นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อังคาร 22 เม.ย. 2025 6:55 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: สติปัญญาดี
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 23 มี.ค. 2024 10:02 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4896
“ กลัว ”

…ความกลัวไม่ได้อยู่ข้างนอก
แต่อยู่ข้างในใจเรา
เกิดจากจิตไปคิดปรุงแต่งขึ้นมา
มีอุปาทาน กลัวตายนั่นเอง

.กลัวจะเจอกับสิ่งที่ไม่ปรารถนา
ถ้าจิตไม่มีโอกาสได้คิดก็จะไม่กลัว
อย่างตอนนี้ไม่กลัวใช่ไหม
เพราะไม่ได้คิด แต่พอไปคิดปั๊บ ก็จะกลัว

.ตอนนี้นั่งอยู่ที่นี่กันเยอะๆไม่มีใครกลัว
แต่เย็นนี้ถ้านั่งอยู่คนเดียว ก็จะกลัว
ที่ก็ที่เดียวกัน ไม่มีอะไรแตกต่างกัน
ความกลัวอยู่ในใจ

.ถ้าอยู่ที่นี่ด้วยกันทั้งคืนก็ไม่กลัว
แต่ถ้าอยู่คนเดียวก็จะกลัว
เวลากลัว..อย่าส่งจิตไปคิดถึงสิ่งที่กลัว .

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

จุลธรรมนำใจ ๖ กัณฑ์ที่ ๒๕๒
วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๔๙





โยม : กรณีที่ #ห่างไกลครูบาอาจารย์ เราควรมีวิธีสำรวจตนเองอย่างไรว่าเราเข้าใกล้หรือออกห่างจากเป้าหมายการปฏิบัติครับ

พระอาจารย์ตั๋น : ดูว่าศีลของเรามั่นคงไหม ศีล ๕ นะ ถ้าศีล ๕ ไม่ค่อยมั่งคง จิตใจเราไม่มีความเข้มแข็ง บางทีเราประพฤติผิดศีลหรือว่าตั้งใจที่จะทำผิดศีลเนี่ย จิตใจเราอ่อนแล้ว แต่ถ้าเรามีความมั่นคง ศีล ๕ ให้เป็นปกติ มีความมั่นคงเป็นฐาน ทีนี้ต้องดูสมาธิ เราทำสติสมาธิจิตใจเราสงบเพียงพอไหม บางทีถ้าอยู่ไกลครูบาอาจารย์เราขี้เกียจทำสมาธิ สติก็ไม่ตั้งมั่น เราก็สังเกตเห็น แล้วใจของเราเนี่ย ที่เราอยู่ไกลครูบาอาจารย์ เราทำสมาธิภาวนาเนี่ย กิเลสมันบรรเทาเบาบางลงไปไหม หรือเรามีความโลภความโกรธความพอใจความไม่พอใจความทุกข์นั้นมาก ถ้ามากแสดงว่าเราดำเนินปฏิปทาในทางที่ออกนอกทางไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปในทางดำเนินไปเพื่อละกิเลส เราต้องปรับจิตให้ได้ หาความพอดีให้ได้ว่า ทำอย่างไรทำให้ความทุกข์บรรเทาเบาบางลงจากจิตใจของเรา

#พระราชพัชรมานิต
(พระอาจารย์อัครเดช (ตั๋น) ถิรจิตฺโต)





"..อย่าพึงเข้าใจว่าศาสนาเป็นสมบัติของพระพุทธเจ้า และเป็นสมบัติของพระสาวกองค์หนึ่งองค์ใด แต่เป็นสมบัติของผู้รักใคร่สนใจปฏิบัติทุกๆ คน ที่มุ่งประโยชน์จากศาสนา พระพุทธเจ้าและพระสาวกทั้งหลายท่าน ไม่ทรงมีส่วนอะไรกับศาสนาที่ประทานไว้สำหรับโลกเลย อย่าไปเข้าใจว่าพระองค์และสาวกทั้งหลาย จะพลอยมีส่วนดีและมัวหมองไปด้วย จะปฏิบัติผิดหรือถูกประการใดก็เป็นเรื่องของเราเป็นรายๆ ไป มิได้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าและสาวกทั้งหลาย.."

พระครูวินัยธร(หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)





"..บุคคลผู้มีสติปัญญาดี เมื่อได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังพระสัจธรรมอันเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว เขาย่อมเป็นผู้มีจิตแสนฉลาด รู้ความหมายมีศรัทธาเลื่อมใส เข้าใจในอรรถในธรรม เขาทำแต่กรรมดี ละกายทุจริต ดังจิตเจตนา เว้นห่างจากบาป เช่น ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักขโมยเอาข้าวของของผู้อื่น ไม่ประพฤติผิดมิจฉาทางกาม ไม่พูดความเท็จ พูดแต่ความจริง ไม่พูดส่อเสียดให้เกิดความทะเลาะแตกความสามัคคีต่อกันไม่พูดคำหยาบ ไม่แสลงหู ทำให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจดี ไม่มีภัยในคำพูด พูดมั่นคงมีหลักฐาน ไม่เป็นคำเพ้อเจ้อเหลวไหลไร้ประโยชน์ เป็นวาจาสะอาด นักปราชญ์นิยมชมชอบ.."

ภูริทตฺตวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร







"..พระอรหันต์ไม่ได้ผุดขึ้นมาจากไหน ก็มาจากหัวใจของปุถุชน มาจาก ราคะ โทสะ โมหะ ถ้าหากใจปุถุชนนั้นพยายามบากบั่นฝึกปรือตนให้เดินตามมรรคาสัมมาปฏิบัติ พระอรหันต์ก็มาจากที่นั่น กลั่นกรองมาจากที่นั่น เหมือนดอกบัวมาจากขี้ตม ขี้โคลนเน่า ๆ เหม็น ๆ แต่พอพ้นน้ำ รับแสงอาทิตย์แย้มบานเต็มที่ มีสง่าราศี ใครก็อยากได้อยากชม.."


โอวาทธรรมโดย
พระครูวินัยธร(หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO