” เครื่องกรอง “
…กิเลส ไม่ได้ออกจากใจด้วยการอธิษฐานอยากได้ เช่นทำบุญใส่บาตรก็อธิษฐาน ขอให้ไปถึงพระนิพพาน …ไปไม่ถึงหรอก
.ถ้าทำบุญอย่างเดียวไม่รักษาศีล ต้องกรองหลายชั้น ไม่ใช่กรองเพียงชั้นเดียว ถ้ากรองชั้นเดียว ก็กรองได้เพียงบางส่วน
.ทำบุญอย่างเดียวก็กรองได้เพียงบางส่วน จะไม่ทำให้กิเลสหมดไป ไม่ทำให้จิตสะอาดบริสุทธิ์ ต้องกรองทั้งทาน ทั้งศีล ทั้งภาวนา
.ภาวนาเป็นตัวกรองส่วนที่ละเอียด ทานเป็นตัวกรองส่วนที่หยาบ กรองส่วนหยาบไปก่อน ศีลก็กรองส่วนที่ละเอียดขึ้นไป
.สมาธิก็ยิ่งละเอียดเข้าไปอีก ปัญญาก็ยิ่งละเอียดเข้าไปเรื่อยๆ เพราะกิเลสมีหลายขนาด มีขนาดหยาบ ขนาดกลาง ขนาดละเอียด เครื่องกรอง..ก็ต้องเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน.
………………………………………… . พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๑๑ กัณฑ์ที่ ๓๗๓ วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๐
ทาน ศีล ภาวนา ๓ อย่างนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เรียกว่า...ธรรมที่ทำให้บุคคลเป็นเทวดา
บุคคลผู้มีทาน มีศีล....ได้มนุษย์สมบัติ บุคคลผู้มีศีล มีภาวนา...ได้สวรรค์สมบัติ
หรือ ทาน ศีล ภาวนา พร้อมกัน แต่ว่ามีกำลังอ่อนไม่สมบูรณ์
ถ้าหากว่าภาวนาได้ฌาณ ได้สมาบัติ ก็เป็นรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
เพราะฉะนั้น... บุคคลผู้ประกอบด้วย ทาน ศีล เป็นนิสัย เมื่อจิตออกจากร่างคือตายไปแล้ว ย่อมไปสู่สุคติอย่างน้อยมีมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ตามกำลังที่ได้ทำไว้แล้วนั้น...
พระราชวัชรปัทมคุณ (หลวงปู่บัวเกตุ ปทุมสิโร)
“แม้แต่พระพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐในโลก พระองค์ก็ยังดับขันธ์ เข้าสู่นิพพาน หมายความว่า พระองค์ทิ้งขันธ์ทั้ง 5 ไว้ในโลกนี้ ไม่ห่วงใยอะไรเลย ดวงจิตของพระองค์ ก็เข้าสู่พระนิพพาน เรียกว่า อมตธรรม คือ ธรรมอันไม่มีปัจจัยปรุงแต่งให้ไปเทียวเกิด เทียวตายต่อไปอีก เช่นนี้ จึงได้ชื่อว่า ได้บรรลุถึงซึ่งความสุขอันเป็นแก่นสารโดยแท้”
พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญบรรพต จ.หนองคาย
จำไว้นะ ใครจะพูดอะไรก็ช่างเขา กรรมมันอยู่ที่เขา ไม่ได้อยู่ที่ตัวเรา ไม่ต้องเอามันมาใส่ใจ
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
-อดกลั้นต่อกิเลสได้เป็นบุญใหญ่
"เราเป็นนักบวชอย่างนี้ ไม่มีเงินทองข้าวของอะไรให้ทานเลย อดกลั้น ทนทานต่ออำนาจของกิเลสนี่ ให้มันได้ในขั้นต้น นี่แหละ...บุญใหญ่
อดกลั้นทนทาน ต่อความรักความใคร่ อย่าให้มาครอบงำจิตใจ
อดกลั้นต่อความโกรธ โมโหโทโสต่างๆ อดกลั้นต่อความหลงความเมา ความอยากเพลิดเพลินไปในรูปเสียงกลิ่นรสเครื่องสัมผัสต่างๆ นานา หมู่นี้ มันไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์ เตือนตนเข้าไว้เสมอ อด... ไม่ส่งเสริมความคิดอย่างนั้น
ผู้ใดอดต่อเรื่องต่างๆ ดังกล่าวมาหมู่นี้นะได้แล้ว จิตใจมันก็ต้องหัน เข้ามาสู่...กุศลคุณงามความดีได้ ทำข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ ได้ เช่นเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนาเพราะว่า...ถ้าผู้ที่มีความอดทน ต่อกิเลสดังกล่าวมานั้นน่ะแสดงว่า ผู้นั้น... ต้องการความสงบ ไม่ต้องการความวุ่นวาย."
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
พระพุทธเจ้าสอนให้เราพิจารณาความแก่ความเจ็บความตายความพลัดพรากจากกันอยู่เรื่อยๆ ว่าเกิดมาแล้วต้องแก่เป็นธรรมดา ล่วงพ้นความแก่ไปไม่ได้ เกิดมาแล้วต้องตาย ต้องเจ็บตายไปเป็นธรรมดา ล่วงพ้นความเจ็บความตายไปไม่ได้ ต้องมีการพลัดพรากจากกันเป็นธรรมดา ล่วงพ้นไปไม่ได้
ถ้ามันเห็นความจริงแล้วความอยากมันก็จะน้อยลงไป พอความอยากน้อยมันก็จะเกิดความเบื่อหน่ายกับสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ เพราะจะเห็นว่ามันเป็นของชั่วคราว มันจะต้องมีวันจากกันไป ต้องพยายามหมั่นเจริญ “อนิจจัง” อยู่เรื่อยๆ พิจารณาความไม่เที่ยงของสิ่งต่างๆ ที่เราไปยึดไปติดไปรักไปชอบ ว่ามันเป็นของไม่แน่นอน เป็นของชั่วคราว แล้วมันก็จะทำให้เราเบื่อมัน เพราะว่าเราพึ่งมันไม่ได้
สนทนาธรรมบนเขา วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๑ หลวงพ่อสุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
...การที่มีคนพูดว่า ฌานสมาบัติหรือมรรคผลในสมัยนี้ไม่ควรหวัง เพราะไม่มีใครจะบรรลุได้นั้น ไม่เป็นความจริง ขอให้ท่านดีเท่าดีถึงเถิด ฌานและมรรคผลยังมีสนองความดีท่านอยู่เป็นปกติ
...ที่ไม่ได้ไม่ถึงแม้แต่ฌานโลกีย์ ก็เพราะแม้แต่ศีลที่เป็นความดีหยาบ ๆ ที่พระอริยเจ้าเห็นว่าเป็นของเด็กเล่น ก็ไม่สามารถจะรักษาให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ได้
...จะเอาอะไรมาเห็นผี เห็นเทวดา เห็นสวรรค์ นรก อันเป็นวิสัยของผู้ได้ฌาน เพราะศีลเป็นความดีในระยะต่ำ ก็ยังทรงไม่ได้ ความมุ่งหมายเอาพระนิพพานก็ยิ่งไกลเกินไปที่จะหวังได้ คนประเภทนี้ท่านกล่าวว่า แม้แต่ความฝันเห็นนิพพานก็ยังไม่เคยมี...
โอวาทธรรม หลวงพ่อพระราชพรหมยาน จากหนังสือ รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๖ หน้า ๒
“ตัดกรรม คือ ตัดใจ ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่พยาบาท ไม่อาฆาต ไม่จองเวร ระงับภัย
รูปภายนอก..เป็นสุข แต่ใจ..เป็นทุกข์ คนที่ละ..ความโกรธได้ ย่อมพ้น..นรกทางใจทันที #อยู่กับธรรมะอยู่ที่ไหนก็สบาย ”
ธรรมโอวาท #️หลวงพ่อสนอง_กตปุญโญ วัดสังฆทาน จ.นนทบุรี
เราเกิดมาเป็นมนุษย์ ล้วนมีกรรมผูกพันกันมาทั้งสิ้น ผูกพันในความเป็น...มิตรบ้าง ผูกพันในความเป็น...ศัตรูบ้าง ทุกชีวิตย่อมเดินไปตามกรรมที่ได้กระทำไว้ ทุกชีวิตล้วนมีกรรมเป็นเครื่องลิขิต
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)
พิจารณาสังขารภายนอก ว่ามีความเจริญขึ้นหรือเจริญลง สังขารร่างกายมีอะไร ใหม่หรือมีความเก่าแก่ชราหลุดลงไปพยายามเตรียมตัวเตรียมใจเสียแต่เวลาที่พอจะทำได้ ตายแล้วจะเสียการ ให้ท่องอยู่ในใจเสมอว่าเรามีความแก่ เจ็บ ตาย อยู่ประจำตัวทั่วหน้ากัน ป่าช้าอันเป็นที่เผาศพภายนอกและป่าช้าที่ฝังศพภายในคือตัวเราเองเป็นป่าช้าร้อยแปดพันเก้าแห่งศพที่นำมาฝังหรือบรรจุจะอยู่ในตัวเราตลอดเวลา ทั้งศพเก่าและศพใหม่ทุกวัน
โอวาทธรรม:หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
" ..ผู้ที่จะเดินไปนรก ก็เกิดมาเป็นมนุษย์นี้หละ จะไปเป็นเปรต อสูรกาย กำเนิดสัตว์เดรัจฉาน ก็ไปจากมนุษย์นี้หละ จะไปเป็นเทวดา เป็นอินทร์ เป็นพรหม ตลอดจนถึงเป็นพระอริยะเจ้า คือ โลกุตรโลก ก็ไปจากมนุษย์ของเรานี้หละ อันนี้ท่านจึงว่าเป็นสถานย่านกลาง ในการสร้างความดี และความไม่ดี แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า หรือเป็นพระอริยะเจ้า ก็ต้องมาเกิดเป็นมนุษย์ก่อน ต้องมาเกิดอยู่ในโลกนี้ก่อน.."
โอวาทธรรม:หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่าประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
“ บุคคลที่ควรเชื่อ คือ ผู้รู้ที่ใคร่ครวญแล้วและเป็นผู้มีเมตตากรุณามุ่งดีโดยแท้จริง เช่น ชนก ชนนี ครู อาจารย์ ตลอดถึงผู้หวังดีที่เป็นผู้รู้ทั้งหลาย ทางพระพุทธศาสนาคือพระพุทธเจ้า ข้อสำคัญคือต้องมีความเชื่อมั่นในตนเอง ว่าละความชั่วทำความดีได้ จะไม่หวั่นไหวไปในเครื่องยั่วยวนชวนให้หลงผิดทั้งปวง จะปฏิบัติตามโอวาทของมารดาบิดาและผู้หวังดีที่เป็นผู้รู้ ตลอดถึงพระพุทธโอวาทอันเหมาะอันควรที่จะรับปฏิบัติ. ”
--- พระคติธรรม สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
|