นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อังคาร 22 เม.ย. 2025 12:07 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ความกตัญญู
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 16 เม.ย. 2024 10:54 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4897
"..สมบัติในโลกเราแสวงหามาเป็นความสุขก็พอหาได้ จะแสวงหามาเป็นไฟก็ทำให้ฉิบหายได้ จริงๆข้อนี้ขึ้นอยุ่กับความฉลาดและความโง่เขลา ของผู้แสวงหาแต่ละราย ท่านผู้พ้นทุกข์ไปด้วยความอุตส่าห์สร้างความดีใส่ตน จนกลายเป็นสรณะของพวกเรา จะเข้าใจว่าท่านไม่เคยมีสมบัติเงินทอง เครื่องหวงแหนอย่างนั้นหรือ เข้าใจว่าเป็นคนร่ำรวยสวยงามเฉพาะสมัยพวกเราเท่านั้นหรือ จึงพากันรักพากันหวงพากันห่วงจนไม่รู้จักเป็นรู้จักตาย บ้านเมืองเราสมัยนี้ไม่มีป่าช้าสำหรับเผาหรือฝังคนตายอย่างนั้นหรือจึงสำคัญว่าตนจะไม่ตาย และพากันประมาทจนลืมเนื้อลืมตัว กลัวแต่จะไม่ได้กิน ไม่ได้นอนกลัวแต่จะไม่ได้เพลิดไม่ได้เพลิน ประหนึ่งโลกจะดับสูญไปเดี๋ยวนี้ จึงรีบพากันตักตวงเอาความไม่เป็นท่าใส่ตนแทบหาบไม่ไหว อันสิ่งเหล่านี้ แม้แต่สัตว์เขามีได้เหมือนมนุษย์เรา อย่าสำคัญว่าตนเก่งกาจสามารถฉลาดรู้ยิ่งกว่าเขาเลย ถึงกับสร้างความมืดมิดปิดตามาทับถมตัวเองจนไม่มีวันสร่างซา เมื่อถึงเวลาจนตรอกอาจจนยิ่งกว่าสัตว์ ใครจะไปทราบได้ถ้าไม่เตรียมทราบไว้ตั้งแต่บัดนี้.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร(หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร








การทำงานให้ได้ผล
ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม
อารมณ์ต้องมีปัญญา
คอยกำกับอยู่เสมอ

พระอาจารย์ชยสาโร







“ให้เราท่านทั้งหลายจงพากันทิ้งภาระทั้งหลายไว้ก่อน ให้พากันนั่งนิ่งๆไม่ต้องสนใจอะไรสลัดทิ้งไป มาในวัดป่าเมตตาวนารามแล้ว สายลมพัดเย็นสบาย เสียงนกร้อง ป่าเขียวขจี กลิ่นไอธรรมชาติแล้วพากันนั่งลงตัวตรงๆสบายๆมือขวาทับมือซ้าย ขาขวาทับขาซ้าย

เสร็จแล้วพวกเราท่านทั้งหลายจงพากันนั่งดูลมหายใจเข้าหายใจออก หน้าที่อย่างอื่นไม่มี ให้จิตอยู่ในปัจจุบัน ไม่คิดเรื่องอดีต ไม่คิดเรื่องอนาคต ไม่กังวลเรื่องเกิดแก่เจ็บตายของตนเองและผู้อื่น นิ่ง สงบ เป็นหนึ่ง สบายๆอยู่นั่นสัก15นาทีต่อวันก่อนนอนก่อนหลับ ถ้านั่งไม่ได้นอนตระแคงขวา กำหนดนิ่งๆแบบนั้น แล้วค่อยหลับนอน

เมื่อสงบดีแล้วลองพิจารณาดูว่าโลกเราเปลี่ยนแปลงเกิดดับของมันอยู่อย่างนั้นเราจะทำอะไรก็ตามจะเจริญสุดๆหรือจะตกต่ำสุดๆโลกเขาก็เป็นแบบนั้นเมื่อรู้เห็นแบบนี้ ปล่อยวางมันเสียรับรู้แต่ลมหายใจเข้าหายใจออกอย่างเดียว จิตใจของเราจิตใจมันอยู่สงบละเอียดเข้าไปๆเห็นธรรมชาติของจิต ธรรมชาติของจิตคือ สะอาด สว่าง สงบ สุข บริสุทธิ์ ผุดผ่อง เป็นอิสระจากทุกสรรพสิ่ง ไม่มีหญิงชาย คนสัตว์ สิ่งของอะไรละ เป็นอันเดียวกันเหมือนกันนั่นธรรมชาติแห่งจิต

เมื่อรู้ธรรมชาติของจิต เราควรรู้ธรรมชาติของกิเลสคือ ร้อนวุ่นวาย ไม่สงบ ไม่สะอาด ไม่สุข ไม่บริสุทธิ์ ไม่ผุดผ่อง ไม่อิสระ แบ่งแยกวุ่นวายไปหมด เพราะฉะนั้น จิตที่มีกิเลสก็แยกออกได้ จิตกับอารมณ์ก็แยกออกได้ หันมาดูจิตถ้ามีอารมณ์แล้วก็ปล่อย ทั้งยินดี ทั้งยินร้ายนั่นเสีย เท่านี้เราก็จะพบธรรมชาติแห่งจิตที่เป็นธรรมชาติแท้ๆนั่นเอง”

บางตอนที่
พระครูธรรมธรดร.นิตินัย
บรรยายให้กับผู้มาอบรม วิการ86ปีพระเทพมงคลญาณ(หลวงปู่สนธิ์ อนาลโย)
12-08-62
อิทธิกร ผู้บันทึก







เรื่องผีมีจริงไหม?
"..ปัญหาที่ว่ามีผีจริงไหม? ท่านแก้ว่า ไม่ว่าแต่ผีหรือสิ่งใด ๆ ในโลก ถ้าสิ่งนั้นมีอยู่จริง สิ่งนั้นต้องเป็นอิสระไปตามความมีอยู่ของตน ไม่ขึ้นอยู่กับความสนับสนุนหรือทำลายของใครที่ไปว่าสิ่งนั้นมีจริงหรือสิ่งนั้นไม่มี สิ่งนั้นถึงจะมีหรือจะสูญไป แต่สิ่งนั้นต้องมีอยู่ตามธรรมชาติของตน ไม่มีการเพิ่มขึ้นและลดลงตามคำเสกสรรของใคร ๆ ผีที่มนุษย์สงสัยกันทั่วโลกว่ามีหรือไม่มีก็เช่นกัน ความจริงผีที่ทำให้คนเกิดความกลัวและเป็นทุกข์กันนั้นเป็นผีที่คนคิดขึ้นที่ใจ ว่าผีมีอยู่นั้นบ้างที่นี้บ้าง ผีจะมาทำลายบ้างต่างหาก จึงพาให้เกิดความกลัวและเป็นทุกข์ขึ้นมา ถ้าอยู่ธรรมดาไม่ก่อเรื่องผีขึ้นที่ใจ ก็ไม่เกิดความกลัวและไม่เป็นทุกข์ ฉะนั้น ผีจึงเกิดขึ้นจากการก่อเรื่องของผู้กลัวผีขึ้นที่ใจมากกว่าผีจะมาจากที่อื่น แต่ผีจะมีจริงหรือไม่นั้น แม้จะบอกว่าผีมีจริงก็ไม่มีพยานหลักฐานยืนยันกันพอให้เชื่อได้ เพราะนิสัยมนุษย์เราไม่ชอบยอมรับความจริง แม้ไปเที่ยวขโมยของเขามา เจ้าของตามจับตัวได้พร้อมทั้งของกลางและพยานหลักฐานมาอย่างพร้อมมูล ยังไม่ยอมรับตามความจริง แถมยังปั้นพยานเท็จขึ้นหลอกลวงเพื่อหาทางรอดตัวไปจนได้ โดยไม่ยอมรับว่าตัวทำผิด นอกจากถูกบังคับด้วยหลักฐานพยานเท่านั้นก็ยอมรับโทษไป ทั้ง ๆ ที่ใจจริงและกิริยาที่แสดงออกไม่ยอมรับว่าตัวผิด เวลาไปเป็นนักโทษอยู่ในเรือนจำแล้ว มีผู้ไปถามว่าคุณทำผิดอะไรถึงต้องมาติดคุกและเสวยกรรมอย่างนี้ นักโทษคนนั้นจะรีบตอบเป็นเชิงแก้ตัวทันทีว่า เขาหาว่าผมขโมยของเขาแต่จะยอมรับตามความจริงว่าผมไปขโมยของเขาอย่างนี้ไม่ค่อยมี รายไหนถูกถาม รายนั้นต้องตอบอย่างเดียวกัน นี่คือมนุษย์เราโดยมากเป็นอย่างนี้.."

โอวาทธรรม พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร อ้างอิงหนังสือชีวประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ โดยท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน








#ไปวัดแต่ไปไม่ถึงวัด

พอถึงวัดก็ยังมีหลุมพรางคอยอยู่
อย่างเช่น ถวายอาหารแล้ว
นั่งจ้องมองว่าท่านตักของที่เราทำหรือเปล่า
นี่คือตกหลุมแล้ว ไม่รู้ตัว ระวัง

พอไปเอาหม้อของตัวเองไปเก็บ
ถ้ายังเหลือเยอะก็น้อยใจ
แหม ท่านตักนิดเดียว
อุตส่าห์ตื่นแต่เช้า เสียใจเสียดาย
ตัวบุญมันก็เฉาไปเลย

ไม่รู้จักบุญ
ไม่รู้จักปกป้องบุญ
ไม่รู้จักรักษา
ขาดปัญญาในการทำบุญ

ถ้าจิตใจยังไม่เสียศูนย์พอ
บางคนนั่งทานข้าวนินทาคนนั้นคนนี้
ถ้าคุยการเมืองยิ่งไปกันใหญ่
เรียกว่าไปวัดแต่ไปไม่ถึงวัด

พระอาจารย์ชยสาโร







#จิตที่ไม่มีสมาธิก็เพราะมีนิวรณ์ ทำให้ไม่ได้มีความสงบ ไม่ใช้ปัญญา

"..จึงได้แสดง นิวรณ์ ๕
และกัมมัฏฐานสำหรับแก้เพิ่มเติม ดังต่อนี้

๑. ความพอใจใฝ่ถึงด้วยอำนาจของกิเลสกาม เรียกว่า “กามฉันทะ”

แก้ด้วยเจริญ อสุภกัมมัฏฐาน พิจารณาซากศพ
หรือเจริญ กายคตาสติ
พิจารณาร่างกายอันยังเป็นให้เป็นของน่าเกลียด

๒. ความงุ่นง่านด้วยกำลังโทสะ เรียกรวมว่า “พยาบาท”

แก้ด้วยเจริญ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
หัดจิตให้เกิดในทางหัดคิดให้เรียเกิดเมตตา สงสาร กรุณา
ช่วยเหลือเมื่อมีความสามารถ
เกิดความพลอยยินดีไม่มีริษยา
เกิดความปล่อยวาง หยุดใจที่คิดโกรธได้

๓. ความท้อแท้ หรือคร้าน หรือความหดหู่ง่วงงุน เรียกว่า “ถีนมิทธะ”

แก้ด้วยเจริญ อนุสติกัมมัฏฐาน
พิจารณาคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บ้าง
พิจารณาความดีของตนบ้าง
เพื่อให้จิตเบิกบาน และมีแก่ใจหวนอุตสาหะ
หรือทำอาโลกสัญญา กำหนดหมายแสงสว่าง ให้จิตสว่าง

๔. ความฟุ้งซ่าน หรือคิดพล่าน
และความจืดจางเร็ว หรือความรำคาญ เรียกว่า “อุทัจจกุกกุจจะ”

แก้ด้วย เพ่งกสิณ กำหนดลมหายใจเข้าออก
หัดผูกใจไว้ในอารมณ์เดียว
หรือเจริญมรณสติ อันจะทำให้ใจสงบด้วยสังเวช

๕. ความลังเลไม่แน่ลงได้ เรียกว่า “วิจิกิจฉา”

แก้ด้วยเจริญ ธาตุกัมมัฏฐาน หรือ วิปัสสนากัมมัฏฐาน
เพื่อกำหนดรู้สภาวที่เป็นอยู่ตามเป็นจริง

อีกอย่างหนึ่ง
ทำความกำหนดรู้จิตที่มีนิวรณ์ และนิวรณ์ที่มีในจิต
เมื่อเกิดปัญญาความรู้จักนิวรณ์ และโทษของนิวรณ์ขึ้น
นิวรณ์ก็จะสงบหายไป.."

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร
(ที่มา : “รวมธรรมะ”; พิมพ์เผยแพร่เนื่องในงานฉลอง ๑๐๐ ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
วันที่ ๑ มกราคม-๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓. หน้า ๒๒๒-๒๒๓)







"..ท่านทั้งหลายอย่าไปคาดโลกนั้นโลกนี้ว่าสนุกร่าเริงบันเทิงใจ เวลาตายไปอยากไปอยู่โลกนั้นโลกนี้ อันความอยากไม่เพียงพอกวนใจอยู่ก่อนที่ยังไม่ตาย...ยังมองไม่เห็นว่าเป็นข้าศึก...แล้วพวกท่านจะไปหาเอาความสุขจากอะไรที่ไหนกัน ถ้าท่านทั้งหลายไม่หมดความหวังว่าจะไปโลกนั้นโลกนี้อยู่อย่างนี้ ผมเองก็หมดปัญญาไปด้วย.."

โอวาทธรรม พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร






“ขออำนวยพร ขออำนาจแห่งกุศลผลบุญ
แห่งความดี ที่ทุกคนได้กระทำมาแล้ว
จงร่วมกันเป็นปัจจัยอำนวยพรปีใหม่ไทย
แด่ท่านทั้งหลาย ประสบความสุขกายสบายใจ
ประสงค์สิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นไปโดยชอบประกอบด้วยธรรม
ขอสิ่งนั้นจงเป็นผลสัมฤธิ์ ดั่งที่ประสงค์ทุกประการเทอญ”

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ






“สงกรานต์ปีนี้ เราคงต้องเปลี่ยนการรดน้ำ
ด้วยรูปธรรม คือ น้ำธรรมดา ให้เป็นนามธรรม
คือ น้ำใจ

ขอให้เราทุกคนเริ่มปีใหม่ของไทย ด้วยการ
แสดงน้ำใจไมตรีต่อกัน ขอให้รดน้ำคนรอบข้าง
ด้วยการกระทำ และการพูดที่สะท้อนถึงความรัก
ความเคารพ การสำนึกในสิ่งที่ดี ที่เราได้รับ
และได้ให้ซึ่งกัน และกัน

ขอให้แสดงน้ำใจ และความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
ทางโทรศัพท์ หรือสื่อออนไลน์ การระลึกถึงกัน
ด้วยใจบริสุทธิ์ เป็นที่มาแห่งความอบอุ่นใจ

ปีใหม่ไทยนี้ ขอให้ทุกคนเลิกแสดงออกแบบ
สาดน้ำร้อนเป็นอันขาด ให้ฝึกตนในการแสดงออก
ในทางที่ทั้งผู้แสดง และผู้รอบข้างรู้สึกเย็นสบาย
สิ่งแวดล้อมจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรต่อไป
ไม่มีใครทราบได้ แต่สิ่งที่เรามั่นใจได้ คือ ตราบใด
ที่เรามีน้ำใจต่อกันและกัน สังคมเรายังคงมีความหวัง”

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 23 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO