หลวงพ่อชาว่ามันเหมือนการปลูกต้นไม้ เราปลูกต้นไม้แล้วเราต้องทำหน้าที่ต่างๆ เช่น รดน้ำ พรวนดิน ป้องกันศัตรูพืช วัชพืชต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบโดยตรง แต่ต้นไม้นั้นจะโตเร็วโตช้า ผลที่เกิดขึ้นจะใหญ่จะเล็ก จะหวานจะเปรี้ยวอย่างไรก็เป็นเรื่องของธรรมชาติ มันเหลือวิสัยของมนุษย์ผู้ปลูกต้นไม้ที่จะกำหนดสิ่งเหล่านี้ได้
ฉะนั้นเราต้องดูเรื่องราวต่างๆ ว่าส่วนไหนเป็นเรื่องของเรา ส่วนไหนเป็นเรื่องของธรรมชาติ เราจะดำเนินชีวิตอย่างไรให้เราพร้อมที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ต่างๆ โดยไม่ตกเป็นเหยื่อของประสบการณ์
พระอาจารย์ชยสาโร
"เขาอยากชนะก็ให้เขาชนะไป เราขอเป็นผู้แพ้ เพราะเรารู้ว่าการเป็นผู้แพ้นี้แหละ เป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง"
#พระจุลนายก พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต "วิปัสสนาภาวนา" กัณฑ์ที่ ๒๐๗ ๔ มิถุนายน ๒๕๔๘
…เราอย่าไปหวังว่า ให้ทุกคนถูกใจและชอบเรา เพราะเป็นไปไม่ได้
.ที่เราอยู่ในโลกนี้ ก็จะมีคนที่เขาชอบเราบ้างไม่ชอบเราบ้าง และเฉยๆกับเราบ้าง
.แต่ขอให้เขาชอบหรือไม่ชอบเรา เพราะว่าเรา… “ยืนหยัดอยู่กับความถูกต้อง ความจริงดีกว่า”
อย่าให้เขามาชอบหรือไม่ชอบเรา เพราะว่า..” ความสอพลอของเรา “. ……………………………………. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม 7 กันยายน 2565
"... เราเกิดมา เราอย่าให้จิตใจของเรา แห้งผากด้วยคุณงามความดี ขอให้มี ความชุ่มเย็นเป็นสุข ด้วยอำนาจแห่ง คุณงามความดี ทั้งที่มีชีวิตอยู่นี้ก็เป็น สุขเย็นใจ
... เมื่อเราคิดถึงคติข้างหน้าที่จะเป็นไป ในวาระต่อไปนั้น เราก็มีความภาคภูมิใจ ว่า.. ตายแล้วจะไม่ไปตกนรกหมกไหม้ ..."
#หลวงตามหาบัว_ญาณสมฺปนฺโน
“การกระทำผิดของผู้อื่นเป็นครูของเรา
เมื่อเห็นคนนั้นทำไม่ดี ก็สอนตนเองว่า เราจะไม่ทำอย่างนั้น หรือเห็นคนนี้พูดไม่ดี เราก็จะไม่พูดอย่างนี้
เหล่านี้ก็คือ การสอนใจตนเอง”
หลวงพ่อชา สุภัทโท
การเห็นของการเข้าฌานต่างกับความฝันไหม
ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ ลักษณะการเห็นของการเข้าฌาน มีลักษณะการเห็นเหมือนความฝันไหมครับ
หลวงพ่อ : ไม่เหมือนคุณ การเห็นในความฝันคุณนอนหลับนี่ แต่คนเข้าฌานไม่ได้หลับ จะคิดว่าเหมือนความฝันไม่ได้ เพราะในความฝันนั้นบังคับไม่ได้ แต่การเห็นของการเข้าฌานนี่บังคับได้ตามชอบใจ
แต่นี่เราต้องแบ่งชั้นให้ถูกต้องนะ คือว่า การเห็นในการเข้าฌาน ถ้าเป็นฌานโลกีย์ อย่างดีที่สุดการเห็นก็เหมือนกับเราเดินไปในขณะเดือนมืด มีแสงดาวในท้องฟ้าเป็นเครื่องส่องแสง คนเดินไปเดินมาใกล้เรา เราจึงจะรู้ แล้วก็พอจะทราบว่า ลักษณะของคนที่เดินมาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่เราเห็นไม่ชัด ถ้าเห็นในเดือนมืดฉันใด การเห็นของบุคคลผู้ได้ฌานโลกีย์ก็มีอาการอย่างนั้น
ทีนี้ถ้าหากว่า การเห็นของพระอริยเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ ก็จะเห็นมีความแจ่มใสดีไปกว่านั้น สำหรับพระอรหันต์เอง ย่อมเห็นได้แจ่มใสกว่าพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี
แต่ถ้าเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าก็เห็นดีกว่าพระอรหันต์ปกติ และถ้าเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ยิ่งเห็นดีมากคล้ายเห็นคนในเวลาเที่ยง
ฉะนั้น การเห็นด้วยกำลังของสมาธิ คุณจะเทียบกับความฝันมันก็ไม่ถูก เพราะว่าฝันเราบังคับไม่ได้ ส่วนสมาธิเราต้องการจะเห็นอะไรเราก็เห็นได้ตามความต้องการของเรา
ฉะนั้นจะชัดหรือไม่ชัดมันเป็นเรื่องของบุคคลที่ใช้ฌาน จะฉลาดหรือโง่เท่านั้น ถ้าโง่อุปาทานมันก็กินเห็นก็ไม่ค่อยตรงตามความเป็นจริง
ถ้าฉลาดคือไม่ไว้ใจตัวไม่คิดว่าตัวเองดีวิเศษพวกนี้เห็นตามความเป็นจริงทุกอย่าง
#หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
|