นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 18 ม.ค. 2025 7:34 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: การปฏิบัติธรรม
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 26 ธ.ค. 2021 10:22 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4806
…การฟังธรรม ต้องฟังด้วยสติ
คอยฟังเสียงที่เข้ามาสัมผัสกับหู
จะพิจารณาตามไปก็ได้
จะเกิดความเข้าอกเข้าใจ
จะทำให้ปล่อยวางได้
ถ้าพิจารณาไม่ทัน
ก็ให้มีสติเกาะอยู่กับเสียงไปเรื่อยๆ
อย่าไปคิดเรื่องอื่น
ใจก็จะสงบเย็นได้
การทำสมาธิ หรือทำใจให้สงบ
ด้วยการฟังเทศน์ฟังธรรม
ก็เป็นวิธี อีกวิธีหนึ่ง
……………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๑๕ กัณฑ์ ๓๘๗
วันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑







#วันนี้วันโกน
#ตั้งเจตนารักษาศีล8
#บำเพ็ญเนกขัมบารมี
———
องค์สมเด็จพระชินสีห์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า สัมพเกษี ถูกแล้ว บารมีทั้งหมดนี้ให้ใช้กำลังใจ สร้างกำลังใจให้มันทรงอยู่ในใจทั้งหมด ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ไม่มีอะไรบกพร่อง คือ

๑. จิตของเราพร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ

๒. จิตพร้อมในการทรงศีล นี่ซิบรรดาพุทธบริษัท พร้อมในการทรงศีลเป็นปกติ ไม่ใช่ปล่อยให้ศีลมันหล่นไป

๓. จิตพร้อมในการทรงเนกขัมมะเป็นปกติ เนกขัมมะก็แปลว่าการถือบวช บวชผมยาว บวชผมสั้น บวชโกนหัว ไม่โกนหัว ได้ทั้งนั้น

๔. จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหัตประหารอุปาทานให้พินาศไป

๕. วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ

๖. ขันติ มีทั้งอดทั้งทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์

๗. สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลาว่าเราจะจริงทุกอย่าง ไม่มีอะไรในคำว่าไม่จริงสำหรับใจเรา ในด้านของการทำความดี

๘. อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะ

๙. เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดีไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตนเสมอด้วยบุคคลอื่น

๑๐. อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ ในเมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว อย่างที่เธอเป็นวันนี้ อุเบกขาบารมีตัวนี้ พระองค์ทรงตรัสว่า ตรงกับภาษาไทยที่ใช้กันเป็นปกติว่า ช่างมัน ขันติบารมีนี่ก็เหมือนกันใช้คำว่าช่างมัน ตรงตัวดี

#หลวงพ่อฤาษี
#วัดท่าซุง








นั่งอยู่ที่นี่ แล้วก็จากไปที่นั่น
นั่งที่นั่น ลุกจากที่นั่นก็จากมาที่นี่

มันจากอยู่ตลอดเวลานะ
เรื่องความจากนี่

เราอย่าไปถือว่า
จากนั้นจากนี้
จากเมืองนั้นมาเมืองนี้
จากบ้านนี้ไปบ้านนั้น

จากสถานที่นี่ ไปสู่สถานที่นั่น
ก็เรียกว่า “จาก”
คือ จากใกล้จากไกล
จากอยู่โดยลำดับลำดา
แห่งโลกอนิจจัง

มันเป็นของไม่เที่ยงอยู่เช่นนี้
มีความเปลี่ยนแปลงแปรปรวนอยู่เสมอ

สิ่งนี้เรานำมาพิจารณาให้เป็นอรรถเป็นธรรมได้
โดยหลักของ “ไตรลักษณ์”
เป็นทางเดินของผู้รู้จริงเห็นจริง

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๙





ผู้นับถือศาสดา ศาสนาอื่น
ปนกับพระพุทธศาสนาแล้ว..

ย่อมเป็นก้างขวางคอ
ของการเป็นพระโสดาบัน..
-------------------
#หลวงปู่หล้า #เขมปัตโต







ตอนอายุน้อย
เรามักจะ..
มองเวลาว่าไหลช้า
เหมือนแม่นำ้คดเคี้ยว

พออายุมากแล้ว
เราจึงรู้ว่าที่จริงแล้ว
เวลาไหลเร็วมาก
เหมือนนำ้ตก

เวลาไม่เคยหยุดไหล
แม้แต่วินาทีเดียว

พระพุทธองค์..
จึงตรัสถามว่า
เวลาล่วงไปๆ
เรากำลังทำอะไรอยู่?

#พระอาจารย์ชยสาโร








#หลวงปู่แฟ๊บ #สุภัทโท

วัน เดือน ปี ผ่านไป
อายุสังขารร่างกายของคนเรา
ก็แก่ไปตามกาลเวลา

นับวันความตาย
ก็ใกล้เข้ามาทุกทีๆ
ทั้งๆ ที่ใครก็ไม่อยากได้
ไม่ต้องการ

แต่สุดท้าย
ก็ต้องโดนยัดเยียดให้
โดยไม่มีข้อปฏิเสธ
หรือยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

ฉะนั้น คนที่ยังมีโอกาส
ทำคุณงามความดี
อย่าพากันนิ่งนอนใจเสีย
ให้พากันหาที่พึ่ง
ที่อาศัยเอาไว้

อย่าปล่อยให้เวลา
ล่วงผ่านไปเฉยๆ
วันเวลานั้นมีคุณค่ามาก

หลวงปู่แฟ็ป สุภัทโท






การปฏิบัติธรรม ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไหน ในเมื่อกายยาว ๑ วา หนา ๑ คืบ นี้แลเป็นตัวธรรม เป็นตัวโลก เป็นที่เกิดแห่งธรรม เป็นที่ดับแห่งธรรม เป็นที่ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้อาศัยบัญญัติไว้ซึ่งธรรมทั้งปวง

แม้ใครใคร่จะปฏิบัติธรรม ก็ต้องปฏิบัติที่กายและใจนี้ หาได้ปฏิบัติที่อื่นไม่ ดังนั้น ถ้าตั้งใจจริงแล้ว นั่งอยู่ที่ไหน ธรรมก็เกิดที่ตรงนั้น นอนอยู่ที่ไหน ยืนอยู่ที่ไหน เดินอยู่ที่ไหน ธรรมก็เกิดที่ตรงนั้น

พระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)








"อานิสงส์ทาน" ทำให้เกิดมาร่ำรวยในภพหน้าชาติหน้า
"อานิสงส์ศีล" ทำให้เกิดมามีรูปร่างหน้าตาสวยงามในภพหน้าชาติหน้า
"อานิสงส์ภาวนา" ทำให้เกิดมามีสติปัญญาในภพหน้าชาติหน้า
อย่าไปประมาทเห็นว่าเรื่องทานเป็นเรื่องเล็กน้อยนะ เพราะทานเป็นหนทาง ไม่อย่างนั้นแล้วเกิดมาชาติหน้าจะลำบาก แม้พระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ก็ยังต้องอาศัยทานในการสร้างบารมีก่อนที่จะได้มาเป็นพระพุทธเจ้า ยิ่งถ้าเรามีโอกาสทำบุญกับพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตสาวก หรือแม้กระทั่งพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อยู่ในศีลในธรรม อานิสงส์ทานอันนั้นจะติดภพติดชาติของเราไปอีกนานเท่านาน ไม่ว่าเราไปเกิดในภพใดชาติใดจะเป็นผู้ร่ำรวย ไม่อดอยาก ไปอยู่ ณ สถานที่ใด อานิสงส์ทานจะทำให้เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยปัจจัย ๔ ข้าวน้ำโภชนาอาหารไม่ขาดตกบกพร่อง ​
ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราไม่มีอานิสงส์ทาน เกิดมาภพใดชาติใด เราก็จะตกยากทุกข์ระกำลำบาก อานิสงส์ทานนั้นก็เหมือนกับเวลาเราเปิดประตูน้ำ ถ้าเปิดกว้างมาก น้ำก็ไหลเข้าออกมาก แต่ถ้าเปิดแคบ น้ำก็ไหลเข้าออกน้อยตามไปด้วย หรือถ้าเราปิดเลย ผลที่สุด น้ำมันก็แห้งขอดลงไปเรื่อยๆจนแห้งกรัง นี้ก็เหมือนกับการที่เราไม่เคยให้อะไรกับใครเลย คนอื่นเขาก็จะไม่ให้อะไรแก่เราเช่นเดียวกัน

หลวงตาอินทร์ถวาย สันตุสสโก
คัดจาก “อานิสงส์ทานเป็นหนทาง”
จากหนังสือ “แนวทางครูบาอาจารย์พาดำเนิน” เล่ม ๑ หน้า ๑๐๐-๑๐๑


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 32 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO