ความสุขความเจริญ

[รสมน]

…พวกเรา
ชอบไปหาเรื่องมาเป็นภาระกัน

.สิ่งที่จะต้องทำกลับไม่ค่อยทำกัน
เพราะความเกียจคร้าน
ชอบความสบาย ก็เลยทุกข์
ตัวเองเลยพึ่งตัวเองไม่ได้

.มัวแต่พึ่งสิ่งนั้นพึ่งสิ่งนี้ เวลานั่งสมาธิ
ก็ต้องมีที่นั่งเป็นเบาะนั่งนิ่มๆ
เวลาไปนั่งที่ไหน
ไม่มีเบาะนั่ง ก็นั่งไม่ได้

.ต้องพยายามนั่งแบบไม่ต้องใช้เบาะ
อยู่ที่ไหนก็นั่งได้ นั่งกับพื้นก็ได้
ยิ่งมีอะไรมากมันยิ่งเรื่องมาก
ทำให้การปฏิบัติมีเงื่อนไขมาก
ทำให้ยากขึ้น

“แทนที่จะทำให้มันง่าย
กลับเป็นเรื่องยากไป”.


…………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

กัณฑ์ที่ ๒๓๕ จุลธรรมนำใจ ๔
วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๔๙






"พุทธบริษัทผู้มุ่งหมายความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม จึงจำเป็นต้องมี “นิวาตธรรม” คือความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นพื้นอุปนิสัย
ขอจงระลึกไว้ว่า คุณธรรมแห่งพระอรหันต์นั้น สูงส่งเหนือกว่าอิสริยยศทั้งปวงในโลก หากแต่พระอรหันต์กลับปราศจากความอวดดื้อถือดี ปราศจากความเนรคุณลบหลู่ดูหมิ่น เพราะทุกรูปต่างมีความคารวะนอบน้อมอย่างมั่นคง ต่อพระรัตนตรัย ต่อการศึกษา ต่อความไม่ประมาท และต่อการปฏิสันถาร
ดังนี้ บรรดาผู้ยังมีธุลีในดวงตา มีกิเลสเครื่องเศร้าหมองครอบงำใจอยู่ จึงพึงเพียรหมั่นเพิ่มพูนคารวธรรม ให้งอกงามขึ้นในตนอยู่เสมอ ให้สมด้วยธรรมภาษิตที่ว่า
“มหตฺตปตฺโตปิ นิวาตวุตฺติ”
แปลความว่า “ถึงแม้จะดำรงตำแหน่งใหญ่ คืออิสริยยศที่กว้างขวาง แต่ก็ไม่ผยองด้วยยศ ถ่อมตน ทำตามโอวาทของบัณฑิต”
เพื่อความผาสุกร่มเย็นในจิตใจตน ตลอดจนประเทศชาติ และโลกนี้ได้อย่างยั่งยืน"

ส่วนหนึ่งของพระคติธรรม
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
เนื่องในวันมาฆบูชา 24 กุมภาพันธ์ 2567









..วันนี้เป็นวันสำคัญในพระพุทธศาสนา เป็นวันมาฆะบูชา ตามหลักพระพุทธศาสนาแล้วเป็นวันที่สำคัญ คือว่าพระพุทธองค์ได้ทรงประกาศพระธรรมวินัยที่ได้ทรงบัญญัติมาตั้งแต่ต้น จนถึงเทศนาเรื่องปาติโมกข์ เพื่อให้ตักเตือนและระลึกถึงข้อพระธรรมวินัยว่าทรงบัญญัติอะไรไว้บ้าง ก็เหมือนศีลที่ญาติโยมได้สมาทานไปแล้วนั้นเอง ศีลนี้เองที่ทุกคนก็เคยได้ยินกันมา
..สีเลนะ สุคะทิงยันติ..คนจะไปนรกสวรรค์ก็ด้วยการรักษาศีล
..สีเลนะโภคะสัมปะทา..คนจะได้โภคาทรัพย์สมบัติ ก็ได้มาด้วยการรักษาศีล จะได้มากเท่าใดก็ไม่มีโทษเพราะได้มาด้วยศีล
..สีเลนะ นิพพุติง ยันติ..คนจะไปถึงพระนิพพานแดนเกษมสันต์ปราศจากการเวียนว่ายตายเกิดทั้งปวง ก็ได้ด้วยศีล.....
..ให้เราย้อนนึกระลึกถึงเป็นอตีตารมณ์ในอดีตที่ผ่านมา ที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงโอวาทพระปาติโมกข์ที่ถ้ำเวฬุวันสถาน กรุงราชคฤห์ประเทศอินเดีย เหตุฉะนั้นพวกเราพุทธบริษัททั้งหลายที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ในวันมาฆะบูชาก็ควรที่จะทำคุณงามความดี ควรรักษาศีลตามกำลังความสามารถของตนเองที่จะทำได้ เหตุฉะนั้น ศรัทธาญาติโยมทั้งหลายทำบุญทำทานการกุศลก็ดี ด้านอาหารการกินก็ดี ด้านปัจจัยสิ่งของต่างๆก็ดี ก็ได้ถวายของที่บริสุทธิ์โดยผู้บริสุทธฺิ์ เพราะได้สมาทานศีลห้า ศีลแปด ได้รักษาศีลบริสุทธิ์ตั้งแต่ข้อที่ 1 งดการฆ่าการเบียดเบียน ข้อ 2 งดการลักขโมยของผู้อื่น ข้อ 3 ไม่ผิดในลูกเมียสามีภรรยาผู้อื่น ข้อ 4 ไม่กล่าวมุสาวาท ข้อ 5 ไม่ดื่มสุรากัญชายาฝิ่น เฮโรอีนผงขาว ถือว่าเป็นผู้มีศีลสมบูรณ์ เป็นหนทางที่จะเดินทางไปสู่สุคติในโลกสวรรค์ก็ดี ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ก็จะเกิดเป็นมนุษย์ผู้มีศีลอยู่นั่นเอง จึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้ร่างกายที่บริสุทธิ์สมบูรณ์ทั้งชายทั้งหญิงก็ดี ร่างกายไม่ขาดตกบกพร่องสักอย่าง เรียกว่ารูปร่างกายได้มาด้วยศีล ได้มาด้วยกรรมดี..

..#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป..
วัดอรัญญวิเวก ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่