…ในจิตของแต่ละคนนี้ มีอริยสัจ ๔ ทำงานอยู่ตลอดเวลา เป็นเหตุและผล ๒ คู่ ทุกข์กับสมุทัยก็เป็นคู่หนึ่ง มรรคกับนิโรธก็อีกคู่หนึ่ง
.อยู่ที่ว่าฝ่ายไหนจะมีกำลังมากกว่า ถ้าสมุทัยมีกำลังมากกว่า กิเลสตัณหามีมากกว่าธรรมะ ทุกข์ก็จะมีมากกว่าสุข
.ถ้าธรรมะมีมากกว่า คือมีมรรคมากกว่าสมุทัย มากกว่าตัณหา มีทานศีลภาวนามากกว่า ความทุกข์ก็จะน้อยกว่าความสุข ถ้าไม่มีสมุทัยเลย ก็จะไม่มีความทุกข์เลย
.จึงไม่ต้องไปหาอริยสัจ ๔ ที่ไหน มันมีอยู่ในใจเราตลอดเวลา จะมองเห็นมันหรือไม่เท่านั้นเอง
.ส่วนใหญ่จะไม่เห็นกัน เพราะไม่ได้ศึกษา หรือศึกษาเพียง ตัวอักษรที่อยู่ในหนังสือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ
.ทุกข์เป็นอย่างนั้น สมุทัยเป็นอย่างนั้น แต่เวลามันทำงานอยู่ตลอดเวลานี้ กลับไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่ามันกำลังทำงานอยู่.
………………………………………… . พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๑๒ กัณฑ์ที่ ๓๗๙ วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑
"ขึ้นชื่อว่าบาปกรรม ไม่ควรดูหมิ่นว่าเล็กน้อย เปรียบเสมือนภาชนะ ที่เขาเปิดทิ้งไว้กลางแจ้ง เมื่อฝนตก น้ำฝนหยดเดียว ไม่ทำให้ภาชนะเต็มก็จริงอยู่ แต่เมื่อฝนตกบ่อยๆ ภาชนะนั้นย่อมเต็มแน่ๆ ฉันใด ผู้ทำบาปอยู่ แม้ทีละน้อยๆ ย่อมทำกองบาปให้ใหญ่โตขึ้น ตามลำดับได้ฉันนั้น"
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
|