พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
พุธ 29 ธ.ค. 2021 5:33 am
#ทำบุญอย่างไรให้ได้บุญ
การทำบุญด้วยความสงบ อย่างที่ใส่บาตรก็ทำด้วยความสงบ บางทีการใส่บาตรอย่างนี้บางคนก็ไม่ค่อยเข้าใจ บางคนเขาก็ขอพร ใส่บาตรแล้วก็นั่งขอพร พระท่านก็เกรงใจโยม บางรูปไปกันใหญ่เป็นการน้อมลาภเข้าตัว ทุกวันนี้เขาก็ทำกันทั่วประเทศละทีนี้ เพราะตัวอย่างมันกระจายทั่วไป
เราจะสอนให้บอกว่า ที่ไม่ให้พรเพราะว่าเอาแบบพระพุทธเจ้ามาใช้ ถ้าให้พรแล้วมันผิดพระวินัย วินัยพระปาฏิโมกข์ของพระมีข้อหนึ่งที่ว่ายืนให้พรแล้วโยมก็จะไม่ได้บุญ ก็เป็นบาป แทนที่ให้พรเป็นบุญแต่ท่านกลับว่าเป็นบาปเพราะว่าผิดพระวินัย
เหตุนั้นท่านจึงให้บอกว่าให้มารับพรที่วัด ถ้าคนไหนจะเอาพรหรือคนไหนจะเอาพรวันเกิด ก็ต้องเอาเก้าอี้มาให้ท่านนั่งแล้วก็นั่งรับพร แต่บางรูปให้พรแล้วโยมนั่งมันผิดวินัยในเสขิยวัตรข้อท้ายๆ ก็เลยบอกให้เข้าใจ เขาก็เข้าใจกันหมดแล้ว แต่วัดอื่นเขาก็ยังทำอยู่ บางทีพวกมหาเปรียญเรียนสูง จบประโยคสูงก็ไม่รู้ความหมาย เขาก็ทำอยู่ แต่หลวงพ่อก็ทำตามหลักพระวินัยที่ว่า #ต้องรับด้วยความสงบนิ่งแล้วก็แผ่เมตตาจิต...
โอวาทธรรม
หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร
…หลังจากที่ร่างกายตายไปแล้วนี้
ไม่ต้องมานึกถึงจิตสุดท้ายหรอก
นึกยังไงก็นึกไม่ออก
.” เพราะตอนนั้น บัญชีบุญบัญชีบาป
มันจะมาเป็นผู้จัดการกับจิตของเรา “
.ถ้าเราอยากจะให้จิตเราไปทางที่ดี
เราต้องทำบุญให้มันมากกว่าบาป
“ ไม่ใช่มารอจิตสุดท้าย “.
……………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๒
“ผู้ปฏิบัติธรรม คืออบรมจิตให้กว้างขวาง มีความเผื่อแผ่เจือจาน มักน้อย สันโดษ ประกอบด้วยเมตตาภาวนาเฉลียวฉลาดในการพิจารณาธรรมทั้งหลาย
ธรรม สอนโลกอยู่เช่นนั้น ไม่ขาดสูญหายไปจากโลก ชาติทุกข์ ชราทุกข์ มรณทุกข์ สอนโลกอยู่เช่นนั้น ทุกข์ สุข นิพพาน มีอยู่ในโลกไม่ขาดสาย
พระพุทธเจ้าไม่เกิดก็มีอยู่เช่นนั้น ของจริงและของไม่จริงมีอยู่เช่นนั้น พระนิพพานก็มีอยู่เช่นนั้น ไม่สูญไปจากโลก พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ก็มีอยู่ในโลก สร้างบารมีอยู่เช่นนั้น นรก สวรรค์ พระนิพพานก็มีอยู่เช่นนั้น กุศล อกุศล อพยากฤต ก็มีอยู่เช่นนั้น
เราต้องขวนขวายสร้างบารมี เพื่อจะให้สิ้นทุกข์ไปให้ได้ คนดีคนชั่วก็มีประจำอยู่ในโลกเช่นนั้น โลกีย์ โลกุตระ เป็นคู่ปรับกัน มืดสว่างอยู่ในโลกนี้ทั้งนั้น ครบบริบูรณ์ทุกอย่าง แล้วแต่เราจะปฏิบัติเลือกเอา
ส่วนธรรมของพระพุทธเจ้าไม่มีกิเลส มีแต่ความวาง จิตมันผ่องใสแล้วมันเห็นเอง ขอให้จิตมันผ่องใสบริสุทธิ์เป็นกระจกเถอะนะ จะสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ด้วยตาภายใน”
.
หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
คัดจากหนังสือ “ธรรมลี เศรษฐีธรรม” หลวงปู่ลี กุสลธโร
พระอริยเจ้าผู้เป็นดั่งเศรษฐีธรรม โดยพระมหาธีรนาถ อคฺคธีโร
อย่า นั่ง นอน ซือๆหลาย
ภาวนาแหน่ พิจารณาแหน่ มันบ่ยากดอกข่อยว่า มันยากนำพวกเจ้าบ่เฮ็ดซือๆดอก
หลวงปู่สมภาร ปัญญาวโร
ร่างกายเป็นภาระอันหนัก เพียรชำระใจให้พ้นจากการเกิด
หลวงพ่อจิตโต
วางใจให้ถูก คุณจะไม่ทุกข์ เข้าใจนะ!!
หลวงปู่หา สุภโร
#หลวงปู่พุธตอบปัญหาธรรม
ถาม : คนที่ตายแล้วกลับมาเกิดใหม่ จริงหรือไม่ วิญญาณออกจากร่างไปสู่ร่างใหม่เหมือนกับถอดเปลี่ยนเสื้อผ้าเก่าสวมชุดใหม่นั้น หรืออย่างไร
หลวงพ่อ : คนตายไปแล้วถ้าหากยังมีกิเลสเป็นเหตุให้เกิด ก็ต้องกลับมาเกิดอีก แต่จะเกิดมาเป็นอะไร สุดแท้แต่กรรมที่ทำไว้ วิญญาณเป็นของกลาง ถ้าตายไปแล้วิญญาณตัวนี้มันไปยึดอะไร หรือเคยทำบาปทำกรรมอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่มีชีวิตเอาไว้ ถ้าบาปกรรมอันนั้นจะให้ผลก็ไปเกิดเป็นสิ่งนั้น ทีนี้ในเมื่อท่านถามถึงคนที่ตายไปแล้วกลับมาเกิดใหม่ หรือไม่ อันนี้จริง ความตายของคนนี้ มีลักษณะ ๒ อย่าง
ถ้าคนธรรมดาตาย ตายอยู่ในขณะที่จิตกำลังวุ่นวายไม่มีสมาธิ พอตายไปแล้วนี้ วิญญาณออกจากร่าง เขาจะรู้สึกว่ามีตัวติดไปด้วย แล้วเขาจะไม่มีความรู้สึกว่า ร่างกายที่เขาอาศัยอยู่ก่อนนั้นเป็นของเขา แม้ว่าผู้ที่จะเอาศพเขาไปเผา หรือเอาไปฝังก็ตาม เขาไม่รู้เลยว่า เอาอะไรไปฝัง เอาอะไรไปเผาเพราะเขาไม่รู้ว่าเป็นกายเดิมของเขา เขาลืมหมดสิ้น เพราะว่าในความรู้สึกของเขานั้น เขามีกายใหม่ติดตัวอยู่ อันนี้เป็นลักษณะของคนตายธรรมดา (ปุถุชน)
ถ้าหากคนตายในสมาธิ ถ้าสมาธิท่องเที่ยวอยู่ในกามาวจรกุศล พอตายลงไป ความรู้สึกในจิตของเขาก็กลายเป็นว่า เขามีร่างเป็นเทวดา แต่ผู้นั้นจิตอยู่ในฌาน ตายลงไปนี้จะรู้สึกว่ามีดวงจิตอันเดียวเท่านั้น ไม่ปรากฏว่ามีร่างกาย อันนี้จากการที่อาตมาได้ลอง ๆ ตายดู หลายครั้งหลายหน แล้วมันเป็นอย่างนั้น ส่วนที่จะมาเกิดใหม่นี้ไม่ได้หมายความว่าตายจากคนแล้ว มาเกิดเป็นคน วิญญาณเป็นของกลาง ตายจากคนอาจจะกลายเป็นสัตว์ ก็ได้สุดแท้แต่กรรม
ในเมื่อมาพูดถึงกรรมแล้ว ใคร่ที่จะทำความเข้าใจว่า บุญ กับ บาป เป็นสิ่งที่มีค่าเท่ากัน บุญ บาป มีค่าเท่ากันอยู่ที่ตรงไหน อยู่ตรงที่ดวงจิตของสัตว์ให้ติดข้องอยู่ในวัฏสงสาร แต่แตกต่างกันโดยการให้ผล บุญให้ผลเป็นสุข บาปให้ผลเป็นทุกข์ แต่คุณค่าของผู้ที่ทำให้ติดของบุญ และ บาป คือให้ติดข้องอยู่ในวัฏสงสาร มีค่าเท่ากัน เพราะฉะนั้น ผู้ปฏิบัติธรรมเมื่อบรรลุอรหัตตผลแล้ว ต้องสละทิ้งทั้งบุญและบาป ถ้ายังเกาะบุญอยู่ก็ยังข้องอยู่ในวัฏสงสาร เกาะบาปอยู่ก็ยังข้องอยู่ในวัฏสงสาร ยังไม่พ้น ต้องพ้นทั้งบุญและบาป อันนี้หลักฐานในพระไตรปิฎก กรุณาไปค้นดูเอาเอง
#หลวงปู่พุธ #ฐานิโย
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.