พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
พุธ 09 ก.พ. 2022 3:51 am
#อย่าไปยุ่งกับพระเยอะ
"...หลวงพ่อน่ะ บอกว่าอย่าไปยุ่งกับพระมาก เพราะว่าเราไม่ได้เป็นเมียพระ เห็นด้วยมั้ย จริงมั้ย
พวกสาวเล็ก สาวใหญ่ สาวแก่แม่หม้าย อย่าไปยุ่งกับพระเยอะ
เอาตามหลวงปู่มั่น หลวงพ่อชา หลวงตามหาบัว เจ้าคุณพุทธทาส...น่ะ พวกพระอรหันต์เค้าจะเอาพระนิพพานเป็นหลัก
อย่างหลวงตามหาบัวนี่ ถ้าใครจะเป็นคุณหญิงคุณนายมา อะไรมา อย่างนี้ท่านก็บอกว่า
"...เอ้ย พวกผู้ชายมาถวาย พวกผู้หญิงนั่งดูไกล ๆ..."
หลวงตาท่านเป็นพระอรหันต์ ท่านก็ต้องทำอย่างนั้น ใช่มั้ย
"...มันต้องฉลาด มองดูก็ได้บุญแล้ว..."
"...พวกเราอย่าไปงมงาย รู้จักอะไรเป็นอะไร..."
หลวงตาบัวท่านด่า อย่างนี้เนาะ เห็นด้วยมั้ย
"...ถวายแล้วถอยไป..."
"...ของอันนั้นมันเป็นวิกาลโภชน์ มันเป็นอาหาร มันถวายตอนบ่ายไม่ได้ เอาไว้โน่น สาธุเอา..."
อย่างนี้นะ หลวงพ่อทุยท่านก็เลียนแบบเนาะ
เราก็อย่าไปยุ่งกับพระ อย่าไปใกล้พระ เพราะว่าเราไม่ได้เป็นเมียพระ เราจะมาเอาพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี ใช่มั้ย เห็นด้วยมั้ย
เราเป็นผู้หญิง อย่าไปยุ่งกับพระ เห็นด้วยมั้ย
เห็นด้วยน่ะ จำนะ ปฏิบัตินะ..."
หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
#เทวดาในแต่ละสถานที่ชอบบทสวดมนต์ที่แตกต่างกัน
บางสถานที่ก็ชอบบท..ธัมมะจักกัปปะวัตตสูตร
บางสถานที่ก็ชอบบท..กะระณียะเมตตะสูตร
บางสถานที่ก็ชอบบท..มาติกา
บางสถานที่ก็ชอบบท..เมตตาสังนะสูตร
พอสวดฮอด (ถึง) บทที่พวกเขาชื่นชอบละก็ เขาจะพากันเปล่งเสียงสาธุการดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว
เทวดาเขาพากันออนซอนสะออนหลาย (พากันชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง)"
#หลวงปู่บอกเน้นย้ำเรื่องการสวดมนต์ว่า ...
"เวลาสวดมนต์ไหว้พระ อย่าพากันทำเป็นเล่น เห็นเป็นของสนุกคะนองปาก ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นของสูง ควรค่าต่อการเคารพเป็นอย่างยิ่งหากพากันเห็นเป็นของเล่นแล้ว ก็จะเป็นบาปเป็นกรรมกับตัวเอง นักปราชญ์ได้ยินท่านก็ตำหนิ เทวดาเขาก็พากันตำหนิ
เวลาไหว้พระสวดมนต์ ให้พากันตั้งใจสวดจริงๆ เวลาสวดก็ให้มีสมาธิจดจ่อลงไปในบทหรือสูตรนั้นๆ มันถึงจะมีอานิสงส์เกิดขึ้นกับตัวเจ้าของ (ตัวเราเอง)
การสวดมนต์ไหว้พระเป็นการทำสมาธิไปในตัว บางทีข้ออรรถธรรมต่างๆ มันก็จะผุดขึ้นมาในขณะที่สวดมนต์ก็มี
เทวดาทั้งหลายนั้น เขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกับพวกเรามาก่อน มีจิตใจฝักใฝ่ในบุญกุศล พอตายทำลายขันธ์จากโลกนี้ไปแล้ว ก็ได้ไปจุติในสวรรค์ชั้นต่างๆ สูงบ้างต่ำบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับบุญกุศลที่ตนเองได้สั่งสมมาในตอนเป็นมนุษย์
ถึงแม้ว่าจะเป็นเทวดาอยู่ก็ตาม จิตของพวกเขายังฝังไว้ในบุญกุศลพอได้ยินหรือได้เห็นผู้ใดเขาทำคุณงามความดี พวกเขาก็จะพากันมาร่วมอนุโมทนาด้วย
หากว่าเรามีจิตที่ละเอียดเป็นสมาธิบ้าง เราก็จะเห็นเขามาร่วมอนุโมทนากับเราด้วย
อย่างหยาบๆ ที่พวกเราจะรับทราบได้ ก็คือ ขนพองสยองเกล้าเป็นต้น"
จากหนังสือ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
วัดป่าสัมมานุสรณ์ อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
…การบูชา
ที่จะนำความเป็นสิริมงคล
ให้แก่ชีวิตจิตใจ
คือ..การบูชาด้วย
การประพฤติปฏิบัติตน
ให้อยู่ในศีล ในธรรม
เรียกว่า..” การปฏิบัติบูชา “.
……………………………………..
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
กำลังใจ3 กัณฑ์42
8 กุมภาพันธ์ 2544
#คนสมัยนี้คนเราใจร้อนมาก เราไม่ค่อยเห็นคุณค่าของความใจเย็น หรือการยับยั้งชั่งใจ เพราะว่าอะไร เพราะอะไรก็เร็วไปหมด โดยเฉพาะการที่ไม่รู้จักทักท้วงความคิดหรือว่ารู้ทันความคิด ไปเชื่อความคิดมาก มันก็เลยถูกความคิดหลอก ถ้าคิดดีก็แล้วไป แต่ถ้าคิดผิด คิดพลาดก็เกิดความเสียหาย
เพราะฉะนั้น เตือนใจตัวเองอยู่เสมอว่า สิ่งที่เห็นหรือสิ่งที่คิดอาจจะไม่ใช่ความจริงก็ได้ ความจริงอาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิด อย่าเพิ่งด่วนสรุป อย่าเพิ่งด่วนเชื่อ ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน อันนี้รวมไปถึง #อ่านข้อความทางโซเชียลมีเดียด้วย เดี๋ยวนี้มันก็มีข่าวคราวข้อมูลข่าวสารที่เห็นแล้วเชื่อทันที บางทีไม่ได้ดูรายละเอียดด้วยซ้ำ #แค่พาดหัวข่าวก็เชื่อแล้ว ก็ไม่ได้เชื่อเปล่า ลงมือทำ ลงมือด่า หรือว่าลงมือแชร์ให้กระจายออกไปให้เกิดความเสียหายตามมามากมาย บางทีก็แก้ไม่ได้
ก็ต้องใจเย็นเอาไว้ อย่าเพิ่งด่วนสรุป พิจารณาให้ถี่ถ้วนมองให้เห็นด้วยตาชัดๆก่อน อย่างเช่น ทำฝากาน้ำชาตกกระแทกพื้น ก็อย่าเพิ่งไปด่วนสรุปว่ามันแตก ดูให้ด้วยตาว่ามันแตกแล้วถึงค่อยว่ากัน
เตือนใจตัวเองอยู่เสมอว่าอย่าใจร้อน ทำอะไร ก่อนจะทำก็พิจารณาให้ถี่ถ้วนให้แน่ใจเสียก่อนว่าความจริงเป็นอย่างไร จึงค่อยลงมือทำ ให้มันสอดคล้องกับความจริงกับคู่กรณี
ธรรมะเตือนสติ
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
การหัดนึก "ย้อนหลัง"
หัดนึก "ก่อนทำ"
หัดนึก "ก่อนโกรธ"
หัดให้มีความ "รู้ตัว"
หัดให้มีความ "ยับยั้ง"
การหัดอยู่เสมอ
สติจักเกิดมีทวีเป็นลำดับ
จนถึงเป็น "สติรอบคอบ"
ถ้าไม่หัดทำ จะให้มีสติ
ขึ้นเองนั้น เป็นการยาก
เหมือนอย่างเมื่อประสงค์
ให้ร่างกายมีพลานามัยดี
ก็ต้องทำการบริหารให้ควรกัน
พระคติธรรม
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
กรมหลวงวชิรญาณสังวร
ใจตัวนี้.
สร้างหมดทั้งโลก.
หลวงปู่ศรี มหาวีโร
พวกเราเป็นชาวพุทธ #อย่าไปคอยแต่อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
ในสากลโลก ให้มาช่วยตนให้มีความสุข ความเจริญต่างๆ นานาอย่างนี้ ไม่มีหรอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกนี้ ที่จะช่วยบุคคลผู้ประมาท จะช่วยแต่บุคคลผู้ไม่ประมาท
ผู้สั่งสมบุญกุศล ผู้มีศีลธรรมอันงาม
แม้ว่าไปเกิดอุปสรรคความขัดข้อง
อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา
แล้วผู้นั้นอธิษฐานจิต
ถึงบุญถึงคุณของตน
หากบุญคุณของตน
ที่บำเพ็ญมามันมากพอ
มันก็จะไปดลจิตดลใจ
ของเทวดาอินทร์พรหม
ให้ล่วงรู้ว่า..โอ้ คนมีบุญผู้นี้
กำลังประสบอุปสรรคขัดข้อง
อย่างใดอย่างหนึ่ง
เราจำเป็นต้องลงไปช่วย
ไม่ใช่เทวดาก็พญาอินทร์
ไม่ใช่ก็ท้าวมหาพรหมลงมาช่วย
มาช่วยแก้ไขอุปสรรคของผู้นั้น
ให้ลุล่วงไปด้วยดี ผู้นั้นก็ถึงซึ่ง
ความสุขความเจริญนี่
การที่เทวดาอินทร์พรหม
จะช่วยมนุษย์เราน่ะ
มนุษย์เราต้องช่วยตนเอง
ให้เต็มที่เสียก่อน
ต้องสั่งสมบุญให้มากซะก่อน
"พระพุทธเจ้าไม่ทรงสอนให้เชื่อต่อสิ่งศักดิ์สิทธ์ภายนอก. สิ่งศักดิ์สิทธ์ภายนอกที่มนุษย์ผู้เมาผู้หลงกันอยู่นั่นล่ะ..มันไม่ได้นำให้บุคคลพ้นทุกข์ไปได้. พระองค์ทรงรู้แจ้งแล้ว.. จึงได้นำมาสั่งสอนพุทธบริษัท..ให้เว้นจากการบวงสรวง การบูชาพระเคราะห์อะไรต่ออะไรทั้งปวง. ดวงไม่ดีอะไรอย่างนู้นอย่างนี้. พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนเลย. มันเรื่องศาสนาพราหมณ์ต่างหากอันนี้น่ะ. เราต้องเรียนรู้. พระองค์เจ้ารู้แจ้งแล้ว. ศาสนาพราหมณ์น่ะไม่เป็นทางพ้นทุกข์.
เหตุฉะนั้น. พระองค์เจ้าทรงแสดงธรรม. บางแห่งคนถือผีกันมาก. ถือฤกษ์ถือยาม. สะเดาะเคราะห์อะไรต่ออะไรอย่างนี้น่ะ. พระองค์เจ้าจึงได้ทรงแสดงตรัสพุทธภาษิตขึ้นไว้นะ. ซึ่งแปลเป็นใจความว่า. เมื่อภัยอันตรายมาถึงเข้าแล้ว. ไปอ้อนวอนบนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธ์ต่างๆ ในสากลโลก. ซึ่งเข้าใจว่าอาศัยอยู่ตามต้นไม้ใหญ่. ภูเขา. ตามถ้ำ. หรือตามภูมิสถานต่างๆ หมู่นี้นะ. เข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้มีอำนาจ. สามารถกำจัดภัยพิบัติของร่างกายไปได้. ดังนั้นจึงต้องอ้อนวอนบวงสรวง. ให้สิ่งศักดิ์สิทธ์เหล่านั้นมาช่วยตน. ให้หายโรคหายภัยหายเสนียดจัญไรต่างๆหมู่นี้. ถ้าเมื่อตนหายแล้ว. ตนจะเลี้ยง. ได้บวงสรวงได้บนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธ์ไว้อย่างนั้นนะ. แต่บังเอิญการเจ็บป่วยนั้นมันหายขึ้นมา. ก็เลยว่าเป็นกับสิ่งศักดิ์สิทธ์เหล่านั้นแหละ. ดลบันดาลให้หายเจ็บป่วยได้. เอ้า..!! บางรายก็ต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิตลงไป. บวงสรวงบูชาเข้าไปอย่างนี้นะ. นั่นไม่ใช่ที่พึ่งอันเกษม นั่นไม่ใช่ที่พึ่งอันอุดม. พระองค์ว่า. ผู้ใดมาถือสิ่งเหล่านั้นเป็นที่พึ่งแล้วย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงไปไม่ได้. ส่วนบุคคลได้มาถึงพระพุทธ. พระธรรม. พระสงฆ์. พร้อมทั้งรู้อริยสัจธรรมทั้ง4. นั่นคือที่พึ่งอันเกษมที่พึ่งอันอุดม. ผู้ใดเข้าถึงสิ่งเหล่านี้เป็นที่พึ่งแล้ว. ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงไปได้อันนี้.
พระศาสดาจึงได้ทรงตรัสภาษิตนี้ไว้. เพื่อให้พุทธบริษัทได้รู้ว่า. การบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธ์. การบูชาเช่นนั้น. ไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์. จะได้เว้น. การผูกดวง การสะเดาะเคราะห์หมู่นี้นะ. ไม่ใช่แล้ว. ไอ้กรรมวิธีเหล่านี้ไม่สามารถจะช่วยคนเราให้พ้นจากกิเลสตัณหา. ให้หายโรคหายภัยจริงจังไปได้. ไม่มีอ่ะ. ถ้าทำอย่างนั้นนะ. ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธ์สามารถช่วยคนให้หายเจ็บหายป่วยได้อย่างนี้. ก็จะไม่มีคนตายเลย..."
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
หาเรื่องใส่ศาสนา มันผิดที่ผู้ศึกษานับถือ ปฏิบัติลุ่มๆดอนๆ
"..ธรรมพระพุทธเจ้าไม่มีผิดมีพลาด ขอให้ปฏิบัติตามเถอะไม่ผิด ถูกต้องหมดแล้ว มันผิดสำหรับผู้ศึกษานับถือท่านมาปฏิบัติ ปฏิบัติลุ่มๆดอนๆ ไม่จริงไม่จัง แล้วก็หาเรื่องใส่ศาสนาว่าไม่มีมรรคมีผล กิเลสเข้าไปแทรกกินโต๊ะกันอยู่ในหัวใจวันยังค่ำ มันไม่ได้ดูตัวเอง...
ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ปริยัติได้แก่การศึกษาเล่าเรียนตามแบบแปลนแผนผัง แล้วนำแบบแปลนแผนผังที่เรียนมานั้นมาปฏิบัติปรับปรุงแก้ไขตนเองตามที่เรียนมานั้น แล้วผิดถูกชั่วดีมันจะรู้จากภาคปฏิบัติของเรา ผลก็ปรากฏขึ้นมา เรียกว่าปฏิเวธ รู้ผลงานของตนเป็นลำดับลำดาจนกระทั่งหลุดพ้นโดยสิ้นเชิง.."
โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
#ภูเขาภูเรา
ปัญญาพิจารณา เรื่องแยกธาตุแยกขันธ์ ติดเขาติดเราจะติดอะไร ภูเขาภูเราก็คือในตัวของเรา ภูเขาก็คือตัวของคนนั้นคนนี้ ภูเราคือตัวของเรา
ถือเขาถือเรา แยกอันนี้ออก เขาอยู่ที่ไหน เราอยู่ที่ไหน แยกออกเป็นสัดเป็นส่วน ตั้งแต่ขน ผม เล็บ ฟัน หนังเนื้อ เอ็น กระดูก เข้าไปไปตับไตไส้พุง แยกออกมาอันไหนเป็นเราเป็นของเรา
ดูเข้าไปมันก็เห็นประจักษ์ ๆ ด้วยปัญญาๆ มันก็ถอนตัวออกมาๆ ทีนี้กระจ่างแจ้งขึ้นเรื่อย ขยับเรื่อยๆ ทีนี้มันก็ตำหนิสมาธิ หายอาลัยกับสมาธิแล้วที่นี่ เห็นคุณค่าของปัญญาก็เพลินทางด้านปัญญา
สุดท้ายก็มาตำหนิสมาธิว่านอนตายเฉยๆ ไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไร การแก้กิเลสนี้แก้ด้วยปัญญาต่างหาก ไม่ได้แก้ด้วยสมาธิ นั่นมันกลับตาลปัตรแล้ว มันก็พุ่งของมัน
...
ถ้าปัญญาออกแล้ว เห็นทางที่จะหลุดพ้นจากทุกข์ ถ้ามีแต่สมาธิไม่เห็นทาง เห็นแต่ความสงบเย็นอยู่เท่านั้น หลงสมาธิ ทั้งวันทั้งคืนอยู่นั้นสบาย ไม่เห็นมีจุดหมายปลายทางอะไร
แต่พอออกทางด้านปัญญาจุดหมายปลายทางจะมี ละเอียดลออกว่านี้ ละเอียดลออเข้าไป พิจารณาละเอียดลออเข้าไปมากเท่าไร ทีนี้อุปาทานความยึดมั่นถือมั่นในภูเขาภูเรามันจะค่อยถอนตัวเข้ามาๆ นี่ปัญญาทางบุกเบิก
-ปัญญาจึงเรียกว่าเป็นเครื่องแก้กิเลสนะ สมาธิมันเหมือนหินทับหญ้าเท่านั้นแหละ -
พอสงบเป็นกาลเวลาเท่านั้น ถ้าเรานอนใจก็ติด ติดจนกระทั่งวันตาย แต่ไม่ได้ถอดกิเลสถอนกิเลสออกแม้ตัวเดียว พอออกทางด้านปัญญามันจะเป็นของมันเองนะ ค่อยกระจ่างออกไปๆ พิจารณาตรงไหนนี้มันเหมือนไฟได้เชื้อ มันเผาไปเรื่อยๆ รู้ไปเรื่อยเห็นไปเรื่อย ปล่อยไปเรื่อย ปัญญาเป็นอย่างนั้นนะ นี่เรียกว่าปัญญา....
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๔
"ให้นึกเสมอว่าการเจ็บการตายไม่แน่นอน
จะมาถึงเมื่อใดก็ได้ อย่าประมาท อย่ารั้งรอ
ต่อการทำความดี ในขณะที่ยังมีโอกาสทำความดี
จะได้ไม่ต้องเสียใจ แม้ความตายจะมาถึง
ในวินาทีใด ก็ตาม"
ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต
“เวลาเรามีเพื่อน เราก็อยากได้เพื่อนที่รู้ใจ
เวลาเราทำงาน ก็อยากได้ลูกน้องที่รู้ใจ
รวมทั้งเวลาเรามีแฟน มีคู่ครอง
ก็อยากได้แฟน หรือคู่ครองที่รู้ใจ
เวลาเรามีความทุกข์ เราก็อยากให้คนเห็นใจเรา
แต่ว่าเราเคยถามตัวเราเอง หรือเปล่าว่า
ที่เรียกร้องให้ใครมารู้ใจ ให้ใครมาเห็นใจ
แล้วตัวเราเอง เคยคิดจะรู้ใจตัวเองบ้างไหม
เคยคิดจะเห็นใจตัวเอง บ้างหรือเปล่า
มันยากนะ ไม่รู้ใจตัวเอง
แต่ว่าจะไปเรียกร้อง แสวงหา
หรือว่าไปกะเกณฑ์ ให้ใครต่อใคร
มารู้ใจหรือเห็นใจเรา อะไรที่ยากกว่ากัน
ระหว่างคนข้างนอก ที่มารู้ใจเรา หรือตัวเราเอง
ที่รู้ใจตัวเอง อะไรที่มันเป็นไปได้ง่ายกว่ากัน
ส่วนใหญ่ เวลาบอกว่าอยากให้คนอื่น
มารู้ใจเรา ก็มักจะหมายความว่า
เค้ารู้ความต้องการของเรา
รู้ว่าจะปรนเปรอตอบสนองความต้องการ
ของเราอย่างไร อันนั้นก็ดีอยู่
แต่สิ่งที่เราควรทำให้ได้ เวลารู้ใจตัวเอง
รู้ทันความรู้สึกนึกคิดของตัว เวลาเราโกรธ
เราเคยรู้ใจตัวเองไหม ว่ากำลังโกรธ
เวลาเราเกลียด เรารู้ทันความเกลียดในใจเราไหม
เวลาเราเบื่อ เราเศร้า เราเคยรู้ทันความเบื่อ
ความเศร้า ทั้งๆ ที่มันเกิดขึ้นอยู่กลางใจเรา
หรือเปล่า รู้ใจแบบนี้ที่สำคัญกว่าการกะเกณฑ์
ให้ใครมารู้ใจเรา”
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
“คนอื่นเขาดีก็ดีเขา เขาชั่วก็ชั่วเขา
จิตใจของเราเป็นอย่างไร”
หลวงปู่ขาว อนาลโย
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.