามีความหวังอย่างนี้จะลดทอนความดีเรา

บางคนมาบวช มาถือศีล เพราะตั้งความหวังไว้ว่า...ออกไปแล้วจะรวยหรือการงานดีขึ้น อย่างนี้เรียกว่า #ทำความดีแบบหวังผลนะ

ลองคิดพิจารณาแล้วปรับเปลี่ยนความคิดกันเสียใหม่ เราทำความดี...เพื่อรักษาจิตใจของเราให้มั่นคงในความดี เพื่อมรรคผลพระนิพพานนะ เพราะเมื่อใจเราดีซะอย่างเดียว เดี๋ยวอะไร ๆ ที่ดี ๆ มันก็จะเข้ามาสู่ชีวิตเราเองตามบุญวาสนา

เพราะเป็นกฎของแรงดึงดูดนะ
#ดีดึงดี​ #ชั่วดึงชั่วนะ

พระอาจารย์เอกลักษณ์ ปญฺญาคโม
วัดพุทธพรหมยาน เกาะลัด จ.ฉะเชิงเทรา
(ศิษย์พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน สายธรรมหลวงพ่อฤาษีลิงดำ)








.ไม่มีอะไรที่จะศักดิ์สิทธิ์
เท่ากับ..” กฎแห่งกรรม “

.ไม่มีใครมาล้มล้างกฎแห่งกรรมได้
จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ไม่สามารถที่จะ
มาเปลี่ยนแปลงกฎแห่งกรรมได้

.เพราะทำกรรมอันใดไว้
จะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น.
……………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
สนทนาธรรมบนเขา
๕ กรกฎาคม ๒๕๖๒







การที่จะปฏิบัติให้ถึง โลกุตรธรรมนั้นไม่ใช่ของง่าย
ไม่เหมือนจำเอาตามแบบจากตำราแล้วเอามาพูดคุยกันอวดกัน

" ศีล สมาธิ ปัญญานั้น "ต้องปฏิบัติทางด้านจิตใจ
ให้เป็นผู้รู้เองเห็นเองด้วยตนของตนเอง
เริ่มตั้งแต่มีอินทรีย์สังวรขึ้นไป เพราะบรรดากิเลสน้อยใหญ่
เกิดทางอินทรีย์เรานี้ คือทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ความชั่วก็ดี ความดีก็ดี เกิดจากทวารเหล่านี้
เมื่อความชั่วเกิดต้องมีสติรู้เท่าทัน ละป้องกันไม่ให้เกิด
ละออกจากจิตจากใจของเรานี้ เอาจิตเอาใจของเรานี้ละ
เอาจิตเอาใจของเรานี้ปล่อย
เอาจิตใจของเรานี้ปล่อยวางจากความชั่วทั้งสิ้น"

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ







โลกมันเป็นโรงละครโรงใหญ่ เราดูละครเท่านั้น มันไม่มีอะไรเลย ไปยึดติดไม่ได้เลย ยึดว่าฉันเป็นเจ้าเป็นนายเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันแสดงมาชั่วระยะหนึ่งแล้วก็ออกจากโรงไป อะไรมันผ่านมาก็ผ่านไป มันไม่มีอะไรให้เรายึดไว้ให้มั่นคงเลย

เราเป็นเพียงผู้ดู เป็นเพียงผู้รับรู้เท่านั้น อย่าดูโลกอย่างคนโง่ดู คนโง่เขากอดหมดเลย ของร้อนก็เข้าไปกอดแล้วก็บ่นว่า “ทำไมต้องเป็นเรา ทำไมต้องเป็นเรา” ก็แกกอดอยู่แล้วจะไม่ให้มันร้อนได้อย่างไร พอทุกข์ก็บ่นว่า “ทำไมต้องเป็นเรา ทนอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว ทำไมต้องเป็นเรา” อ้าว ก็แกกอดอยู่แล้วจะไม่ให้มันร้อนได้อย่างไร ก็วางมันสิ ดูมันสิ เดี๋ยวมันก็จากเราไปแล้ว

ชีวิตเราตั้งแต่ต้นทางยันปลายทางมีเรื่องราวมากมายก่ายกองจนนับไม่ได้ มันล้วนแต่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ขอให้เราดูมันเป็นเท่านั้น พอเราดูมันเป็นแล้ว มันสนุกนะโลกใบนี้ แต่ถ้าดูไม่เป็น ยึดมันตลอด กอดมันตลอดมันก็เผาเรา

ไฟมันร้อนไหม ไฟเขาไม่ได้บอกเลยว่าเขาร้อน มันเป็นธรรมชาติของเขาเอง แล้วเราร้อนไหม เราก็ไม่ได้ร้อน เราก็รู้จักไฟ แต่ถ้าเราไปจับไฟเมื่อไร ถามว่าไฟร้อนไหม มันไม่ร้อนแต่เราร้อน

เช่นเดียวกันกับทุกข์ ความทุกข์มันทุกข์ไหม มันไม่ทุกข์ มันเป็นเพียงเรื่องราวที่เกิดแล้วก็ดับเป็นธรรมดา แต่เมื่อเราไปยึดเราก็ทุกข์ ไม่ใช่ความทุกข์มันเป็นทุกข์นะ มันแค่สมมุติว่าทุกข์ แต่อันที่จริงมันคืออาการที่เกิดดับ แต่พวกเราไปยึด เราเลยทุกข์ ไม่ใช่เรื่องราวนั้นมันเป็นเป็นทุกข์

หากเราไม่ยึด เราเป็นผู้ดูเหมือนเราดูไฟ เราเพียงรู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาและผ่านไป เกิดแล้วดับไป มันก็เท่านั้น มันไม่ทุกข์เลย

ดูโลกให้รู้จักโลก อยู่กับโลกให้รู้จักโลก เหมือนเราไปดูฟุตบอลก็ต้องรู้กติกาฟุตบอล ถ้าเราพยายามดูความคิดของเราให้ดี ชีวิตเราจะเห็นมงคลอันน่ายินดี ชีวิตเป็นของมีคุณค่า

การเกิดขึ้นมาต้องมีการสร้างบารมีมามากมายก่ายกองและเราก็มีโอกาสที่จะสร้างบารมีอย่างนี้ต่อไปอีก ความคิดตัวเดียวเท่านั้นที่ทำลายตัวเราเอง

(บางส่วนจากการสนทนาธรรม)
#พระอาจารย์สุธรรม #สุธัมโม
วันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒








การบำเพ็ญภาวนา
อยู่โดยสม่ำเสมอ
จะทำให้เห็นคุณค่า
ของตัวของธรรม
และของครูอาจารย์ขึ้น
โดยลำดับกว่าปกติธรรมดา
ที่ไม่ได้ทำภาวนาเลย

จึงควรพยายามเสมอ
ได้มากได้น้อยก็ขออย่าให้ขาด
จะดีไปโดยลำดับทางด้านจิตใจ

#หลวงตามหาบัว






#หลวงปู่หล้าตอบปัญหาธรรม

คำถาม : ดิฉันขอรบกวนหลวงปู่ช่วยอธิบายให้ลูกหลานมีอุบายในการพิจารณาขันธ์ ๕ เพื่อการปฏิบัติธรรมจะได้เจริญก้าวหน้าต่อไปค่ะ พวกดิฉันเปรียบเหมือนกับบัวใต้น้ำ หลวงปู่โปรดเมตตาสงเคราะห์ด้วยเจ้าค่ะ ใจก็อยากจะพ้นทุกข์ในวัฎฎสงสารเป็นที่สุด แต่ก็ยังตะเกียกตะกายไม่พ้นสักที

คำตอบ : แม้ขันธ์ทั้ง ๕ มีรูปขันธ์ ที่มี ดิน น้ำ ไฟ ลมประชุมกันเรียกรูปขันธ์นั่นเอง ส่วนนามขันธ์ ๔ มีเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เหล่านี้ก็มีความหมายอันเดียวกันกับที่ว่ามาแล้วนั้น คือเกิดขึ้นแปรปรวนและดับไป หาระหว่างมิได้ด้วย

การที่เราไปหลงยึดถือว่าเป็นเรา เป็นเขา เป็นสัตว์ เป็นบุคคลนั้น หรือเป็นของเราเป็นของบุคคล เป็นของสัตว์นั้น เราควรหมดปัญหาที่จะไปสำคัญอย่างนั้น ไม่ต้องไปสมมติวางมันหรอก มันไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลแล้วเราจะไปสมมติเอาทำไม

เราจะไปสมมติวางทำไม ถ้าเราไม่สมมติว่าได้ว่าเสีย ความสมมติก็จบลง เพียงนั้นความดีใจเสียใจจะเกิดจากประตูใดอีก เหตุที่ดีใจเสียใจก็เพราะยืนยันว่านั่นเรา นั่นผู้อื่น นั่นของผู้อื่น เรื่องจึงไม่มีการจบคล้ายๆ กับหยอกเงา เมื่อเราหยอกเงา เงาก็หยอกเรา ถ้าไม่มีเราอยู่ในนั้นเงาของเราก็ไม่ต้องมีดังนี้แหละ เป็นสติ-ปัญญาชั้นสูง มีทั้งศีล สมาธิ และญาณปัญญาเป็นทัพธรรมรวมอยู่ขณะเดียวด้วย​ พูดต่อไปอีกให้ชัดว่าเมื่อเราไม่ยืนยันเอาขันธ์ ๕ ไม่ยืนยันว่าขันธ์ ๕ เป็นเราก็รู้เท่าเราแล้วมิใช่หรือ และก็รู้สิ่งที่ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของๆ เราแล้วไม่ใช่หรือ

ท้ายนี้ด้วยเดชพระพุทธศาสนา พวกเราทั้งหลาย จงหลุดพ้นจากความหลงตนที่เคยหลงว่าขันธ์ ๕ เป็นตน ตนเป็นขันธ์ ๕ จงจบลงกันเพียงแค่นี้เทอญ เมื่อสิ้นลมปราณไปแล้วก็ไม่มีหนทางจะไปยืนยันเอาขันธ์ ๕ อีกแล้ว พระพุทธศาสนาจบลงเพียงแค่นี้...

หลวงปู่หล้า






กรุณาพักผ่อนใจ
ด้วยการภาวนามากๆ
ใจจะได้สบายขึ้นโดยลำดับ
การภาวนานั่นแล
คือยารักษาใจได้ดี

#หลวงตามหาบัว





“เมื่อทำดีแล้ว ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา
ต้องคิดว่านั่นเป็นสมบัติของเขา ไม่ใช่ของเรา
ส่วนความดีที่เราทำ ก็ย่อมอยู่ที่ตัวเรา
คนทำผิดนั้นดีกว่าคนไม่ทำ ทำผิดยังแก้ให้ถูกได้
แต่คนไม่ทำนี่สิ ไม่รู้จะไปแก้อย่างไร เพราะไม่รู้
ว่าตนเป็นคนผิดหรือคนถูก การไม่ทำนั่นก็ผิด
อยู่ในตัวแล้ว”

ท่านพ่อลี ธัมมธโร







"ทุกอย่างในโลกนี้ แม้แต่เลวที่สุด
ถ้ามองเป็น ก็เป็นประโยชน์
อย่างน้อย ก็ได้ความรู้ ได้ความจริง"

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ประยุตฺโต)