Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

ความสุข

ศุกร์ 25 ก.พ. 2022 7:34 am

…ถ้าอยากจะให้มันก้าวหน้า
ต้องปฏิบัติมากกว่าเดิม

:เช่นเคยปฏิบัติ ๒ ชั่วโมง
ก็ต้องเพิ่มเป็น ๓ ชั่วโมง ..ถึงจะก้าวหน้า

.ถ้าหยุดปฏิบัติมันก็จะถอยเลย
เพราะว่าเอาเวลาที่ปฏิบัติไปเที่ยว
ไปหาเงิน ไปทำอย่างอื่น ..มันก็จะถอย

.ตอนนี้ถ้าไม่ปฏิบัติ
ก็ถือว่ากำลังเดินถอยหลัง
โดยไม่รู้สึกตัวแล้ว
อย่าไปคิดว่าเรามาไกลแล้ว..ไม่ไกลหรอก

.ถ้าหยุดปฏิบัติปั๊ป
มันจะเริ่มถอย มันยิ่งไกลใหญ่
“ ยิ่งจะไกลจากหลักชัยใหญ่ “.
……………………………………..
สนทนาธรรมบนเขา
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี







“#เห็นทุกข์ให้น้อมใส่ตัว”

โลกมีสิ่งต่างๆ มาหลอกล่อ ให้สัตว์โลกเพลิดเพลิน กว่าจะรู้ตัวก็หมดแรง และตายไป ถ้าไม่ปฏิบัติ ก็ต้องมาเกิด แก่ เจ็บ ตายอีก

เรามองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป เพราะเห็นว่าไกลตัว ซึ่งเรียกว่าตั้งอยู่ในความประมาท ร่างกายมันเน่า อสุภะเราเอาอะไรมาทา มันก็ไม่ฟัง อสุภะมันแสดงอยู่ตลอดเวลา

ที่เราทำๆกันนี้ ยังดีไม่พอ ให้สังเกตตัวเอง แล้วหมั่นแก้ไข เมื่อเห็นทุกข์ผู้อื่นก็ให้น้อมเข้ามาใส่ตัว

เปรียบเสมือนการถือของร้อน บางคนก็รู้สึกถึงความร้อนและวางลงได้เร็ว ทั้งที่ของนั้นยังไม่ร้อนจัด แต่บางคนต้องให้ร้อนจัดๆ ถึงวางลงได้

เช่นเดียวกับที่บางคนเห็นทุกข์คนอื่น แม้เพียงเล็กน้อยก็อยากหาทางออก แต่บางคนต้องทุกข์หนักๆ ถึงจะหาทางออก

ส่วนมากแล้ว คนทางโลกมีทุกข์กัน ก็ไม่ตระหนักถึงทุกขสัจ ตามตำราตามหนังสือที่ไหนก็เขียนไว้หมด เราก็รู้กันหมด แต่ทำไมความจริงมันไม่ลงไปที่ใจ

เพราะคุณงามความดีมันยังไปไม่ถึง มาฟังเทศน์ฟังธรรมกันอยู่ ฟังกันไป แต่ละคนจะถึงไปที่ใจกันได้มากน้อยเพียงใด

วิธีแก้ทุกขสัจมีทางเดียว คือต้องเอาธรรมแก้ได้สถานเดียวเท่านั้น ต้องแก้ที่ตัวเอง

ทุกวันนี้เราเล่นละครกันไป มีสุข มีทุกข์ ความสุขนี่เป็นอามิส พอหายทุกข์ก็เป็นสุข เลยพากันนึกว่ามันเป็นความสุขที่แท้จริง

ทำไมเราจึงมัวแต่เล่นละครกันอยู่ ไม่เปลี่ยนมาเป็นผู้กำกับกันบ้างเล่า ทุกวันนี้วิชาความหลงกลบเราไปจนหมด ต้องเห็นแบบไม่หลงให้ได้

ฝ่ายพาไม่หลง เรียกว่ามรรค มรรคจะคอยสอนใจอยู่ ในขณะที่ความหลงที่อยู่ในใจก็โตขึ้นไปพร้อมๆ กันตามวิถีโลก

เราลองย้อนดูว่ามีอะไรเป็นของเราบ้าง พากันทิ้งไม่เป็น มันไม่มีอะไรจริงๆ ได้อันหนึ่งอีกอันหนึ่งก็เสียไป

คำว่ามีก็ไม่มีในใจ ไม่ไปมั่นหมายไว้ ให้ฝึกฝนเข้าไป สติปัญญาเป็นสิ่งที่ต้องฝึกหัด ใช้ธรรมเป็นคู่แข่งขันกับความหลง สู้เข้าทุกท่าทุกอย่าง

แก้ให้พ้นต้องเทียบเคียงตลอด ให้ทัน แก้ให้ได้ พอกรรมมันมาถึงตัว เวลานั้นอะไรก็ช่วยไม่ได้ จงอย่าประมาทกรรม ให้เร่งทำเสียแต่วันนี้

เราต้องเชื่อเรื่องกรรม เพราะกรรมเป็นเรื่องจริง พันธุกรรมเป็นตัวหล่อหลอมที่ทำให้เรามีความเหมือนกัน แต่ถ้าจะอยู่เหนือกรรม ก็ต้องเข้าถึงอริยสัจ แต่ถ้ายังทำไม่ได้ก็ให้หมั่นทำความดี

คนเรามีกรรมเก่า แต่ถ้าทำปัจจุบันให้ดี ก็จะสามารถตัดกรรมเก่าได้ แต่การตัดกรรมของคนทั่วไปนี้ ยังเป็นการตัดกรรมทางจิต ในขณะที่ครูบาอาจารย์ท่านสามารถตัดกรรมได้ จนกระทั่งถึงธาตุขันธ์

เช่น เมื่อครูบาอาจารย์อาพาธ ท่านจะพิจารณาทางจิต จนลดหรือหายจากอาการอาพาธทางธาตุขันธ์ได้ เพราะกรรมก็อาจส่งผลถึงธาตุขันต์ได้

ครูบาอาจารย์ท่านสามารถพิจารณาถึงอริยสัจ ซึ่งทำให้ตัดกรรมได้หมด แต่เราที่เป็นฆราวาส ยังไม่สามารถทำได้แบบนี้ ให้เราหมั่นทำความดี ทำบุญไปเรื่อยๆ ก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง

บางคนอาจจะทำบุญไว้เยอะ ทำให้ในปัจจุบันทำอะไรก็ดีไปหมด เจริญรุ่งเรือง แต่ในที่สุด ทุกคนก็ต้องได้รับผลจากกรรมที่ทำไว้

ไม่เว้นแม้แต่พระพุทธเจ้าเอง ที่ต้องรับผลจากการที่เคยเป็นคนเลี้ยงโค แล้วรีบต้อนโคกลับบ้าน โคหิวน้ำก็ไม่หยุดให้ดื่มน้ำ

ผลของกรรมนั้น ทำให้ครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปที่กุสินาราเพื่อปรินิพพาน พระพุทธเจ้ากระหายน้ำมาก ได้แวะพัก และตรัสให้พระอานนท์ไปตักน้ำ

พระอานนท์ถือบาตรไปถึงแหล่งน้ำ ปรากฎว่า วัวพึ่งเดินผ่านไปทำให้น้ำขุ่นมาก พระอานนท์จึงเดินกลับไปโดยไม่ได้ตักน้ำ

พระพุทธเจ้าก็ให้พระอานนท์เดินกลับไปใหม่ น้ำก็ยังขุ่นอยู่ ต้องรอจนถึงครั้งที่ ๓ น้ำจึงใส พอที่พระอานนท์จะตักน้ำไปถวายได้

แม้แต่กรรมเพียงเล็กน้อย ก็ต้องส่งผลกลับมาให้เราเสมอ ไม่ว่าเราจะทำบุญไว้มากแค่ไหน

เพราะฉะนั้นคนที่ดูดี มีความสุขในตอนนี้ สักวันก็ต้องได้ รับผลกรรมที่เคยทำ พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง สังคม หน้าที่การงาน โรคภัยไข้เจ็บ เราล้วนทำมาเองทั้งสิ้น

จงน้อมรับ และแก้ไขข้อบกพร่องของตน เมื่อพบสิ่งใด ก็ให้เผชิญกับสิ่งนั้น จงอย่าหนี มิฉะนั้นเราจะต้องเป็นฝ่ายหนีไปเรื่อย

โลกนี้ไม่มีใครได้ดังใจหรอก เราทำเอาไว้อย่างนี้เอง ต้องยอมรับ ตั้งความดีเอาไว้ ทุกอย่างจะลดลง

เอาเมตตามาใช้ ทำเพื่อหาเวลาออก มันเป็นหลักธรรมชาติ อะไรจำเป็นต้องทำทางโลกก็ทำ แต่ก็ทำทางธรรมให้มีศีลเป็นหลักเกณฑ์ในชีวิต

ในที่สุดจะแยกตัวออกมาได้เอง ยืนหยัดเอาศีลสร้างความดี ความมักน้อยสันโดษเกิดขึ้น

ให้มีสติ ไปไหนเอาพุทโธประคองไว้ตลอด จะนำความดีเข้ามาสู่ใจ

พระบัณฑิต #สุปณฺฑิโต
(บันทึกโดยลูกศิษย์)
วัดป่าตอสีเสียด
ต.บ้านตาด อ.เมือง








"..เมื่อเราปฏิบัติได้แล้ว ทีนี้มันเป็นของใคร มันก็เป็นของเราเป็นที่พึ่งของเราโดยตรง และเป็นที่พึ่งอันเกษมสูงสุด คือพึ่งตัวเรา ตัวของเราซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติ เมื่อปฏิบัติไปบางคนจิตคงเคยได้รับความสงบเข้าไปบ้าง แต่บางคนก็อาจจะยังไม่เคยสงบ ยังไม่เคยได้รับผล แต่อย่าไปสงสัยอย่าไปน้อยใจว่าเราปฏิบัติไปจะไม่ได้รับผล ต้องได้รับผลแน่นอนตามเหตุตามปัจจัย ทำน้อยได้รับผลน้อย ทำมากได้รับผลมาก จนกว่ามันจะรู้จะเห็นเป็นไปของเรา ความเป็นไปความได้มันอยู่ตรงไหน มันอยู่ในจิต คือตัวสติ ตัวรู้ คือความรู้นี่ฟื้นฟูดวงรู้นี่ขึ้นมา ดวงรู้นี่คือดวงใจของเรามีทุกคน แต่ว่ามันรู้อยู่แต่มันไม่เต็มภูมิ เปรียบปะมาประมัยเหมือนพระจันทร์ข้างขึ้นข้างแรม ที่มันยังเว้ายังแหว่งอยู่มันไม่เต็มภูมิ
เพราะฉะนั้นเราจึงต้องมาศึกษามาปฏิบัติ มารักษาตัวสติให้มันติดต่อ ให้มันต่อเนื่องกัน บำรุงตัวสติให้มันเด่นดวงขึ้นมา คือตัวรู้ เมื่อเรามีสติสัมปชัญญะความรู้ตัว ปัญญามันจะตามมา เพราะตัวปัญญากับสติมันอยู่ด้วยกัน มีสติรู้อยู่กับอารมณ์กรรมฐานที่เราปฏิบัติอยู่ บางคนก็กำหนดอยู่กับลมหายใจ หรือกำหนดคำบริกรรม หรือกำหนดอยู่ที่ใดที่หนึ่ง เมื่อเรากำหนดอยู่ที่จุดใด ก็กำหนดให้อยู่ที่จุดนั้น เมื่อเวลาจิตมันแว๊บไปก็ให้มันรู้ มันอยู่ก็ให้มันรู้หรือมันฟุ้งซ่านก็ให้มันรู้ ให้ฝึกตัวรู้นี้ก่อน เหมือนกับเด็กที่พึ่งเกิดใหม่ เมื่อมันเกิดมาใหม่ก็ต้องฝึกนั่งแล้วก็มาฝึกยืน เมื่อยืนมั่นคงแข็งแรงแล้วค่อยก้าวออกไปถ้ามันไม่แข็งแรงก้าวออกไปมันก็จะล้ม เหมือนกับเราฝึกจิตถ้าไม่มีสติควบคุม มันก็จะล้มเหมือนกัน.."

โอวาทธรรมหลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
วัดป่าสีห์พนม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร







"..ทุกข์มันผ่านมาทางไหน ทุกข์มันผ่านมาทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ทางตาเห็นรูปแล้วว่าสวยว่างามก็หลงไหล ทางหูได้ยินสิ่งไม่พอใจก็เป็นทุกข์ ทางจมูกได้ดมกลิ่นไม่หอมก็ทุกข์ ทางลิ้นสัมผัสรสชาติอาหารไม่ถูกใจก็ทุกข์ ทางกายสัมผัสเย็นร้อนอ่อนแข็งก็ทุกข์ ทางใจไม่พึงพอใจในสิ่งนั้น นั้นก็ทุกข์ ทุกข์เพราะมันไปยึดไปติด ในรูปว่าสวยว่างาม ทุกข์ในลิ้นเพราะหลงในรสในชาด ทุกข์ในกายเพราะมีความเจ็บ ทุกข์ในจิตในใจก็เพราะมันหลง
สรุปแล้วรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี่คือกองทุกข์ทั้งสิ้น ทุกข์เพราะหลง หลงอะไร มันหลงตน หลงว่าเขาว่าเรา หลงว่าหญิงหลงว่าชาย ว่าสัตว์ว่าบุคคล หลงในก้อนธาตุทั้งสี่ ให้มาพิจารณาดูว่าในกายของคนมีอะไร ที่เรามองเห็นหนังก็ว่าสวยว่างาม หนังมันเป็นเพียงธาตุดิน มันมีแตกมีดับตามอายุมัน อันไหนที่มีบนโลก ไม่ว่าทรัพย์สมบัติ ข้าวของเงินทอง มันก็ดับไปสิ้นไป ร่างกายที่เรามาอยู่มาอาศัย ข้าวของเงินทอง เราก็มาใช้เพียงชั่วระยะเท่านั้น แต่จิตใจมันกับมาหลง มายึดมาติด ในรูปกายสังขาร ยึดในทรัพย์สมบัติ เมื่อมันมาหลงอยู่อย่างนี้ มันจึงมองไม่เห็นทาง จึงพากันเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในโลกนี้ และจะกลับมาเกิดอีกไม่รู้อีกกี่ภพกี่ชาติ ถ้ายังมาหลง มายึดมาติด ไม่รู้เบื่อไม่รู้หน่าย .."

โอวาทธรรมหลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
วัดป่าสีห์พนม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร






"บางคนมีความเข้าใจว่าฟังธรรม
ปฏิบัติธรรมแล้วจะมีประโยชน์อะไร
มัวแต่ถือศีลถือธรรมก็ไม่ต้องทำมาหากินกัน
นี่คิดผิดมาก เพราะธรรมะจริงๆ ก็คือ
เรื่องของความถูกต้อง มันรวมเรื่องถูกต้อง
ของชีวิตเราไว้ทั้งหมด จะหากินอย่างไร?
จะเก็บรักษายังไง? คบหากับคนอื่นอย่างไร?
ดำเนินชีวิตอย่างไรจึงจะไม่เป็นทุกข์?
นี่เรื่องของธรรมะ ทำไมจะไม่มีประโยชน์"

หลวงปู่ชา สุภัทโท






"ถ้าโลกนี้เต็มไปด้วยการขอโทษ
และการให้อภัยโทษแล้ว
จะไม่มีวิกฤตการณ์เลวร้ายใดๆ
เกิดขึ้นมาได้เลย

เป็นการสร้างสันติภาพให้แก่โลกทั้งโลก
ด้วยการยึดถือหลักที่ว่าขอโทษ และอดโทษ

ฉะนั้น ขอจงประพฤติปฏิบัติจนเป็นนิสัย
และอบรมลูกเล็กเด็กแดง ให้รู้จักขอโทษ
และอดโทษ แก่กันและกันจนเป็นนิสัย"

ท่านพุทธทาสภิกขุ






"ใจมีพุทโธแล้วเป็นใหญ่
กว่าเขาหมดใหญ่กว่า
พระอินทร์พระพรหม
เทวบุตรเทวดา
ยักษ์กุมภัณฑ์ พญาครุฑ
พญานาคพุทโธนี้ของ
เล็กน้อยเมื่อไหร่ล่ะ"

คำสอน
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
ตอบกระทู้