พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
พฤหัสฯ. 30 ธ.ค. 2021 6:57 am
"การให้ผลของกรรม ไม่ใช่ว่าจะทันตาเห็นเสมอไป
ออกผลชาตินี้ก็มี ชาติหน้าก็มี ชาติต่อๆ ไปก็มี
เมื่อพาลทำความชั่ว แล้วได้ความสะดวกสบาย
เขามักจะสรุปว่า...กฎแห่งกรรมไม่มีจริง เพราะทำชั่วได้ดี
เหมือนคนกินยาพิษ ยืนยันว่าไม่น่าจะอันตราย
เพราะตอนนี้ยังไม่รู้สึกอะไร และมันอร่อยเหลือเกิน"
พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ
…ให้เรารักษาศีลให้ดีเถิด
แล้วเราจะมีความสุขใจ สบายใจ
ไม่มีความทุกข์ตามมา
เหมือนกับ…การทำบาป.
……………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
สนทนาธรรมบนเขา
๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
"เว้นหมา พอศอก
เว้นวอก พอวา
เว้นคนพาล ให้ไกลแสนโยชน์"
ครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา
"มีสติรู้ตัว พูดจาให้น้อยลง
พูดเท่าที่จำเป็น ต้องพูดด้วยความมีสติ
รู้ตัวอยู่ การพูดมากมีโอกาสพูดผิดได้มาก
ไม่เกิดประโยชน์ แล้วยังเป็นโทษอีกด้วย
เป็นผู้ฟังแล้วตามคิด เลือกจำสิ่งดีๆ มาใช้
จะได้ประโยชน์มากกว่าคนพูดมาก
มักขาดสติง่าย
เป็นผู้ฟังโทษน้อย หรือไม่มีเลย
แต่เป็นผู้ได้รู้ มากกว่าผู้พูด"
หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร
"ไม่ต้องตื่นเต้น กับวันใหม่ปีใหม่
อันนั้นมันหมุนไปตามเรื่องของมัน
วันหนึ่ง เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง อันนั้น
เป็นสมมุติบัญญัติขึ้นมา
อันที่เราควรจะตื่นเต้นนั้น
ควรตื่นเต้นที่ตัวของเราว่า
วันหนึ่งๆ เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง
เราเจริญขึ้น หรือว่าเราเสื่อมลง
อันนั้นต่างหาก
เราเห็นความเสื่อม ความเจริญของเรา
แท้จริง ร่างกายของเรามันเจริญขึ้นไม่มีหรอก
มีแต่เสื่อมลง มันเกิดขึ้นมาแล้ว เสื่อมลงทุกทีๆ"
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
" พุทโธตัวจริง คือ พุทธะ
พุทธะ คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น
ผู้เบิกบาน พุทโธตัวจริง
มิใช่คำบริกรรม
พุทโธตัวจริงจะเกิด
ขึ้นได้เนื่องจาก
สติปัญญาสัมมาทิฏฐิ
พุทโธ คือ
ผู้รู้ - รู้ความจริง
ด้วยปัญญา
ผู้ตื่น- ตื่นจากความหลับ
ความมืดบอด ตื่นตัวจาก
ความเห็นผิดว่าเป็นเรา
และของของเรา
พุทโธ คือ ผู้เบิกบาน ไม่มี
ความทุกข์เดือดร้อนใจ "
โอวาทธรรม
หลวงพ่อทูล ขิปปปัญโญ
#เห็นอสุภะในทุกคน
นี่เรื่องที่อาตมาได้ปฏิบัติมา ไม่ใช่ว่าจะไปทำให้มันละเอียดหลายสิ่งหลายประการ เอาให้ลมละเอียดอยู่ในใจนี้
ถ้าเห็นรูปนี้ชอบรูปนี้เพราะอะไร ก็เอารูปนี้มาพิจารณาดูว่า เกสาคือผม โลมาคือขน นขาคือเล็บ ทันตาคือฟัน ตะโจคือหนัง
พระพุทธเจ้าให้เอาพวกนี้มาพิจารณาย้ำเข้าไป แยกออก แจกออก เผามันออก ลอกมันออก ทำอยู่อย่างนี้ เอาอยู่อย่างนี้ จนมันไม่ไปไหน
มองพวกเดียวกัน เช่น พระเณรเวลาเดินบิณฑบาต เห็นพระเห็นคน ต้องกำหนดให้เป็นร่างผีตายซากผีตายเดินไปก่อนเรา เดินไปข้างหน้า เดินไปเปะๆ ปะๆ กำหนดมันเข้า
ทำความเพียรอยู่อย่างนั้น เจริญอยู่อย่างนั้น เห็นผู้หญิงรุ่นๆ นึกชอบขึ้นมา ก็กำหนดให้เป็นผี เป็นเปรต เป็นของเน่าเหม็นไปหมด
ทุกคนไม่ให้เข้าใกล้ ให้ในใจของเราเป็นอยู่อย่างนี้ ถึงอย่างไรมันก็ไม่อยู่หรอก เพราะมันเป็นของเปื่อย ของเน่า ให้เราเห็นแน่นอน
พิจารณาให้มันแน่ ให้มันเป็นอยู่ในใจอย่างนี้แล้ว ไปทางไหนก็ไม่เสีย ให้ทำจริงๆ
เห็นเมื่อใดก็เท่ากับมองเห็นซากศพ
เห็นผู้หญิงก็ซากศพ เห็นผู้ชายก็ซากศพ ตัวเราเองก็เป็นซากศพด้วยเหมือนกัน เลยมีแต่ของอย่างนี้ทั้งนั้น
พยายามเจริญให้มาก บำเพ็ญให้อยู่ในใจนี้มากขึ้นอีก อาตมาว่ามันสนุกจริงๆ ถ้าเราทำ
#แต่ถ้าไปมัวอ่านตำราอยู่มันยาก ต้องทำเอาจริงๆ ทำให้มีกรรมฐานในตัวเรา
หลวงปู่ชา สุภัทโท
ถ้าว่าเป็นวันโลกาวินาศ พวกเศรษฐีก็ต้องหมดเงิน ไม่มีเงินจะใช้ทีนี้ อันนี้มันสมมติกันในศาสนาพราหมณ์ ไม่ใช่ศาสนาพุทธ
สวัสดีปีใหม่ ไม่รู้ได้ปีใหม่มาจากไหน ก็ปีเก่านั่นเอง สมมติกันชาวโลก แต่ว่าจะสมมติก็ตาม แต่ว่าอย่าติดอยู่เพียงแค่นั้น ให้รู้ลึกไปกว่านั้นอีก
เขาพาใช้ ก็ใช้ไป แต่เราไม่ติดอยู่ เราไม่สงสัย เขาว่าของข้า ของผม ของดิฉัน ก็พูดไป แต่ว่าไม่ให้เดือดร้อน
#หลวงปู่หล้า #เขมปัตโต
#หลวงปู่สอนว่า
ถ้าเห็นเป็นแต่สักว่าเห็น
ถ้ารู้เป็นแต่สักว่ารู้
ไม่ส่งต่อไปหารัก หาชัง
หาความเดือดร้อน
การเห็นการรู้ก็เป็นโมฆะไป
เห็นเรียบๆ รู้เรียบๆ เท่านั้น
เขาว่าสวย
ก็สวยไปตามเขาเสีย
เขาว่าไม่สวย
ก็ไม่สวยไปตามเขา
ไม่ต้องคัดค้าน
#หลวงปู่หล้า #เขมปัตโต
#มันทุกข์เพราะว่ามันมีกาย
#ถ้ากายบ่มีกะบ่มีปัญหาหยัง
ดวงจิตดวงใจแท้ๆ ท้องกะบ่มี ไส้กะบ่มี การกินอยู่หลับนอนกะบ่มี
ทีนี้การกินอยู่หลับนอนอาหารการกิน มีแต่เรื่องของร่างกายทั้งหมด ที่เฮาเลี้ยงดูปูเสื่อ แต่ว่าโดยมากจิตใจมันมาสนใจแต่ร่างกาย กลัวเขาจะเป็นอย่างนั้น กลัวเขาจะเป็นอย่างนี้ ละกะไปสนใจเข้าไปแบกเข้าไปหาม
ก่อนสิแตกก่อนสิดับ ก็กลัวบ่อยากล้มบ่อยากตาย เขาเข้าใจว่าตัวนั้นเป็นคนแตก ตัวเองเป็นคนตาย บางคนว่าแตกไปแล้ว ตายไปแล้ว บางคนว่าสูญ
มันบ่มีทางสูญเด้ มันสิย้อนกลับมาเกิดอีก แบกธาตุแบกขันธ์อยู่นี่
มันทุกข์เพราะว่ามันมีกาย
ถ้ากายบ่มีกะบ่มีปัญหาหยัง
เพราะฉะนั้นล่ะให้พวกเฮาทั้งหลาย ให้เมตตาสงสารตนของตน แล้วก็พากันปฏิบัติ ปฏิบัติได้ก็เป็นสมบัติของใครของมัน
ครูบาอาจารย์และพระพุทธเจ้าเพิ่นมีแต่แนะแนวทางปฏิบัติ ถ้าพวกเฮาลงมือปฏิบัติเฮากะได้รับผลเองของไผ๋ของมัน ตามฐานะของตน มีมากมีน้อยให้ผลแน่นอน
ล่ะกะอย่าไปสนใจว่าเฮานี่บุญน้อยวาสนาน้อย บ่แมนฐานะเฮาผู้ปฏิบัติ ฮู้ว่ามันน้อยกะเฮ็ดให้ใหญ่ขึ้นมา
เพิ่นจั่งว่าวาสนาคือการกระทำ มันบ่มีธรรมกะเฮ็ดให้มีได้ มันมีน้อยทำให้มากได้จนกว่าว่ามันจะเต็ม คือพวกเฮารับทานอาหาร ทานอาหาร ทานไปๆ เมื่อมันอิ่มมันสิบอกของมันเอง
ถามว่ามันสิอิ่มมันสิเต็มบ่ มันต้องเต็มได้ ทำไปจนกว่ามันพร้อมมันกะสิเต็ม
เพราะฉะนั้นอย่าไปสงสัยในข้อวัตรปฏิบัติของตน ให้เชื่อมันในพระพุทธศาสนาเท่านั้น..
โอวาทธรรม
หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
วัดป่าสีห์พนม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
"เว้นหมา พอศอก
เว้นวอก พอวา
เว้นคนพาล ให้ไกลแสนโยชน์"
ครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา
"มีสติรู้ตัว พูดจาให้น้อยลง
พูดเท่าที่จำเป็น ต้องพูดด้วยความมีสติ
รู้ตัวอยู่ การพูดมากมีโอกาสพูดผิดได้มาก
ไม่เกิดประโยชน์ แล้วยังเป็นโทษอีกด้วย
เป็นผู้ฟังแล้วตามคิด เลือกจำสิ่งดีๆ มาใช้
จะได้ประโยชน์มากกว่าคนพูดมาก
มักขาดสติง่าย
เป็นผู้ฟังโทษน้อย หรือไม่มีเลย
แต่เป็นผู้ได้รู้ มากกว่าผู้พูด"
หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร
"ไม่ต้องตื่นเต้น กับวันใหม่ปีใหม่
อันนั้นมันหมุนไปตามเรื่องของมัน
วันหนึ่ง เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง อันนั้น
เป็นสมมุติบัญญัติขึ้นมา
อันที่เราควรจะตื่นเต้นนั้น
ควรตื่นเต้นที่ตัวของเราว่า
วันหนึ่งๆ เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง
เราเจริญขึ้น หรือว่าเราเสื่อมลง
อันนั้นต่างหาก
เราเห็นความเสื่อม ความเจริญของเรา
แท้จริง ร่างกายของเรามันเจริญขึ้นไม่มีหรอก
มีแต่เสื่อมลง มันเกิดขึ้นมาแล้ว เสื่อมลงทุกทีๆ"
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.