"ภาวนาขี้ไก่ ยังกลัวตาย มาอ้างไม่พร้อมจะตายไม่ได้หรอก อ้างหนุ่มอ้างสาวก็ไม่ได้ ถึงเวลาตายมันก็ตาย มันไม่ถามเลยว่าพร้อมไม่พร้อม ตายได้ทุกเมื่อ มันเกิดมาตายอยู่แล้ว ภาวนาเตรียมพร้อมไว้เลย ตายเมื่อไหร่ก็ได้ เราทำไว้แล้ว" . โอวาท หลวงพ่อสมบูรณ์ กันตสีโล
"#ถึงโลกนี้จะไม่มีความสุขอันเที่ยงแท้ #แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องทุกข์กับมัน"
หลวงปู่สุเมโธ เล่าว่า สมัยที่ท่านยังเป็นเด็ก ท่านอยากได้ของเล่นชิ้นหนึ่ง จึงบอกกับคุณแม่ว่า...ถ้าซื้อของเล่นชิ้นนั้นให้ จะไม่เรียกร้องเอาอะไรอีกเลย...ท่านพูดตามความรู้สึกของเด็กในเวลานั้น เวลาอยากได้อะไรมาก ๆ ก็เชื่อว่าความสุขจะเกิดขึ้นเมื่อได้สิ่งนั้นมา ถ้าได้สมปรารถนาแล้ว คงจะไม่อยากได้อะไรอีก.. เราคงจะมีความสุขไปตลอดกาล...แต่ความเป็นจริงไม่เคยเป็นอย่างนั้น เมื่อคุณแม่ยอมซื้อของเล่นชิ้นนั้นให้ พอเล่นไปได้สักพัก ความสุขนั้นก็หายไปเริ่มอยากได้ของใหม่ขึ้นมาอีก กระบวนการคิดแบบเดิมก็วนขึ้นมาอีกรอบ
ทุกวันนี้ ใจของเราต่างจากความคิดของเด็กเพียงใด จริงหรือไม่ว่า ใจของเรามักทะยานไปในอนาคตอยู่บ่อย ๆ เรามักไม่ค่อยพอใจกับภาวะในปัจจุบัน นึกอยากจะทำในสิ่งที่ไม่ได้ทำอยู่ตอนนี้ หรืออยากจะได้ในสิ่งที่ยังไม่มี ยิ่งคิดก็ยิ่งเชื่อความรู้สึกของตนเอง เชื่อว่าถ้าได้สมปรารถนา เราก็จะเป็นสุขตลอดกาล...
เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจึงใช้ชีวิตขัดกับหลักความจริง เพราะ
"ความสุขนิรันดร์เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ในโลกนี้"
การได้ยินได้ฟังอย่างนี้อาจเหมือนเป็นข่าวร้ายแต่ข่าวดีที่ซ้อนอยู่กับข่าวร้ายนี้ก็มีอยู่เช่นกันนั่นก็คือ...เราไม่จำเป็นต้องทุกข์กับเรื่องนี้
ถ้าเราเรียนรู้ที่จะสังเกตความรู้สึกภายในใจของตนเอง เห็นความเปลี่ยนแปลงไม่หยุดหย่อน เราย่อมตระหนักได้ถึงความเป็นจริงของชีวิต และไม่ปล่อยให้ใจของเราชักลากไปทางโน้นทางนี้อย่างไม่หยุดหย่อน เมื่อนั้น...ความสุขภายในย่อมเกิดขึ้น เป็นสุขจากปัญญาที่รู้เท่าทันความเป็นไปของจิต และเป็นศิลปะที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตโดยไม่ทุกข์ใจในยามไม่ได้สิ่งที่ปรารถนา เพราะมันก็ "แค่นั้นเอง"
พระพรหมวชิรญาณ (โรเบิร์ต สุเมโธ) วัดอมราวดี กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
…ที่เราปฏิบัตินี้ เพื่อดับความทุกข์ใจเท่านั้นเอง
.เราดับสังขารไม่ได้ เราดับนามขันธ์ไม่ได้ ร่างกายเราดับมันไม่ได้ ต้องปล่อยมันดับเอง
.ถ้าดับด้วย ฆ่า มันก็ผิดอีก มันไม่จำเป็นต้องไปฆ่ามัน มันไม่มีโทษ..เข้าใจไหม
.ตัวที่เป็นโทษไม่ใช่ขันธ์ ตัวที่เป็นโทษก็คือ “ ตัณหาความอยากของเรา “ ที่เป็นตัวสร้างความทุกข์ให้กับเรา
.ร่างกายมันไม่ได้สร้างความทุกข์ให้กับเรา เวทนา สัญญา สังขาร มันไม่ได้สร้างความทุกข์ให้กับเรา
.ตัวที่สร้างความทุกข์ให้กับเราก็คือ.. “ ความอยาก “ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ..ที่เกิดจาก “ ความหลง “
.ความหลง..ที่ไปคิดว่า “ ขันธ์ ๕ เป็นตัวเรา เป็นของเรา “. ……………………………………… . สนทนาธรรมะบนเขา วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๙ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
#ภัย_๔_อย่างของพระกรรมฐาน
"...ระวังเหมือนถ้าเฮาจะลงไปในฮ้วงน้ำข้ามโอฆสงสาร ก็ต้องระวังภัย ๔ อย่างคือ คลื่น หนึ่ง จระเข้ หนึ่ง วังน้ำวน หนึ่ง และปลาร้าย อีกหนึ่ง..."
#๑_ความดื้อดึง ไม่อดทนเชื่อฟังต่อโอวาทที่ครูบาอาจารย์พร่ำสอนและนำเปรียบด้วยภัย คือ คลื่น
#๒_ความเห็นแก่ปากแก่ท้อง เห็นแก่หลับแก่นอน ไม่บำเพ็ญเพียร เปรียบด้วยกับ จระเข้
#๓_กามคุณ_๕_อย่าง คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เปรียบด้วยภัยคือ วังน้ำวน ใครหลงติดกามคุณทั้ง ๕ นี้ก็จะ "ติด" เหมือนลิงติดตังอยู่ในวังน้ำวน และมีแต่จะถูกกระแสน้ำดูดจมลงอย่างไม่ต้องสงสัย
#๔_มาตุคาม ที่พระพุทธเจ้าสอนพระอานนท์ไว้ก่อนจะเสด็จปรินิพพานว่า.... ควรหลีกเลี่ยงไม่พบปะด้วย หากจำต้องพบปะก็ไม่ควรพูดด้วย หากจำต้องพูดด้วย ก็ต้องพูดด้วยความสำรวมมีสติ ท่านเปรียบด้วยภัยคือ.. ปลาร้าย..!!!
#หลวงปู่ชอบ_ฐานสโม
"เราได้คลานภาวนา จนเข่าแตกเลือดออกมีไหม ไม่มี.. มีแต่นอนห่มผ้าให้มัน ตลอดคืน มันจะได้สำเร็จมรรคผลอะไร ก็ได้แต่กรรมฐานขี้ไก่ กรรมฐานขี้หมู ไม่ลุกขึ้นภาวนาเหมือนพระแต่ก่อน พระแต่ก่อนท่านเดินไม่ได้ท่านก็คลานเอา"
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
#คนอื่นเขาไม่ดีก็ช่างเขาปะไร "... เราจะไปเดือดร้อนทำไม กับความไม่ดี ของคนอื่น ... ใครเขาจะมาว่าอะไรตัว คำพูดนั้น ออก จากปากใคร ... ก็เข้าหูคนพูดก่อน เราจะไปรับทำไม ถ้าเราเป็นคนดีแล้ว ... เราไม่ต้องไปรับรู้เจ็บร้อนอะไร ใช่ไหมล่ะ รักษาความดี ... ของเราไว้ให้สงบแน่วแน่มั่นคง น่านแหละ เรียกว่าเราดีแน่จริงละ ใช่ไหม หือ... "
#จากหนังสือ_เรื่องที่คุยกันกับลูกศิษย์ #หลวงตาพระมหาบัว_ญาณสัมปันโน
|