“ผู้ไม่มีกัลยาณมิตรผู้หวังดีไว้ค่อยเตือน จะเป็นผู้หัวเดียวกระเทียมลีบ เป็นโอกาสให้ศัตรูหรือความผิดพลาด เกิดขึ้นทำร้ายตนได้ง่าย
ผู้รักนวลสงวนนามจึงไม่ควรทะนงตน ไม่ยินยอมรับฟังการแนะนำทักท้วงของผู้หวังดีเสียเลย เพราะถ้าไม่มีใครช่วยเป็นหูเป็นตา ช่วยเป็นสติปัญญาให้แก่ตนบ้าง คงใช้แต่สติปัญญาหูตาของตนด้วยทิฐิมานะตะบึงไป ดังสำนวนว่าฉันเลี้ยงตัวมาจนผมสองสีแล้ว อย่ามาสอนฉันเลย ดังนี้ ชื่อว่าย่อมขาดความรอบคอบในวิถีชีวิต จะหาความจำเริญมิได้
สำมะหาอะไรเพียงแต่การนุ่งห่ม ประดับประดาร่างกายเพื่อความเรียบร้อยสวยงาม ถึงแม้จะมีคนอื่นคอยช่วยเหลืออยู่บ้างก็ตาม ก็ยังต้องอาศัยกระจกเงา ช่วยเป็นที่ปรึกษาให้แก่ตาตนเอง อยู่ทุกครั้งแล้วขาดเสียไม่ได้ จึงไม่เป็นการชอบทั้งทางโลกทางธรรม ที่จะไม่ยินดีรับฟังการแนะนำตักเตือน จากผู้หวังดีเสียบ้าง”
พระนิพนธ์เรื่อง “วันมหาปวารณา” ซึ่งเจ้าพระคุณ #สมเด็จพระสังฆราชเจ้า #กรมหลวงชินวราลงกรณ ทรงพระนิพนธ์ เมื่อทรงดำรงสมณศักดิ์ที่ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ #วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
…….. น้อมรำลึกพระคุณูปการ เนื่องในวาระคล้ายวันสิ้นพระชนม์ ปีที่ ๓๕ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๖
“อย่าได้หลงไหลว่าเราจะสวย จะงาม หรือหนุ่มสาวอยู่เสมอไป ย่อมจะมีแก่ และเจ็บ เป็นธรรมดา
ดังนี้ ความดีอันใดที่ควรจะทำได้ ก็จงทำเสีย ตั้งแต่ร่างกายยังมีกำลังวังชาอยู่ เมื่อทำไว้เสร็จแล้ว ถึงเวลาตาย ก็จะได้ไม่ห่วงใย ในสิ่งใดอีก”
หลวงปู่ลี กุสลธโร
“จำไว้นะ ถ้าไม่มีใครคบ” ..จงเลือกเดินคนเดียว ..ถ้าหาคนมีศีลเสมอกันหรือสูงกว่าเดินด้วยกันไปไม่ได้ พระพุทธองค์ทรงให้เลือก เดินไปคนเดียว เพราะเลือกคบคนอย่างไร เราก็จะเป็นอย่างนั้น
ถ้าคบคนพาล คนโกง หลงกามคุณ ถ้าสติเราไม่พอ อีกไม่นาน เราก็จะซึมซับ สิ่งเหล่านั้นได้โดยไม่รู้ตัว
ถ้าไม่มีคนมีศีลมีธรรม อยู่รอบตัวเลย จงเลือกเดินคนเดียว และมีสติ เป็นเพื่อน..
โอวาทคติธรรม พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
การตำหนิติเตียนผู้อื่น ถึงเขาจะผิดจริงก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย ความเดือดร้อนวุ่นวายใจที่คิดตำหนิผู้อื่นจนอยู่ไม่เป็นสุขนั้นนักปราชญ์ถือเป็นความผิดและบาปกรรม ไม่มีดีเลย จะเป็นโทษให้ท่านได้สิ่งไม่พึงปรารถนามาทรมานอย่างไม่คาดฝัน
การกล่าวโทษผู้อื่นโดยขาดการไตร่ตรองเป็นการสั่งสมโทษและบาปใส่ตนให้ได้รับความทุกข์ จึงควรสลดสังเวชต่อความผิดของตน งดความเห็นที่เป็นบาปภัยแก่ตนเสีย
ความทุกข์เป็นของน่าเกลียดน่ากลัว แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทำไมพอใจสร้างขึ้นเอง ...
โอวาทธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร
บารมีต้องสร้างเอง “บารมีต้องสร้างเอา เหมือนอยากให้มะม่วงของตนมีผลดก ก็ต้องหมั่นบำรุงรักษาเอา ไม่ใช่แก่แห่ไปชื่นชมต้นมะม่วงของคนอื่น ต้องไปปลูก ไปบำรุงต้นมะม่วงของตนเอง การสร้างบารมีก็เช่นกัน ต้องสร้าง ต้องทำเอาเอง”
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
#ออกจากภพสามไม่ได้
"...ยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ติดอยู่ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ออกจากวัฏฏะไม่ได้ กรรมวัฏ วิปากวัฏ กิเลสวัฏ ออกไม่ได้ ออกจากภพสามไม่ได้ ออกจากกามไม่ได้ เพราะสละสิ่งทั้งห้าไม่ได้ ถ้าสละ ละสิ่งทั้งห้าอันเป็นสุขน้อยนี้เสียได้แล้ว เมื่อสละ ละสิ่งทั้งห้าเสียได้แล้ว จะได้ประสพสุขอันไพบูลย์ ต้องประสพสุขอันไพบูลย์แท้ๆ อันไพบูลย์ยิ่งๆ ขึ้นไป..."
#ที่มา หนังสือ อมตวาทะ หน้า ๑๑๐ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำ
..พวกเรานี้ได้ทำคุณงามความดี เพื่อจะได้ตั้งใจรักษาตนเองตั้งอยู่ในคุณงามความดีเอาไว้ เรียกว่าความเพียร..คำว่าความเพียรนี้คือทางที่พ้นทุกข์ตามหลักพุทธศาสนา ก็คือว่าเรามีความเพียรสังวรปทาน คำว่าสังวรปทาน คือสำรวมระวังเอาไว้ ให้ระวังไม่ให้ทำบาปความชั่วด้วยกายของตนเอง การทำบาปความชั่วด้วยกายก็คือ ไปทุบไปตีไปฆ่าฟันรันแทงต่างๆ ทำให้หวั่นไหวในกายของเรา และเมื่อเราเกิดมามีรูปร่างกายแล้ว เราก็รักษากายของเรา ทางด้านวาจา คือคำพูดจาปราศรัยไม่ให้ไปพูดผิดศีลธรรม อันนี้ก็เรียกว่าเราพยายามสำรวมเอาไว้ในปาก ก็คือไม่พูดโกหก ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล เราระมัดระวังสำรวมเอาไว้ไม่ให้มันเกิดขึ้น ก็เรียกว่าเรารักษาทางด้านวาจาของเรา รักษาทางด้านจิตใจของเราก็คือ จิตใจของเราคอยควบคุมดูแลเอาไว้ เพื่อไม่ให้มันเกิดโลภะมาก ..ถ้ามันเกิดโลภะเกิดขึ้นมาก เราจะเห็นว่าคนโลภะมากนั้นมีเท่าไหร่ก็ไม่พอ มีเงินอยู่หลายแสนหลายล้านหลายโกฎิก็ยังคอรัปชั่นฉ้อโกงซึ่งกันและกันอยู่ ก็เรียกว่าเรานั้นพากันรักษาทางด้านจิตใจเอาไว้ เหตุฉะนั้นการสำรวมระวังเอาไว้ เรียกว่าความเพียร เพียรละไม่ให้บาปเกิดขึ้นแก่กายวาจาใจของตน เป็นสิ่งที่เรากำลังรักษาคุณงามความดีที่จะเกิดขึ้นได้..
..#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป.. วัดอรัญญวิเวก ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
"...มีใครบ้างที่โกรธคนอื่น...แล้วมีความสุข มีใครบ้างที่เกลียดคนอื่น...แล้วไม่มีทุกข์ เกลียดเขา...เราก็ทุกข์ โกรธเขา...เราก็ทุกข์ แล้วเราจะเกลียดจะโกรธไปให้เราเป็นทุกข์ทำไม คนที่เราเกลียดเราโกรธ เขาไม่ทุกข์ไปกับเราหรอก มีแต่เรานั่นแหละ ที่ทุกข์เองอยู่ฝ่ายเดียว.."
โอวาทธรรม หลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
“จำไว้นะ ถ้าไม่มีใครคบ” ..จงเลือกเดินคนเดียว ..ถ้าหาคนมีศีลเสมอกันหรือสูงกว่าเดินด้วยกันไปไม่ได้ พระพุทธองค์ทรงให้เลือก เดินไปคนเดียว เพราะเลือกคบคนอย่างไร เราก็จะเป็นอย่างนั้น
ถ้าคบคนพาล คนโกง หลงกามคุณ ถ้าสติเราไม่พอ อีกไม่นาน เราก็จะซึมซับ สิ่งเหล่านั้นได้โดยไม่รู้ตัว
ถ้าไม่มีคนมีศีลมีธรรม อยู่รอบตัวเลย จงเลือกเดินคนเดียว และมีสติ เป็นเพื่อน..
โอวาทคติธรรม พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
|