นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 18 ม.ค. 2025 7:12 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ต้องการความสุข
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 12 ธ.ค. 2022 9:18 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4806
คำสอนหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล

จะทำกิจสิ่งใดลงไปก็ตาม ให้ท่องจำไว้ให้ขึ้นใจ อย่าไปยุ่งกับวัดกับวาให้มาก ตายไปจะเป็นเปรต แก้ยาก อย่าโลภอยากได้ของคนอื่น ให้มีความละอายแก่ใจ ให้มีความเกรงกลัวต่อบาป

ยามเจ้าละจากโลกนี้ไป มีเพียงสองสิ่งเท่านั้นที่จะติดตามเจ้าไป คือบุญกับบาป หนีไม่พ้น เจ้าอยู่เจ้าได้กินข้าว เจ้าตายไปเจ้าได้กินบุญ

ภพชาติมีจริงไม่ใช่เรื่องเหลวไหล จงอย่าเกียจคร้านหมั่นทำบุญทำทาน ผีมีจริง เทวดามีจริง พระพุทธเจ้ามีจริง

ฉันหลวงปู่หมุนไม่ใช่ผู้วิเศษ ฉันเสกให้เจ้าได้เพียง
ดึงเอากิ่งไม้ ขอนไม้ที่ขวางทางชีวิตเจ้าออกให้
ที่เหลืออยู่ที่บุญวาสนาเก่าก่อนของเจ้า
โชคลาภสมควรแก่บารมีของเจ้าของ

วาจาสิทธิ์หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล 1 บ่มี 2






"... สิ่งที่มันเกิดขึ้นนั้น เกิดแล้วมันต้องดับ พิจารณาเข้าไตรลักษณ์ คือ.. มันเป็นของ
ไม่เที่ยง ..."

#หลวงปู่จันทร์ศรี_จันททีโป






*ใบไม้หล่น ใบไม้ร่วง*
นำมาเป็นธรรมะย่อมเป็นธรรมะได้
เป็นเรื่องของสังขารที่ร่วงโรย เป็นเรื่องธรรมะ พิจารณากายทั้งภายนอกภายใน ถ้าจะพิจารณาเป็นของโลกก็เป็นของโลก ถ้าพิจารณาให้เป็นธรรมก็เป็นธรรม

โอวาทธรรม หลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ






"โอวาทธรรมหลวงปู่มั่น"
#ธรรมทาน_การเป็นพระถ้าใจยังไม่มีความสงบเย็นทางสมาธิธรรมแล้ว อย่าเข้าใจว่าตนจะได้รับความสุขเย็นใจที่ไหนๆเลย แต่จะเจอเอาแต่ความรุ่มร้อนที่แอบแฝงไปกับหัวใจที่ไม่มีความสงบนั้นนั่นแล
จงพากันรีบชำระแก้ไขให้พอเห็นทางเดินของจิตเสียแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ใครเพียรใครอาจหาญใครอดทนในการต่อสู้กับกิเลส ตัวฝืนธรรมอยู่ตลอดเวลา
ผู้นั้นจะเจอร่มเงาแห่งความสงบเย็นใจในโลกนี้ ในบัดนี้และในดวงใจนี้ ไม่เนิ่นนานเหมือนการท่องเที่ยวที่เจือไปด้วยสุขด้วยทุกข์อยู่ทุกภพทุกชาติไม่มีวันจบสิ้น
ธรรมทุกบททุกบาทที่ศาสนาสอนไว้ ล้วนเป็นธรรมรรื้อขนสัตว์ผู้เชื่อฟังพระองค์ให้พ้นไปโดยลำดับ จนถึงขั้นธรรมที่ไม่กลับมาหลงโลกที่เคยเกิดตายนี้อีกต่อไป
ท่านผู้ไม่หวังมาเกิดอีก ต้องประมวลโลกทั้งสามภพลงในไตรลักษณ์ที่หมุนไปด้วย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตามขั้นหยาบละเอียดของภพชาตินั้นๆด้วยปัญญา
จนปราศจากความสงสัยอุปปาทานที่ว่ายึดๆชนิดแกะไม่ออกนั้นจะถอนตัวออกมาอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทันนั่นแล ขอแต่ปัญญาเครื่องตัดสิ่งกดถ่วงให้คมกล้าเถอะ
ไม่มีอะไรจะเป็นเครื่องมือแก้กิเลสทุกประเภทอย่างทันสมัยเหมือนสติปัญญาในสามภพนี้

ผู้โพสต์ **คัดบางส่วนเป็นธรรมทานเตือนใจสาธุชนดำรงไว้ให้คนรุ่นหลังได้สืบค้นหาอ่าน
ที่มา : หนังสือประวัติ ข้อวัตร และปฏิปทา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บันทึกโดย หลวงตามหาบัว

โอวาทธรรมหลวงปู่มั่น





"..ทุกข์มากๆนั้นล่ะดีที่สุด มันจะตามเข้าไปๆ ค้นเข้าไปดูความจริง อย่าไปกลัวตาย ถึงกลัวมันก็จะแตกเหมือนเดิมร่างกายนี้ ทำไมมันถึงแตกเพราะธรรมชาติมันเป็นของแตก มันมีอายุอย่างมากก็ร้อยปี ร้อยกว่าปีก็แตกแล้ว เมื่อมันแตกแล้วมันไปไหน มันมาจากที่ไหนมันก็ไปที่เดิม เมื่อมันแตกออกจากกันดินมันก็สลายไปสู่ดิน น้ำก็ไปสู่น้ำ ไฟก็ไปสู่ไฟ ลมก็ไปสู่ลม ส่วนที่เหลือก็คือดวงจิตดวงใจ ดวงจิตดวงใจอันนี้มันยังติดใจอยู่กับร่างกาย มันยังยึดมั่นถือมั่นในกาย อย่างนี้แหล่ะมันจะย้อนกลับมาเกิดอีก ไม่อยากเกิดก็ได้เกิด ถ้ามันไม่เบื่อ
เพราะฉะนั้นท่านจึงให้มาปฏิบัติ ให้มันเห็นคุณมากๆ ให้มันเบื่อให้มันคลายความกำหนัดยินดี ให้มันทุกข์มากๆ อย่าไปปิดไว้เปิดออกมาดูให้มันเห็นจนเข็ดหลาบ มันจึงจะพ้นได้
สรุปแล้วของดีนั่นล่ะทุกข์นี่ เป็นสัจจธรรม ทุกข์ เหตุให้ทุกข์เกิด นิโรธความดับทุกข์ มรรคเป็นหนทางเข้าไปดับทุกข์ ดับตรงที่มันเกิด ถ้าว่ามากก็มาก ถ้าว่าน้อยก็น้อย ธาตุดินถ้ามันย่นเข้ามาเม็ดเล็กๆ ให้มันน้อยก็มีเหลือดินเม็ดเดียวเท่านั้นล่ะ กับจิตใจดวงเดียวเท่านั้นล่ะ ทิ้งได้ไหม ถ้าทิ้งได้ก็จบ ไม่มีอะไร เหลือแต่ดวงจิตล้วนๆ เหลือแต่ธรรมล้วนๆ
สรุปธรรมที่ท่านว่า "..อยากพ้นทุกข์ ให้วางสุขในโลก
..อยากพ้นโศก ให้วางสุข ในรัก
..สุขทุกข์นี้ ของมี ประจำโลก
..มนุษย์เศร้าโศก เพราะสุขทุกข์ ทั้งสอง
..เมื่อละสุข ละทุกข์ได้ ดั่งใจปอง
..ไม่เศร้าหมอง ขุ่นมัว ชั่วนิรันดร์.."

คติธรรมหลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
วัดป่าสีห์พนม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร






ท่านพ่อลี สอนว่า .... "ให้อยู่กับปัจจุบันอย่างเดียว"

"ในการนั่งภาวนานี้ ถึงแม้เราจะไม่มีความรู้อะไรเลย ก็ให้รู้แต่เพียงว่า

ลมเข้าเราก็รู้ ลมออกเราก็รู้ ลมยามเราก็รู้ ลมสั้นเราก็รู้ ลมสบายเราก็รู้ หรือลมไม่สบายเราก็รู้ เท่านี้ก็เป็นอันใช้ได้

ส่วนสัญญาในเรื่องต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในใจของเรานั้นก็ให้ปัดทิ้งเสีย ทั้งดีและชั่ว ทั้งอดีตและอนาคต ไม่ให้นำมายุ่งเกี่ยว และก็ไม่ต้องตามไปแก้ไข เมื่อสัญญาผ่านเข้ามา ก็ปล่อยให้ผ่านไปตามเรื่องของมัน ความรู้ของเราก็ให้เฉยอยู่กับปัจจุบันอย่างเดียว"

ท่านพ่อลี






ศึกษาทั้งสองอย่าง ทั้งสุขและทุกข์
จุดมุ่งหมายนั้น สิ่งที่ทำให้สุขเกิดขึ้น
เมื่อมันดับไป มันก็มาหาทุกข์
ทุกข์ดับเราก็มุ่งไปยึดสุขได้
นี่มันอยู่ตรงนี้แหละ

แต่แท้ที่จริง
การแสวงหานี้ต้องการความสุข
แต่สิ่งเหล่านั้นทำให้เกิดทุกข์
เราได้มาพิจารณาบ้างไหม

#หลวงปู่เปลี่ยน #ปัญญาปทีโป


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 94 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO