พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
อาทิตย์ 20 มี.ค. 2022 9:21 am
องค์พระพุทธเจ้าบอกว่าในร่างกายของคนเรา ยังมีหมู่หนอนอาศัยอยู่ตั้งเก้าพันชนิด มีตั้งแต่ผิวหนังเข้าไปเลย
ทุกวันเรากำลังเลี้ยงหนอนอยู่ หนอนพวกนี้ไม่มีลมหายใจ มาอาศัยกินอยู่ในร่างกายของเรา เหมือนกาฝากต้นไม้ ถ้ามาก ๆ กินหมด ต้นไม้ก็ตาย พวกหนอนที่อยู่ในร่างกายของเรามันก็ขยายพันธุ์กันไปเรื่อย ๆ มันมีทั้งในธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟของเรา
ที่องค์พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ให้ภาวนาเมื่อกินข้าวว่า
พุทธังมัดจิต ธัมมังมัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาสสันติ ฯ
พุทธังมัดจิต ธัมมังมัดใจ โรคทั้งหลาย วินาสสันติ ฯ
ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ
อะหัง ปิตัง ชานามิ ชานามิ ฯ
เป็นเมตตาจากองค์พระพุทธเจ้าและองค์หลวงพ่อมอบให้ จึงควรที่จะใช้ทุกวัน
อย่ามัวไปติดที่สีที่กลิ่นที่รสของอาหาร กินแบบไหนก็กินไปเลี้ยงหนอน ถ้าหนอนอ้วนมาก ๆ เราก็ตายเลย
องค์หลวงปู่จาม เจ็บท้อง หมอบอกว่า เป็นโรคมะเร็งในลำใส้ หลวงปู่ไม่ให้หมอผ่าตัด มารักษาตนเอง องค์หลวงปู่เล่าว่าเชื้อโรคมันก็อาศัยอาหารที่เรากินเข้าไป ที่เราชอบ ๆ มะเร็งก็ชอบ ๆ องค์ไม่กินอาหารอื่น กินแต่ถั่วเหลืองไปเรื่อย ๆ เชื้อมะเร็งไม่ชอบ มันก็เลยตายหมดเพราะโรคขาดอาหาร
ยาที่พระกรรมฐานได้มาเช่นยาส้มขององค์หลวงปู่ฝั้น ยาแก้ลำไส้เน่า ขององค์หลวงปู่วัดอัมพวันสิงห์บุรี ยาแก้ไข้แก้หวัดเรื้อรังขององค์หลวงปู่ชา ยาพระนอนขอนม่วง ล้วนแต่เป็นยาพิเศษ ๆ ทั้งนั้นเลย
ตุ๊พ่อพระมหาสิงห์ วิสุทฺโธ
วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน
๒๒ เมษายน ๒๕๖๓
ที่มา เสียงธรรมจากถ้ำป่าไผ่
"ถ้าเราไม่ได้สหายที่ดี..
เรา..ควรเที่ยวไปคนเดียวประเสริฐกว่า"
หลวงปู่ลี ตาณํกโร
วัดป่าหัวตลุก จ.นครสวรรค์
…รากฐานของการปฏิบัติธรรมนี้
คือ.. “ศีล”
.ผู้ปฏิบัติควรที่จะให้ความสำคัญ
ต่อการ..” รักษาศีล “
แล้วก็ต้องรักษาอย่างสม่ำเสมอ.
……………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
เรื่องของบุญเรื่องของกุศล ถ้าเราสั่งสมสร้างมามากจริง ๆ ก็จะล้นออกมาเอง คนอื่นพอเห็นก็จะรู้แล้วว่าตรงนั้นที่ของเขา ไม่ใช่ที่ของเรา
ฉะนั้น...ไม่ว่าจะพระภิกษุสามเณร ตลอดจนญาติโยมที่วัดนี้ หรือที่บ้านก็ตาม ถ้าจะสร้างความดี ก็ต้องเพียรพยายามทำให้มาก ทำให้ชินเข้าไว้ คำว่า ทำให้มาก ไม่ได้หมายความว่าทุ่มเทกันแบบไม่กินไม่นอน แต่เป็นการทำตามมัชฌิมาปฏิปทา คือความพอเหมาะพอดีของตน
คำว่า ทำให้มากก็คือทำบ่อย ๆ ทำจนกระทั่งถึงเวลาถ้าไม่ได้ทำ จะเริ่มรู้สึกว่าไม่ปกติ เหมือนกับมีอะไรบังคับว่าเราต้องทำ ถ้าอย่างนั้นกำลังใจเราถึงจะมั่นคงในความดีนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนาก็ตาม
แล้วสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็จะปรับกาย วาจา ใจของเรา ให้พัฒนาไปในด้านดีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงที่สุดแห่งความดี ก็เริ่มปล่อยดี เมื่อถึงเวลานั้น ดีก็ไม่เกาะ ชั่วก็ไม่เอา ทำดีเพราะรู้ว่าดีถึงทำ ละชั่วเพราะรู้ว่าชั่วถึงละ ในเมื่อไม่เอาทั้งดีทั้งชั่ว เราจะไปไหนได้ ? ก็ไปพระนิพพาน พอความดีเต็มอยู่ในใจของเรา พระนิพพานก็จะปรากฏชัดเอง
ฉะนั้น...เราจะเห็นว่าการปฏิบัติธรรมที่บอกว่ามีบุคคล ๔ ประเภทคือ
สุกขวิปัสสโก บรรลุธรรมโดยไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย
เตวิชโช หรือวิชชา ๓ บรรลุธรรมพร้อมความสามารถ ๓ อย่าง ก็คือระลึกชาติได้ รู้ว่าคนและสัตว์ก่อนเกิดมาจากไหน ตายแล้วจะไปไหน และทำกิเลสให้สิ้นไปได้
ประเภทที่สามก็คือ ฉฬภิญโญ หรืออภิญญา ๖ บรรลุธรรมพร้อมด้วยความสามารถพิเศษ ๖ อย่าง ก็คือมีทิพโสต...หูทิพย์ ใครนินทา อยู่ไกลแค่ไหนก็ได้ยิน ทิพจักขุ...มีตาทิพย์ ใครทำอะไรใกล้ไกลแค่ไหน อยากจะเห็นก็เห็น ปุพเพนิวาสานุสติญาณ...ระลึกชาติได้ จุตูปปาตญาณ...รู้ว่าคนก่อนเกิดมาจากไหน ตายแล้วจะไปไหน อาสวักขยญาณ...ทำกิเลสให้สิ้นไปได้ เป็นต้น
แล้วก็มีปฏิสัมภิทัปปัตโต หรือปฏิสัมภิทาญาณ ๔ บรรลุธรรมแล้วมีความสามารถครอบคลุมทั้งสุกขวิปัสสโก เตวิชโชและฉฬภิญโญแล้ว ยังมีความสามารถพิเศษ ๔ อย่างก็คือ
ธัมมาปฏิสัมภิทา...รู้เหตุทั้งปวง อัตถปฏิสัมภิทา...ผลทั้งปวง คือสร้างเหตุอะไร ได้ผลอย่างไร รู้หมด ปฏิภาณปฏิสัมภิทา...มีความคล่องตัวในเรื่องของปฏิภาณมาก ไม่ว่าจะขยายเรื่องเล็ก เรื่องสั้นให้ยาว ย่อเรื่องยาวให้สั้น อธิบายข้อธรรมที่ลึกซึ้งให้ง่าย อธิบายข้อธรรมที่ง่ายให้ลึกซึ้ง สามารถทำได้ตามใจปรารถนา นิรุกติปฏิสัมภิทา...รู้ภาษาคน ภาษาสัตว์ ทุกภพ ทุกภูมิ ทุกหมู่ ทุกเหล่า
คราวนี้สามประเภทหลังคือ วิชชา ๓ อภิญญา ๖ และปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ ๔ สามารถรู้เห็นพระนิพพานได้ สุกขวิปัสสโกไม่มีความสามารถเช่นนั้น แล้วรู้ได้อย่างไรว่านี่คือพระนิพพาน ? นั่นคือสิ่งที่อาตมภาพได้พูดไปแล้วว่า ถึงเวลาพระนิพพานจะเต็มอยู่ในใจของเราเอง ไม่ต้องกังวล รู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ ทำไปเรื่อย ๆ พอดีถึงที่สุด วางดีลงได้เมื่อไร พระนิพพานจะปรากฏชัดเมื่อนั้น
ฉะนั้น...สิ่งที่ท่านทั้งหลายทำมา ให้ตั้งเป้าเอาไว้สูงสุดว่าเราทำเพื่อพระนิพพาน ความเคารพในคุณพระรัตนตรัย ขอให้เป็นคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่เป็นส่วนของนามธรรม ไม่ใช่พระพุทธรูป ไม่ใช่คัมภีร์ใบลาน ไม่ใช่องค์พระสงฆ์ รู้ตัวอยู่เสมอว่าเราต้องตาย ตายเมื่อไรเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว
ถ้าสามารถรักษากำลังใจนี้เอาไว้ได้ ทุกเช้าทุกเย็น ไม่ต้องมาก ครั้งละ ๕ นาที ๑๐ นาทีก็พอ ตายเมื่อไรท่านมีโอกาสไปพระนิพพานแน่นอน ก็ถือว่าพูดคุยกันพอให้หายคิดถึงแต่เพียงเท่านี้ เพราะว่าพระเณรก็ยังต้องทำวัตรสวดมนต์ แล้วก็ไปปฏิบัติหน้าที่การงานของตนเองกันต่อไป
.....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
ไม่มีศีลมีธรรม ก็เท่ากับ สัตว์ ควรนำไปถือเป็นคติเครื่องเตือนใจ
ศีลเป็นสมบัติของเรา ทานเป็นสมบัติของเรา การภาวนาเป็นสมบัติอันล้นค่าของเรา อย่าปล่อยวาง ให้พากันใกล้ชิด ติดกับศีลกับทานกับภาวนา
ท่านทั้งหลาย จะมีความเจริญรุ่งเรือง ไปในอนาคตข้างหน้า จนกระทั่งมีวาสนา บารมีมากขึ้น เพราะการสร้างความดีไม่หยุด แล้วจะถึงฝั่งแห่งพระนิพพาน หลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งหลาย เรียกว่า ตลอดกาลไปเลย.
- หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.