” สัมมาสมาธิ “
…อย่าหลงประเด็นเวลาปฏิบัติ ต้องพุ่งเป้าไปสู่การบรรลุมรรคผลนิพพาน
.ตั้งเข็มทิศไว้ตรงนั้นเลย ถ้าจะไปทางอื่นอย่าไป เพราะไม่เป็นประโยชน์ จะเสียเวลา จะหลงทาง จะสูญเสียโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้ไป
.เพราะถ้าตายไป ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้พบพระพุทธศาสนาอีก ต้องรอคิวยาวเป็นกัปเป็นกัลป์เลย ดังนั้นตอนนี้ให้มุ่งไปสู่ การบรรลุมรรคผลนิพพาน
.มุ่งไปที่การภาวนา สมถภาวนา และวิปัสสนาภาวนา สมถภาวนาก็ต้องสงบนิ่ง เป็นอุเบกขา สักแต่ว่ารู้ จิตเข้าสู่ความว่าง ไม่มีอะไรให้รู้ ..“ถึงจะเป็นสัมมาสมาธิ”.
………………………………………… . พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๓๒ กัณฑ์ที่ ๔๕๓ วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
#ธรรมเปลี่ยนโลก
โยม : ถ้าหลวงปู่สามารถเปลี่ยนสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ในโลกนี้ ไม่ทราบว่าจะเป็นสิ่งไหน
หลวงปู่ : เราอยากให้คนรู้ธรรมะทั้งโลกนี้ ถ้าหาคนรู้ธรรมะตามคำสอนทางพระพุทธศาสนา เราก็จะอยู่ด้วยกันแบบสงบสุข นี้เป็นเป้าหมายของเรา อยากให้คนรู้ทั้งโลก ทุกลัทธิศาสนา มาศึกษาพระพุทธศาสนา ให้มีความรู้เหมือนอย่างเรารู้ ก็จะเข้าใจว่า ไม่มีความทุกข์ ความเดือดร้อน อยู่ด้วยกันทุกประเทศในโลกนี้ เราอยากให้คนรู้เรื่องอย่างนี้ โลกจะอยู่ด้วยกันด้วยความสงบสุข นี่เรามีเมตตาตรงนี้ “นี่เป้าหมาย”
ธรรมเปลี่ยนโลก หลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป
"เราทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ อย่าได้เข้าใจ ว่าเราจะสุขสบาย มีอายุยืนยาว แต่แท้ที่จริงแล้ว เราทุกคนอาจตายได้ทุกเวลา แล้วจะมาคิดเอาเอง ว่าเรายังไม่ใกล้ตาย จึงเป็นการคิดที่ประมาทอยู่
เราทุกคนยืนอยู่ ก็ยืนรอวันตาย เราทุกคนเดินอยู่ ก็เดินรอวันตาย เราทุกคนนอนอยู่ ก็นอนรอวันตาย ผลที่สุดเราทุกคน ก็ต้องตายแน่นอน
นี่แหละ เราทุกคนอย่าได้เป็นผู้ประมาทอีกต่อไป จงเตือนตนให้รีบเร่งปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิภาวนา"
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
“พระพุทธองค์ ต้องการให้เราเป็นเพื่อน เป็นกัลยาณมิตรกับตัวเอง แต่คนส่วนใหญ่ ก็กลายเป็นศัตรูกับตัวเองเสียมากกว่า เพราะขาดความรู้ในหลักความเจริญ และความเสื่อมของชีวิต
ทั้งๆ ที่ต้องการความเจริญ ก็ไม่สร้างเหตุ สร้างปัจจัย ของความเจริญนั้น ทั้งๆ ที่ไม่ต้องการความเสื่อม ก็สร้างเหตุ สร้างปัจจัยของความเสื่อมอยู่เรื่อย
พระพุทธองค์จึงตรัสไว้ว่า ไม่มีศัตรูที่ไหนร้ายกาจเท่ากับจิตใจของตน ที่ขาดการฝึกอบรม และไม่มีเพื่อนที่ดีที่ไหน ที่ยิ่งกว่าจิตที่ฝึกดีแล้ว”
พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ
|