#ศีล
ศีล เป็นที่พึ่งเบื้องต้น ศีล เป็นมารดาของธรรมทั้งหลาย ศีล เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง
เพราะฉะนั้น...ควรรักษา" ศีล" ให้บริสุทธิ์
เจ้าคุณหลวงปู่หา สุภโร
…ต้องภาวนาให้จิตสงบ นิ่ง ว่าง เป็นอุเบกขา สักแต่ว่ารู้ ถ้ายังไม่ถึงจุดนั้น ..ก็ภาวนาต่อไป
.ถ้าออกไปรับรู้อะไร ก็ดึงกลับเข้ามาหาตัวรู้ หาความสงบ..หาความว่าง อย่าตามไป
.พอออกจากความสงบ ก็อย่าไปทำภารกิจอื่น ออกมาก็มาเจริญปัญญาเลย พิจารณาอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในสภาวธรรมต่างๆ ที่ยังมีความผูกพัน มีความยึดติดอยู่ ยังรักยังชอบอยู่ ยังหวงอยู่ ยังห่วงอยู่
.พิจารณาให้เห็นว่า เป็นอนิจจังไม่เที่ยง เป็นทุกข์ถ้าไปยึด ไปติด ไปอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่ของเรา ไม่อยู่กับเราไปตลอด
.ให้คิดอย่างนี้. …………………………………… พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี กำลังใจ ๖๐ กัณฑ์ที่ ๔๕๓ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
#การครองเรือน_มันจะไปวิเศษวิโสอะไร มีแฟนก็ทุกข์กับแฟน ต่อให้มีอีก มากมายเท่าไร มันก็ไม่พ้น ต้องทุกข์กับคนนั้นอยู่ดี
เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์ อยู่อย่างนั้น ไม่จบไม่สิ้น สุขแค่ประเดี๋ยวประด๋าว แต่ต้องทนทุกข์อย่างแสนสาหัส อยู่ในโลกใบนี้ ตัวยังไม่รู้จักเข็ดอีกหรือ
พิจารณาดูสิ ของเหล่านี้ มันมีอยู่ประจำโลก โลกอันจอมปลอมนี้ ล่อหลอกกันอยู่อย่างนี้ ใครมาเกิดในโลกใบนี้ ก็ต้องเจอของเก่า ๆ เดิม ๆ แบบนี้ พิจารณาดูสิ
สู้ฝึกจิตของเจ้าของไม่ได้หรอก ถ้าใครฝึกได้ถึงขั้นถึงภูมิแล้ว มันเหนือโลก เหนือวัฏสงสารเลยนะ นี่สิ ถึงจะวิเศษของจริง หัดคิดพิจารณาดูบ้างสิ,
โอวาทธรรม หลวงปู่ปรีดา(ทุย) ฉันทกโร วัดป่าดานวิเวก (วัดดงศรีชมภู) อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ
อย่าให้ทานโดยยึดถือเอาเฉพาะเจาะจงบุคคลคนเดียว บ่แมนว่า หลวงพ่อหรือพ่อเเม่ครูบาอาจารย์ที่เฮาเคารพศรัทธา บ่อยู่วัด แล้วบ่พากันไปจังหัน แล้วคูบาเพิ่นเฮ็ดข้อวัตรอยู่วัดเพิ่นสิฉันยัง หลวงพ่อบ่อยู่บ่ไปดอก มันบ่เข้าท่าเด้เเบบนี้เฮ้ย เอาไปทานเพิ่นโลดได้บุญได้กุศลคือกันละ
#โอวาทธรรม หลวงพ่อประมัย เตชธมฺโม วัดป่าอนุสรณ์ จ.กาฬสินธุ์
.....[ พอใจ ไม่พอใจ ชอบใจ ไม่ชอบใจ ถูกใจ ไม่ถูกใจ ถูกต้อง ไม่ถูกต้อง หรือ อารมณ์อาการใดใดของจิต ]..... .....การปฏิบัติภาวนา ไม่ได้เพ่งเล็ง ไปหมายเอาหรือละออกจาก สิ่งเหล่านี้..... .....แต่การปฏิบัติภาวนา หมายให้รู้ ให้เห็น ให้เข้าใจ ในสิ่งต่างๆเหล่านี้ ตามความเป็นจริง จนจิตไม่ยึดมั่นในสิ่งต่างๆเหล่านี้.....มันก็หมดยึดหมดทุกข์ .....หากยังหมายเอาหรือละจากสิ่งเหล่านี้อยู่...มันก็ยังยึดยังทุกข์อยู่...เพราะมันยังมีตัวเจตนา ซึ่งเป็นอัตตาตัวตนที่ออกไปละหรือยึด.....เอวัง...
หลวงปู่อุดร (พลศีล) โชติปัญโญ
#ถาม :สมถะกับวิปัสสนากรรมฐาน ต่างกันอย่างไรครับ ฝึกไปพร้อมกันได้ไหมครับ ?
#ตอบ มันเป็นบาทฐานกัน มันเกื้อกูลกัน ระหว่างสมถะกับวิปัสสนา
#สมถะ นี่คือความสงบ ระงับตั้งมั่น แน่วแน่ แนบนั่น
#วิปัสสนา คือ ความรู้ที่ตรงต่อความจริง
สมถะฝึกได้ ๔๐ กอง ไม่ว่าจะเป็นอนุสสติ ๑๐ พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ สีลานุสสติ จาคานุสสติ เทวตานุสสติ อุปสมานุสสติ มรณานุสสติ อานาปานสติ กายคตาสติ
ก็คืออุบายในการน้อมนำจิตลงสู่ความสงบ สิ่งเหล่านี้ คือการน้อมนำจิตลงสู่ความสงบ
แต่จริตนิสัยของแต่ละคนน่ะ แตกต่างกัน แต่จุดมุ่งหมายก็คือ การน้อมนำจิตลงสู่ความสงบระงับตั้งมั่น เพื่อที่จะให้เห็นตามความจริง
จิตของใครที่มีความสงบระงับตั้งมั่นแล้ว จะเป็นบาทฐานรองรับกับวิปัสสนาญาณ ก็คือ ความรู้ที่ตรงต่อความจริง ที่เป็นอิสระ จากความทุกข์ทั้งปวง
มันต้องเกื้อกูลกัน เราต้องทำทั้งสองอย่าง ถ้าเราไม่มีความสงบระงับตั้งมั่น ใจมันไม่สงบระงับตั้งมั่น ความรู้ก็ไม่จริง ความรู้นั้นก็ยังคลาดเคลื่อนอยู่
เหมือนเราคุยกัน เรื่องหนึ่งยังไม่จบ เราคุยกันได้ ๑๐ เรื่อง ๑๐๐ เรื่อง คือความรู้มันยังไม่ตรงจริง มันยังเลื่อนอยู่ มันยังไหลไปเรื่องของอดีตอนาคต
แต่ถ้าเรามีความสงบระงับตั้งมั่น มีสติบริสุทธิ์ ปราศจากเจตนา และความรู้มันก็จะผุดขึ้นมา ความรู้ที่ตรงต่อความจริง มันก็จะเห็นตามความจริง
ในขณะที่เห็นตามความจริงแค่ขณะเดียวนั่นแหละ มันจะเห็นรอบโลกธาตุเลย
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีเหตุผลในตัว เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย เสื่อมสลายไปตามเหตุปัจจัย แล้วก็ดับไปตามเหตุปัจจัย
มันจะเห็นในความรู้ของคนที่เห็น แต่ขอให้มีกำลังสติสัมปชัญญะตั้งมั่น มันจะเป็นของมัน
ให้เราสั่งสมกำลังตัวนี้ให้เยอะ กำลังสติ กำลังสมาธิ มันจะเกื้อกูลกำลังปัญญา
#พระอาจารย์ตะวัน_ปัญญาวัฒฑโก #สำนักสงฆ์ถ้ำแจ้ง #จังหวัดลำปาง
#การหวงพื้นที่ส่วนตัวนี่แหละที่ทำให้เราทุกข์
"คนที่จะสามารถรองรับกับพระสัทธรรมได้ ไม่ใช่คนที่หลบ ไม่ใช่คนที่ไม่กล้าต่อสู้กับความจริง
คือแม้แต่เรื่องของตัวเอง เมื่อเราเจอเรื่องที่เราไม่พอใจ เราก็หลบ ไปในมุมของตัวเองอย่างเนี้ย คือเราไม่เคยเปิดใจในการศึกษา ในปัญหาของสิ่งอื่นของผู้คนอื่น
ถ้าจะเปรียบเทียบเหมือนกับบ้านของเรา มีพ่อ มีแม่ มีลูก ลูกไม่เคยรับรู้เลยว่าปัญหาของบ้านมีอะไรบ้าง ค่าน้ำเป็นยังไง ค่าไฟเป็นยังไง ค่าน้ำมันเป็นยังไง ค่าชุดนักเรียน ค่าเทอม ค่าหนังสือ ค่าอาหาร ลูกจะไม่ยอมรับรู้
เพราะมันเป็นภาระที่หนัก เขาก็จะอยู่ในเรื่องของตัวเอง ถ้ามันเป็นภาระปุ๊บ ไม่เอาแล้ว ใจน้อยแบบนั้นน่ะ รองรับธรรมไม่ได้ คือใจมันคับแคบ
คือคนที่ไม่ยอมเปิดตาเรียนรู้ความจริงของความทุกข์ ความทุกข์มันมีอยู่ด้วยกันทุกคน คนที่กอดเอาแต่ความพอใจและความไม่พอใจของตน มันรองรับไม่ได้
เพราะฉะนั้น การเปิดใจ ในการศึกษากับความทุกข์ตามความจริง คือคนนั้นต้องอาจหาญระดับหนึ่งแหละ ถึงจะเรียนรู้กับความทุกข์ได้
แต่ทีนี้เรื่องเล็กๆน้อยๆ เราก็ยังไม่สามารถรองรับได้ เราคิดว่า เราจะก้าวหน้าไหมล่ะ เราคิดว่าเราจะสามารถพัฒนาศักยภาพของใจตนได้ไหมล่ะ ถ้าเราไม่สามารถสละพื้นที่ของใจตนเองได้ ก็คือปุถุชนดีๆนี่เอง
พอมีคนพูดคนกระทบกระเทียบ คนส่อเสียด คนดูหมิ่นก็โกรธ ก็งอนอีกแล้ว ก็หนีอีกแล้ว
ผู้ที่สละพื้นที่ส่วนตัวของตนได้นั่นแหละ เรียกว่า"พระ"
เห็นความต่าง เราสามารถสละพื้นที่ส่วนตัว ของตัวเองออกได้ คือผู้ที่มีใจกว้าง ยอมเรียนรู้ในความต่าง ความเหมือน ความไม่เหมือน
คนที่ออกมาเรียนรู้ตรงนี้ สามารถเปิดใจเรียนรู้ได้ คนนั้นจะมีความอาจหาญในการเรียนรู้กับพระสัทธรรม มันจะไม่มี comfort zone (คอมฟอร์ทโซน) มันจะไม่กันตัวเองไว้
คนเหล่านี้จะมีความคล่องตัวสูงมากในการเรียนรู้ ทีนี้ก็จะรู้จักบุคคล รู้จักคนที่เขาดีกว่า คนที่เขาอาวุโสกว่า คนที่เขาเสมอตน คนที่ด้อยกว่า จะรู้ เวลาพูดก็จะรู้กาล รู้เวลา รู้สถานที่ รู้บุคคล
#พระอาจารย์ตะวัน_ปัญญาวัฒฑโก #สำนักสงฆ์ถ้ำแจ้ง #จังหวัดลำปาง
|