พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
พฤหัสฯ. 24 ก.พ. 2022 5:49 am
…มันเป็นธรรมชาติที่ใจมารับรู้
แต่..ใจไม่รับรู้เฉยๆ “ ไปเกิดความอยาก “
เกิดความรัก ความชังในสิ่งที่รับรู้
เวทนาแบบนี้รัก…เวทนาแบบนี้ไม่รัก
.พอสุขเวทนาก็รัก
ก็อยากจะให้อยู่ไปนานๆ
พอหายไปก็ทุกข์แล้ว
ทุกขเวทนายังไม่ทันเกิดเลย
เพียงแต่..สุขเวทนาหายไป ก็ทุกข์แล้ว
.เวลาบ๊ายบายจากกันอย่างนี้
เวลาเห็นคนที่เรารักเรา ก็ดีใจ
อยู่ด้วยกันก็มีความสุข
.พอเขาต้องไปทำงาน
ไปต่างจังหวัด ไปต่างประเทศ
ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว
ก็สุขเวทนาหายไปแล้ว
“ ใจก็ทุกข์ขึ้นมาแล้ว “
เพราะ..อยากให้สุขเวทนาอยู่ต่อไป
.แต่ถ้าเรา..ไม่มีความอยากให้
สุขเวทนาอยู่ หายก็หายไป
เขาไปก็ไป ..เราก็เฉย
“ มันก็ ไม่เดือดร้อน “.
………………………………………
สนทนาธรรมะบนเขา
วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๙
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ล่ะบรรดาลูกรัก ศีล.สมาธิ.ปัญญา. เท่านั้นที่จะช่วยตัวเราได้
หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
#พระพุทธเจ้าสอนว่า
#มีอะไร #ก็อย่าให้มันมี
วัฏฏะนี้ มันจะเกิดโดยวิธีอันนี้
คือมันติดภพอันนั้นอยู่
มันอาศัยภพนั้นอยู่
มันจะพลอยไปดีใจในที่นั้น
นี่ก็คือความเกิด
มันจะพลอยไปเสียใจในที่นั้น
นี่คือความเกิด
นี่มันวางยังไม่ได้
มันเป็นตัววัฏฏะทั้งนั้นแหละ
สังสาระทุกขัง
ทุกข์ในสงสาร
มันก็เป็นไปตามวัฏฏะ
อันนี้ให้ไปคิด
ให้ไปพิจารณาดู
อะไรที่เราจะยึด
ว่านั่นเรา นั่นของเรา
นั่นแหละเป็นภพทั้งนั้น
เห็นง่ายๆ
ภพนั้นมีไว้เพื่อจะเกิด
อุปาทานนี้มีไว้เพื่อจะเกิด
นั่นแหละ
พระพุทธเจ้าท่านว่า
มีอะไร ก็อย่าให้มันมี
ให้มันมี แต่อย่าให้มันมี
ให้รู้จักว่ามี หรือไม่มีนั้น
มันเป็นอย่างไร?
ให้รู้เรื่อง
ตามความจริงของมัน
อย่าให้มันเกิดทุกข์.
----------------------
หลวงปู่ชา สุภัทโท
ถ้าใครทำได้ ไม่ต้องให้ใครมารับรองหรอก การไม่เกิดไม่ตาย ธรรมะมันจะรับรองตัวมันเอง ปัจจัตตัง
หลวงพ่อไชยศรี ปัญญาวชิโร
"เกิดแล้วต้องตาย ไม่ตายวันนี้ วันหน้าก็ตาย
ไม่ตายเดือนนี้ เดือนหน้าก็ตาย ไม่ตายปีนี้
ปีต่อๆ ไปก็ตายได้ ให้รู้ไว้ให้เข้าใจไว้
แล้วจิตใจอย่าได้มัวเมาหลงไหลไปกับกิเลสกาม
วัตถุกาม มาหลงร้องไห้ หัวเราะอยู่นี้ ไม่มีที่สิ้นสุด
ก้อนทุกข์ กองทุกข์เต็มตัวทุกคน
จงภาวนาดูให้รู้แจ้ง ด้วยสติ ปัญญา
ไม่ใช่คนอื่นจะมาทำให้ ปฏิบัติให้ ไม่มี
ตัวเองนั่นแหละ ปฏิบัติตัวเอง"
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
"วันเกิดเรา ก็คล้าย วันตายแม่
อุ้มท้องแก่ กว่าจะคลอด รอดหลุดพ้น
จากเด็กน้อย จนเติบใหญ่ ได้เป็นคน
เติบโตจน ถึงวันนี้ มีเพราะใคร
แม่เจ็บจวน ขาดใจ ในวันนั้น
กลับเป็นวัน ลูกฉลอง กันผ่องใส
ได้ชีวิตแล้ว ก็หลงเหลิง ระเริงใจ
ลืมผู้ให้ ชีวิต อนิจจา
ทำไมเรา เข้าใจว่า เป็นวันเกิด
เปลี่ยนเป็นวัน ผู้ให้กำเนิด จะดีกว่า
สิ่งอวยพร ที่สลอน หน้ากันมา
ควรจะมอบ ให้มารดา ผู้มีคุณ
เลิกจัดงาน วันเกิด กันเถิดเรา
ดีที่สุด ควรคุกเข่า กราบเท้าแม่
รำลึกถึง ผู้มีคุณ อบอุ่นแด
อย่ามัวแต่ จัดงาน ประจานตน"
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.