นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 18 ม.ค. 2025 7:46 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: กระแสจิต
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 28 ธ.ค. 2021 8:05 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4806
…ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มียกเว้น
“ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาทั้งหมด “

.เป็นทุกข์ทั้งหมดถ้าไปอยาก
“ ถ้าไม่อยากจะทุกข์ อย่าไปอยากได้มัน “.
……………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
สนทนาธรรมบนเขา ชีโอน
๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๒






"กรรมชนิดหนึ่งที่พาให้มาเป็นเช่นนี้"

มนุษย์เราเกิดเสวยชาติเป็นคน มีสุขบ้าง ทุกข์บ้าง ตามวาระของกรรมที่อำนวย

"มนุษย์ก็มีกรรมชนิดหนึ่งที่พามาให้เป็นเช่นนี้"

ซึ่งล้วนผ่านกำเนิดต่างๆ มาจนนับไม่ถ้วน

ให้ตะหนักในกรรมของสัตว์ว่า มีต่างๆ กัน

เพราะฉะนั้น "ไม่ให้ดูถูกเหยียดหยามในชาติกำเนิด ความเป็นอยู่ของกันและกัน"

และสอนให้รู้ว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมดีกรรมชั่วเป็นของๆ ตน

พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน








" ร่างกายของคนเรานี้
ได้มาจากพ่อแม่ พ่อแม่
ถือว่าเป็นพระอรหันต์ของ
ลูก มีเมตตากับลูกเสมอ

การตอบแทนคุณท่าน
คือการปฏิบัติให้มีความดี
เป็นคนดี ทั้งกาย วาจา
และใจนี่เป็นการตอบแทน
คุณพ่อแม่ที่ดีที่สุดแล้ว

พระสงฆ์เราก็ถือว่าเป็น
ลูกของพระพุทธเจ้า เป็น
ลูก เป็นศิษย์ การปฏิบัติ
ตามคำสอนของ
พระพุทธองค์ ถือเป็นการ
สืบทอดรักษาพระธรรม
วินัย เป็นการรักษาพระ
พุทธศาสนา ยิ่งปฏิบัติจน
ถึงขั้นสูงสุดของหลัก
ธรรมคำสอน คือการถึง
ซึ่งพระนิพพาน

ผลได้ทั้งตัวเองผู้ปฏิบัติ
ทั้งสืบทอด รักษาพระ
พุทธศาสนา เป็นการตอบ
แทนคุณพระพุทธองค์
ที่ได้สั่งสอนไว้ "

โอวาทธรรม
หลวงปู่ศรี มหาวีโร






“ไม่มีอะไรที่จะเป็นไปตามใจเรา
มันเป็นไปตามธรรมชาติ

ความตาย ความเจ็บไข้ ความวิบัติ
เหล่านี้ มันเป็นของธรรมดา
ไม่ใช่มีมาให้เรากลัว ไม่ใช่มีไว้สำหรับ
ให้เรากลัว แต่มีไว้สำหรับให้เราเรียน
ให้เราศึกษา ให้เรากล้าเผชิญหน้า

สิ่งที่ไม่ตรงกับความต้องการของเรานั่นแหละ
มันมาเพื่อให้เราเรียน หรือมาเพื่อสอบไล่
ความเก่งของเรา”

ท่านพุทธทาสภิกขุ








"ผู้ชนะ ย่อมก่อเวร
ผู้แพ้ ย่อมนอนเป็นทุกข์
ผู้ละความชนะ และความแพ้
เสียได้แล้ว ย่อมสงบระงับ
นอนเป็นสุข"

หลวงปู่หา สุภโร







“เราไม่ได้บิณฑบาต เอาข้าว
เราบิณฑบาต เอาคน

ด้วยการก้าวเดิน อย่างตื่นรู้
ด้วยการมีชีวิต ที่สุขสงบ
ด้วยการมีชีวิต ที่เป็นแบบอย่าง และ
ด้วยการเป็นอยู่ ให้ดูอย่างนี้ต่างหาก

ที่จะมีผู้คนค่อยๆ เห็น ค่อยๆ รู้
และ เกิดศรัทธาในพระศาสนาขึ้น
ในจิตใจ ของชาวตะวันตก

หลวงปู่ชา สุภัทโท







ท่านอาจารย์มั่น ฯ ท่านว่า

#เราต้องการสอนคนให้เข้าถึงอริยสัจธรรม #ถึงความเป็นอริยบุคคล

ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องย้ำถึงความจริงข้อนี้ให้หนักที่สุด เพราะถ้าไม่เข้าใจถึงความจริงแห่งความเชื่อนี้แล้ว จะเป็นการกั้นหนทางที่จะเข้าสู่ความจริงเป็นอริยะเสีย

เราทุกคนก็พยายามอย่างยิ่งที่จะปรารถนาพระนิพพาน แม้การบำเพ็ญการกุศลต่าง ๆ ก็กล่าวกันว่า ‘นิพพานปจโยโหตุ ขอให้เป็นปัจจัยแห่งพระนิพพานเถิด’

แม้ว่าเราจะพึงทราบว่าผู้ใดผู้หนึ่ง ทรงความเป็นอริยบุคคล เราก็จะให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง นี้เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่า คุณธรรมอันสูง คือความเป็นอริยะนี้ เป็นยอดปรารถนาของบรรดาพุทธศาสนิกชน

ก็แต่ว่าเบื้องต้นในการดำเนินไปสู่ความเป็นอริยนี้ จำเป็นที่จะต้องมองดูความจริงข้อนี้คือ

“ให้ถือเอาเราเป็นที่พึ่งอาศัย” อันเป็นพระดำรัสของพระพุทธเจ้า

ท่านอาจารย์มั่นฯ ท่านได้เน้นหนักในข้อที่ว่า ต้องไม่ถือสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งนอกจากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นี้ เพื่อเป็นการปูพื้นฐานในการปฏิบัติเพื่อความก้าวหน้า

ซึ่งท่านได้คำนึงความข้อนี้ว่า ต้องให้ผู้ที่จะดำเนินจิตตามเรา เราจะต้องแนะนำให้เห็นจริงในข้อนี้เสียก่อน จึงจะสอบความจริงในชั้นต่อไป

เป็นอันได้ความละเอียดแน่ชัด พร้อมกับความสว่างไสวภายในของท่าน ในข้อความ ๓ ประการ แห่งพระดำรัสของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ

๑. ให้ถือเราเป็นมูลเหตุ ๒. ให้ถือเราเป็นเนติแบบฉบับ ๓. ให้ถือเราเป็นที่พึ่งอาศัย

#ธรรมประวัติหลวงปู่มั่น
#โดยหลวงพ่อวิริยังค์








#ในวาระสุดท้ายท่านอาจารย์มั่น #ท่านเล่าให้ผู้เขียน (#หลวงปู่วิริยังค์) #ฟังว่า

เราได้กำหนดทวนกระแสจิต คือเมื่อพิจารณาไปแล้วทุกอย่าง นับมาแต่การพิจารณาดูตัวทุกข์ คือขันธ์ทั้ง ๕ นั้นแล้ว

และพิจารณาให้เป็นวิปัสสนา คือให้เห็นว่าขันธ์ทั้ง ๕ เท่านั้นเป็นธาตุ เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

และพิจารณาที่ธรรมทั้งหลายอันละเอียดวิเศษที่สุด จนเข้าใจว่าเป็นผู้บรรลุ ขจัดออกไปทั้งหมดโดยอนุโลมิกญาณแล้ว

ท่านก็ทวนกระแสจิต กลับมาหา ฐิติภูตํ คือที่ตั้งของจิต ที่ท่านอาจารย์กล่าวว่า เป็นต้นเหตุการณ์ทวนกระแสจิตที่เป็นอนุโลมิกญาณ

ให้เห็นว่า “ใครผู้รู้ ใครผู้เห็น” คือให้รู้ว่าเป็นผู้ไม่ตาย ให้เห็นว่าเป็นธาตุ เพราะได้พิจารณาเห็นโดยญาณนั้นเป็นความจริง

อันตัว “ผู้รู้ เห็นอยู่ที่ไหน” อาศัยญาณที่บำเพ็ญขึ้นจนพอแก่ความต้องการ อันที่เรียกว่า อนุโลมิกญาณนั้นแล้ว ก็จะปรากฏว่าได้เห็นตัว “ผู้รู้ ผู้เห็น” “ผู้ไม่ตาย”

คราวนี้ก็จะถือได้ว่าเป็นองค์มรรค ภาเวตพฺพนฺติ เม ภิกฺขเว มรรคควรเจริญให้มาก

ผู้ที่มาเห็นตัว “ผู้เห็น” กล่าวว่า เป็นผู้หายความสงสัยแล้วโดยสิ้นเชิง ไม่ต้องห่วงว่าอาจารย์โน้นถูก อาจารย์นี้ผิด เรากำลังทำนี้จะถูกหรือจะผิด ไม่มีในจิตของผู้เป็นเช่นนี้

ถ้ายังไม่ถึงเช่นนี้ ก็จะยังสงสัยอยู่ร่ำไป แม้ใครจะมาเทศน์ให้ฟังเท่าไรก็แก้สงสัยไม่ได้

ท่านเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า ขณะนั้นปรากฏว่าโลกนี้เตียนราบประดุจหน้ากลองชัย เรียบเอาจริง ๆ

ท่านได้ย้ำให้ข้าพเจ้าฟัง แต่การราบเรียบเหมือนหน้ากลองชัย คือการอยู่ในสภาพอันเดียวกัน ได้แก่ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย และความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน

แต่การปรากฏขึ้นในจิตนั้น เป็นเช่นนั้นเพราะว่าไม่มีอะไรมาข้องอยู่กับใจ ในจิตนั้นเป็นเช่นนั้น

เพราะท่านพูดกับข้าพเจ้าต่อไปว่า นี้เป็นการที่ได้หนทางเป็นครั้งแรก ในใจของเราให้หายสงสัยว่า จะเป็นอะไรต่อไป แน่ชัดในใจโดยปราศจากการกังขา

ในที่นี้จึงรวมไว้ซึ่ง อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ เป็นที่รวมกำลังทั้งหมด เท่ากับเป็นการรวมกองทัพธรรมใหญ่ พร้อมที่จะขยี้ข้าศึก คือ กิเลส ให้ย่อยยับลงไป

ในเมื่อการรวมกำลังนี้สมบูรณ์เต็มที่แต่ละครั้ง เพราะความที่ได้ขยี้ข้าศึกคือกิเลสนี้เอง จึงเกิดเป็นวิสุทธิ ๗ ประการ

ครั้นเมื่อเป็นดังนี้บริบูรณ์แล้ว คำว่าชั้นนั้นชั้นนี้ก็ไม่ต้องกล่าวถึง เพราะเหตุได้ตัดเสียแล้วซึ่งอุปาทาน

#ประวัติหลวงปู่มั่น
#โดยหลวงพ่อวิริยังค์








เราป่วยเข้าโรงพยาบาล
คิดในใจไม่อยากตาย
อยากหายเท่านั้น

คิดอย่างนั้น
มันไม่ถูก เป็นทุกข์

ต้องคิดว่า
หายก็หาย ตายก็ตาย
เพราะเราแต่งไม่ได้
นี่เป็นสังขาร
คิดอย่างนี้ถูก

ตายก็สบาย
หายก็สบาย
ต้องได้อย่างหนึ่งจนได้
....
#หลวงปู่ชา #สุภทฺโท


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 43 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO