"..ฉะนั้นการทำสมาธิภาวนา จึงเป็นวิธีปฏิบัติต่อใจได้ดีและถูกทาง ยิ่งเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อด้วยแล้ว สติปัญญายิ่งมีความสำคัญมากในการตามรู้และรักษาจิต ตลอดการต้านทานทุกขเวทนาไม่ให้มาทับจิตในเวลาจวนตัว ซึ่งเป็นเวลาเอาแพ้เอาชนะกันจริง ๆ ถ้าพลาดท่าขณะนั้นก็เท่ากับพลาดไปอย่างน้อยภพหนึ่งชาติหนึ่ง เช่น ไปเกิดเป็นสัตว์ชนิดใดก็ต้องเสียเวลานานเท่าชีวิตของสัตว์ในภพภูมินั้น ๆ ขณะที่เสียเวลายังต้องเสวยกรรมในกำเนิดนั้นไปด้วย ถ้าจิตดีมีสติพอประคองตัวได้ อย่างน้อยก็มาเกิดเป็นมนุษย์ มากกว่านั้นก็ไปเกิดในเทวสถาน ชมวิมานและเสวยทิพย์สมบัติอยู่นานปีถึงจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก เวลามาเกิดเป็นมนุษย์ก็ไม่ลืมศีลธรรมที่ตนเคยบำเพ็ญรักษามาแต่บุพเพชาติ ทำให้เพิ่มอำนาจวาสนาบุญญาภิสมภารขึ้นโดยลำดับ จนจิตมีกำลังแก่กล้าสามารถรักษาตัวได้ การตายก็เป็นเพียงการเปลี่ยนร่างจากต่ำขึ้นไปสูง จากสั้นไปหายาว จากหยาบไปหาละเอียด จากวัฏจักรไปเป็นวิวัฏจักร ดังพระพุทธเจ้าและสาวกท่านเปลี่ยนภพเปลี่ยนภูมิ เปลี่ยนเครื่องเสวยมาเป็นลำดับ สุดท้ายก็หมดสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงให้เป็นอะไรต่อไปอีก เพราะจิตที่ได้รับการอบรมไปทุกภพทุกชาติจนฉลาดเหนือสิ่งใด ๆ กลายเป็นนิพพานสมบัติขึ้นมาอย่างสมพระทัยและสมใจ ซึ่งล้วนไปจากการฝึกฝนอบรมจิตให้ดีไปโดยลำดับทั้งสิ้น.."
โอวาทธรรม พระครูวินัยธร(หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)จากหนังสือชีวประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ โดยท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน
มีญาติโยมหลายคนบอกอาตมาว่ายังไม่พร้อมจะปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระนิพพาน อาตมามักจะย้อนถามว่า “แล้วโยมเสียดายกิเลสตัวไหนเหรอ” ถ้าผู้ปฏิบัติธรรมเลือกละกิเลสบางตัวและขอเก็บกิเลสตัวอื่นๆไว้ ลงท้ายก็แทบจะไม่ได้ละอะไรเลย การปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าสู่พระนิพพานหมายถึงการทำความเพียรเพื่อมุ่งสู่ความดับกิเลสทั้งปวงโดยไม่มีข้อยกเว้น
โดยทั่วไป เรามักแปล ‘นิโรธ’ ว่า ‘ความดับ’ แต่คำแปลอีกอย่างหนึ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติธรรมคือ “การไม่เกิด” ความดับชวนให้เข้าใจไขว้เขวไปว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดและจบในคราวเดียว ทว่า ครูบาอาจารย์ผู้เข้าถึงธรรมได้สัมผัสนิโรธในชีวิตประจำวันอยู่ตลอด เพราะไม่มีกิเลสเกิดแก่ท่านเลย
ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร แปลถอดความ โดย ปิยสีโลภิกขุ
"การละกิเลสยากมากเพราะเหตุใดหรือ แม้พิจารณาให้ดี ย่อมได้รับความเข้าใจ พอสมควรว่า การละกิเลสยากมาก เพราะ พากันไปมุ่งละกิเลสผู้อื่น ไม่มุ่งละกิเลสตนเอง กิเลสจึงท่วมบ้านท่วมเมืองอยู่ทุกวันนี้"
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ
"ทำความดีอย่าไปท้อ คนไม่เห็นความดีของเรา ก็ขอให้เราเห็นความดีของเราก็แล้วกัน เราทำความดีเพื่อเรา ไม่ได้ทำความดีเพื่อผู้อื่นใด"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
“ทำกรรมดีไว้ก่อน พรนั้นจึงตามมาทีหลัง”
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
|