นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 21 เม.ย. 2025 9:35 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: สังสารวัฏ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 30 เม.ย. 2024 6:42 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4896
“ ธรรมะโดนใจคนฟัง ”

…เวลาพูดธรรมะทีไร
มักจะไปโดนใจคนฟังทุกที
เมื่อเช้าพูดเรื่องการอดสุรา อดบุหรี่
ก็มีคนมาบอกว่ากำลังจะอดพอดี

.พอฟังแล้วก็ได้อุบาย
แล้วก็มีภรรยาพาสามีมาหา
ถือดอกไม้ธูปเทียนมา
ตั้งสัจจะอธิษฐานให้หยุดดื่มสุรา
เพราะเวลาดื่มแล้วจะอาละวาด
สร้างความเดือดร้อนให้กับภรรยา

.เราก็บอกว่าให้เห็นโทษของการดื่มสุรา
ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ทั้งกับตัวเราและกับผู้อื่น
ถ้าไม่หยุดดื่ม
ก็จะต้องสูญเสียคนที่รักไป
เพราะจะทนอยู่กับเราไม่ได้

.แล้วก็บอกภรรยาว่า
“ถ้าอยู่ไม่ได้ ก็ไปดีกว่า
ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวในโลกนี้
คนดีๆไม่เอา ไปเอาคนไม่ดีทำไม”.

…………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

จุลธรรมนำใจ ๓๐ กัณฑ์ที่ ๔๔๕
วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๕





สมณศักดิ์เป็นสิ่งสมมติ ไม่มีความหมายสำหรับท่าน ท่านขอเป็นทาสของพระพุทธเจ้าพระองค์เดียว แต่ว่าเมื่อท่านทำงานให้พระศาสนา จนเจริญในสมณศักดิ์เป็นลำดับ จากพระครู เลื่อนเป็นพระราชาคณะสามัญ แล้วก็เป็น ชั้นราช ชั้นเทพ ชั้นธรรม สุดที่พระธรรมโกศาจารย์

เคยมีลูกศิษย์มาแนะหลวงพ่อพุทธทาสว่า …

“ สมณศักดิ์เหล่านี้ท่านน่าจะคืนเขาไป ”

หลวงพ่อพุทธทาสก็ตอบว่า …

".. จะคืนได้อย่างไร ก็เราไม่ได้รับมาตั้งแต่แรก จะคืนได้อย่างไร คือ แม้ทางราชการจะให้สมณศักดิ์และพัดยศมา แต่ใจเราไม่ได้รับเลย จะเป็นชั้นไหนก็ไม่เคยรับมาตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้นก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปคืนเขา ถ้าเราวางใจได้อย่างนี้ เวลาทำงาน ได้รับคำสรรเสริญ เราก็ไม่รับมาเป็นของเรา หรืออาจจะถือไว้แต่ไม่ได้เอามาสวมใส่ ทำแบบนี้จะได้รู้สึกสบายโปร่งเบา เมื่อถึงเวลาที่เขาตำหนิติฉิน เราก็ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ เพราะว่าเราไม่ได้รับตั้งแต่แรก เมื่อมีคนชมก็ไม่เพลินหรือหลงตัว เมื่อถูกตำหนิก็ไม่เสียใจ สองอย่างนี้ไปด้วยกัน ถ้าเราทำใจด้วยใจที่ปล่อยวางแล้ว เราจะทำงานด้วยใจที่สบาย อิสระ โปร่งเบา และทำด้วยความขยันหมั่นเพียร.."

หนังสือคู่มือมนุษย์/แก่นพุทธศาสตร์
ผู้เขียน: พุทธทาสภิกขุ







#คนเข้าถึงธรรมหายจากโรคได้

วันนี้จะเล่าอานิสงส์แห่งความมีศรัทธา ตั้งใจแน่วแน่ในการสวดมนต์เจริญกุศลภาวนา ทำให้หายจากโรคได้ ท่านทั้งหลายจำไว้อย่างหนึ่งว่า ถ้าคนเข้าถึงธรรมเมื่อใด จะหายจากโรคแน่ ๆ

เมื่อวานได้รับจดหมายจากหนองคายฉบับหนึ่งว่า ถ้าคนเข้าถึงธรรมเมื่อใด จะหายจากโรคแน่ๆ เขานั่งกรรมฐาน สวดมนต์ช่วยตัวเอง ไม่ต้องให้คนอื่นช่วย ไม่ต้องให้พระช่วย โรคหัวใจนี่ทำอะไรก็เหนื่อย หากคิดอะไรขึ้นมาละก็ตาย หรือถ้าโกรธก็ตายเลย

เขาสวดมนต์เจริญกุศลภาวนาอยู่ ๙ เดือน ขณะนี้โรคหายไป ๙๐% แล้ว ยังเหลืออีก ๑๐% จึงจะเป็นปกติ หมอบอกหายได้อย่างไร มีแต่จะตายเท่านั้น

การสวดมนต์นั้นสวดเพื่ออะไร สวดเพื่อต้องการให้มีสติ ช่วยตัวเองได้ คนที่มาที่นี่มีแต่มาให้พระช่วย ไม่ช่วยตัวเองเลย ไม่สนใจปฏิบัติกรรมฐาน มากันเพื่อจะปฏิบัติแลกเหมือนแบบพ่อค้าแม่ค้า ไม่ได้ผลสักราย

โยมกุศลนี่ตั้งใจจริงโรคหายไปเลย เขาขอหนังสือสวดมนต์มหาเมตตาใหญ่ วันนี้ส่งไปให้เขาแล้ว ต้องช่วยตัวเอง ต้องพึ่งตัวเอง ต้องสอนตัวเอง

ที่จังหวัดอุทัยธานี มีลุงคนหนึ่งเป็นโรคมะเร็ง หมอบอกว่า ถ้าผ่าแล้วจะอยู่ได้ ๓ ปี ถ้าไม่ผ่าต้องตายปีนี้ จะเอาอย่างไรก็เลือกเอา จงตัดสินใจเสีย

ลุงคนนั้นก็คิดว่า คนเรายังไงก็ตาย หมอก็ต้องตาย ปู่ย่าตายายตายทั้งนั้น ก็เลยบอกว่า เอาละ ผมยังไม่ผ่า หนีมาปฏิบัติกรรมฐานได้ ๗ วัน ก็กลับไปหาหมอ หมอตรวจแล้วมะเร็งหายไปเลย นี่ต้องช่วยตัวเองอย่างนี้ซิ มากันที่นี่ร้อยละ ๙๐ มาให้พระช่วย ให้แผ่เมตตาทั้งนั้น แต่ตัวเองไม่ช่วยตนเองเลย หนังสือมหาเมตตาใหญ่นี้มีมานานแล้ว ไม่มีคนสนใจ เป็นบทสวดมนต์ของเทวดาที่ต้นพิกุล มาสอนแม่ชีก้อนทอง ปานเณร ให้สวดมนต์ที่ศาลาหลังเก่า

แม่ชีอ่านหนังสือไม่ออก ตายอายุ ๙๐ กว่าปี มาอาศัยอยู่ พ.ศ. ๒๕๐๐ สมัยนั้นยังไม่มีสำนักชี เทวดามาชวนสวดมนต์ตอน ๒๔ นาฬิกา เทวดาถูกสาปจากสรวงสวรรค์เพราะผิดประเวณีนางฟ้านางสวรรค์ ได้รับโทษ ๑๐๐ ปี

หลวงสมานวนกิจ อธิบดีกรมป่าไม้มาดูบอกว่า ต้นนี้อายุพันกว่าปี ต้นลูกยังอยู่ข้างโบสถ์ เมื่อครบกำหนด ๑๐๐ ปี เวลา ๐๙.๔๕ นาฬิกา ต้นพิกุลโค่นทันที ไม่ต้องมีลมเลย หมดอายุเทวดา

อาตมาได้ตำราจากเทวดาไว้เยอะ เพราะจดเข้าไว้ ให้แม่ชีถามว่าเทวดาชวนสวดมนต์ทุกบ้านไหมได้คำตอบว่า “ไม่ทุกบ้านหรอก บ้านไหนตั้งโต๊ะหมู่บูชาพระไว้สะอาด ปูผ้าขาวไว้ และเจ้าของบ้านสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน เทวดาจะลงบ้านนี้เลย ถ้าบ้านไหนเอาเด็กไปนอนห้องพระ ห้องพระสกปรก เทวดาจะไม่เข้าบ้านนั้น”

ขอฝากไว้ด้วย ถ้าไม่เชื่อไม่ต้องเอาไป บางแห่งห้องพระสกปรกเหลือเกิน ระวังนะทำใจสกปรก สัตว์นรกมาเกิดบ้านนั้น เถียงพ่อเถียงแม่คำไม่ตกฟาก ฟ้องร้องกันวุ่นวาย เป็นกฎแห่งกรรม บ้านไหนทำใจสะอาด นักปราชญ์มาเกิด คนบริวารดีก็เข้ามาประเสริฐในบ้านนั้น ท่านทั้งหลายจงไปตีความ ไม่ใช่พูดให้ท่านเชื่อ ไม่ใช่พูดให้ท่านมีความรู้ แต่อาตมาพูดให้ท่านไปคิดกันบ้าง มีความคิดกันบ้างไหม

บางคนไม่มีความคิดเลยนะ จะเอาบุญตะพึด บุญอะไรก็ไม่รู้ ยังไม่รู้ว่าบุญคืออะไร แล้วท่านจะได้อะไรหรือ

เทวดาบอกว่า บ้านใครมีพระพุทธรูป ไม่ต้องไปปลุกเสกท่านหรอก เราหมั่นสวดมนต์ไหว้พระ เทพจะสิงในองค์พระ อาตมาได้ตำราเลย

หลวงพ่อโสธรที่แปดริ้ว มีเทวดารักษาถึง ๑๖ พระองค์ จึงได้เงินทองมากมายเป็นพันล้าน แต่วัดหลวงพ่อพุทธชินราช วัดพระนอนจักรสีห์ วัดไชโย วัดบ้านแหลม วัดไร่ขิง มีเพียง ๑๐ องค์เท่านั้นที่สิงสถิตอยู่ในองค์พระ ไม่ใช่ทองเหลืองศักดิ์สิทธิ์นะ เทพเขารักษาองค์พระ

อาตมาก็ถามว่า “คนล่ะมีเทวดารักษาไหม” เขาบอกว่า “มีทุกคน” ถ้าคนไหนจิตใจดีเทวดาบัณฑิตรักษา ถ้าจิตใจเลว เทวดาพาลรักษา บ้านนั้นเถียงกันไม่พัก ยุให้รำตำให้รั่วไปเลย ถ้าญาติโยมกลับมาสวดมนต์ไหว้พระเสมอ เทวดาบัณฑิตก็จะมาอาศัยอยู่ จะสร้างความดีในการงานของท่าน จะสร้างความดีสู่สถานการณ์ เป็นต้น

โยมกุศลทำไร่ไว้เยอะ มีทั้งพืชไร่ และสัตว์เลี้ยง มีสัตว์มากวน คนก็เบียดเบียนลักข้าวของ และมีโรคภัยไข้เจ็บ เขาบอกว่า ตั้งแต่สวดมนต์ เจริญกุศลภาวนาทุกวันตลอดมา โรคหัวใจรั่วผมหายแล้ว ๙๐% คนเคยเบียดเบียนจะมาทำร้ายผมกลับมาเป็นมิตรหมด สัตว์ร้ายที่เคยมากวนพืชไร่ไม่มีกวนเลย เขาบอกมาอย่างนี้

อาตมาก็ขออนุโมทนากับเขา เพราะเขาเป็นโรคร้ายและหายไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ มันหายปั๊บ เกิดขนลุกซู่ขึ้นมา เกิดปิติยินดี เลยบอกให้หมอทราบว่าได้สวดมนต์เจริญกุศลภาวนา คนร้ายที่เคยมาลักของที่บ้านเขาก็เลิกเลย ไม่มาลักอีกต่อไปจนบัดนี้ นี่อานิสงส์

ขอฝากให้ไปคิดนะ ไม่ใช่ฝากให้ไปทำ คิดได้ก็ทำ คิดไม่ได้อย่าไปทำให้มันเสียเวลา เพราะโยมไม่มีศรัทธาอย่าทำ ไม่มีจิตเป็นกุศลอย่าทำนะ ไม่ได้ผลอย่างแน่นอน
เวลาแผ่เมตตานะโยมนะ ถ้าเรานั่งกรรมฐานและแผ่เมตตาให้ศัตรูมาเป็นมิตร ให้ชีวิตเราสดชื่นต่อไป จะมีประโยชน์เหลือเกิน เป็นเรื่องสด ๆ ร้อน ๆ ที่เกิดขึ้น มีอะไรแปลก ๆ

ไม่มีอะไรดีเท่า #พาหุงมหากา คนไม่สวดกันเอง สวดต้องการให้มีสติดี สวดต้องการให้รำลึกเหตุการณ์ในชีวิตได้ สวดแล้วโรคภัยไข้เจ็บก็หาย ถ้าจะเป็นจะต้องตาย จะได้ไม่ต้องทรมาน จะได้รู้ว่าเขาเอาวอช่อฟ้ามารับเราไปสวรรค์ เราจะได้รีบเดินทางไป ลูกเต้าจะได้ไม่กังวลกับพ่อแม่ที่ล้มหายตายไป เรื่องที่ถูกต้องเป็นอย่างนั้น ถ้าญาติโยมเข้าใจก็ได้ผลสมคาดปรารถนาทุกประการด้วย อันนี้มีความหมายให้ญาติโยมได้เข้าใจด้วย

วันนี้ไปทำบุญร้อยวันที่กรุงเทพฯ เขาคุ้นเคยกับอาตมา มา ๓๐ กว่าปีแล้ว ไม่เคยนั่งกรรมฐานเลย ชวนก็ไม่เอา ตอนนี้ต้องบังคับแล้ว เพราะรู้ว่าเขาหมดอายุแล้ว จะต้องตายแน่ ๆ

เขาเป็นโรคปวดหลังทรมานเหลือเกิน ปวดเวลาบ่าย ๓ โมงเย็นไปจนถึงเที่ยงคืน เขาถามว่าเป็นเพราะอะไร หลวงพ่อทราบไหม? อาตมาก็บอกให้มานั่งกรรมฐานเอาเอง ลูกก็มือสั่นหงิก ๆ เลย

คุณสุกฤช ชนสัมพันธ์กุล เป็นคนจีนไม่เคยนั่งกรรมฐาน ไม่เคยช่วยตัวเอง อาตมาต้องโทรไปเรียกให้มา ต้องการจะช่วยเขาโดยด่วน เพราะลูกสาวเขาจะแต่งงาน เขาจะตายเสียก่อน ประเพณีจีน ถ้าพ่อแม่ตาย ต้องหยุดการแต่งงาน ๓ ปี ปัญหาก็คือถ้าเขาตาย ลูกจะไม่ได้แต่งงาน ๓ ปี อาจจะเกิดแปรผันไปแต่งกับคนอื่นได้

ผลสุดท้ายเขาก็มาอยู่ปฏิบัติ หายสบาย เดินได้ พอถึงเวลาแผ่เมตตาเสียปวดหลังก็หายไป ปรากฏนิมิตออกมาว่าตีแมวหลังหัก แถมเลี้ยงนกพิราบอีกตัวละ ๔-๕ แสน เอาไว้สำหรับแข่งขันกัน ไปซื้อมาจากไต้หวัน

ตอนจะตายนี่บอกให้เลิก เอาไปปล่อยให้หมด ปล่อยมันก็ตาย ต้องไปให้คนที่เขาเลี้ยงไว้จัดการต่อไป นกแข่งราคามันแพงเขาไม่ฆ่ากันหรอก ปล่อยตายเอง เขาก็จัดการ

นี่แหละนั่งกรรมฐานรู้กฎแห่งกรรมได้ว่า ตีแมวหลังหัก ตีตอนบ่าย ๓ โมง หมอตรวจแล้วบอกไม่มีอะไร ตรวจหลายโรงพยาบาล แล้วมันปวดได้อย่างไร นี่โรคกรรมจำไว้ หมอตรวจไม่พบโรคหรอก หมอตรวจไม่พบโรคแล้วรักษาไม่ได้ หมอเขาบอกหัวใจก็ดี เลือดลมก็ดี ความดันก็ดีด้วย ไม่มีอะไรทำไมถึงปวดได้ ได้แต่ฉีดยากันปวดไว้เท่านั้นเอง พอถึง ๓ โมงเย็นก็ต้องฉีดยา ตีแมวตอนนั้น ตัวเองก็เลยมาปวดตอนนั้น ชัดเจนแล้ว

แมวหลังหักแล้วก็ไปสั่นกว่าจะตาย เลยติดมาถึงลูก ลูกมือสั่นเลย เขียนหนังสือก็ไม่ค่อยได้แล้ว
เลยบอกให้ลูกมานั่งกรรมฐาน แผ่เมตตา จะยังเวลาให้อยู่ได้ เขาก็เลยมานั่งกรรมฐาน กลับไปบ้านแต่งงานลูกสาวเสร็จเรียบร้อย ก็เดินได้ อารมณ์ดี ใจสบาย เพราะได้กรรมฐานไป ได้สติ ได้หนทางไป ยังดีกว่าไม่ได้หนทางเลย

เหลืออีก ๓ วัน เขาต้องตายแน่ เพราะขอเวลาไว้ ๑๕ วันเท่านั้น ต่ออายุมาได้ ๑๕ วัน อยู่ต่อไม่ได้แล้ว เขาได้จัดการแบ่งสมบัติให้ลูกไปประกอบอาชีพการงาน จัดการเสร็จแล้วเขาก็ลาตาย มันแน่นหน้าอก และได้แผ่เมตตาให้แมว แล้วเอาไปโรงพยาบาล ไม่ต้องมีเวทนาเลย พอถึงเวทนาก็ขอลาหลับสนิทไปเลย เขามารับขึ้นวอช่อฟ้าไป นี่ดีมาก ตายอย่างนี้ดีกว่าไปตายโอยอายที่โรงพยาบาล เอาสายออกซิเจนใส่จมูกให้ยุ่งไป นี่เขาไม่ต้อง

ท่านทั้งหลายโปรดพิจารณาอย่าประมาทในชีวิตของท่าน อย่าคิดว่าไม่ตายนะ ต้องตายแน่ สาวก็ตายได้ เด็กก็ตายได้ บางคนไม่ทันร้อง ตายในท้องก็มากมาย ถ้าไม่คิดหรือคิดไม่ได้ก็ตามใจโยมเถอะ ไม่ว่ากันหรอก

คนเรามีเวรมีกรรมด้วยกันทั้งนั้น ไม่ทราบว่าจะแก้ไขได้แค่ไหน ไม่มีอะไรดีเท่าการเจริญกรรมฐาน ดีที่สุด ทำให้ลูกดีได้ แผ่เมตตาไปอย่าวุ่นวายเลย คนที่วุ่นวายคือคนขาดสตินะ คนไม่มีสติสัมปชัญญะทำอะไรไม่ได้ผล ทำอะไรไม่สำเร็จ มันอยู่ตรงนี้

คนที่ทำกรรมฐานได้ ดูง่าย ๆ จะมีแต่เมตตาและมีแต่ความขยัน ไม่ขี้เกียจ อยู่บ้านท่านอย่านั่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายขยันตลอดไป นี่กรรมฐาน

การเจริญกรรมฐานสามารถจะแผ่เมตตาช่วยคนอื่นได้ เขาส่งข่าวมาจากกรุงปารีส ฝรั่งเศส นายแพทย์ประสงค์ อายุมากแล้ว ภรรยาฝันว่าเทวทูตจะเอาตัวไป เทวทูตบอกให้มานั่งกรรมฐานที่วัดอัมพวัน เขาต้องนั่งเครื่องบินมาจากกรุงปารีสมาขออยู่ ๑๕ วัน ต้นเดือนกรกฎาคม มาทั้งสามีภรรยาและลูก เขายังอุตส่าห์เสียค่าเครื่องบินมานั่งกรรมฐาน วันนี้จะยังไม่เล่า ให้เขามาเล่าเอง

เวลาเดินจงกรมทำให้ได้ เวลามีเวทนากำหนดเวทนาก่อน ปวดตรงไหนให้กำหนดตรงนั้น บางคนปวดศีรษะมา ๗ – ๘ ปีแล้ว มานั่งกรรมฐานก็ไม่ได้กำหนดที่ปวดเลย ใช้ไม่ได้

อริยสัจ ๔ มีทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ก็แก้ที่ทุกข์ก่อน มันทุกข์ที่ปวดศีรษะ เราก็นึกมโนภาพ หลับตาเอาสติตั้งไว้ที่ศีรษะ กำหนดว่า ปวดหนอ ปวดหนอ ตายให้ตาย เดี๋ยวมันจะระเบิดขึ้นไป เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป หายปวดศีรษะเลย

พอหายแล้วมันจะบอกว่าทำกรรมอะไรไว้ เดี๋ยวนิมิตจะบอกออกมา เมื่อตอนเป็นเด็ก ๆ ทุบหัวปลาทั้งนั้น ทุบหัวปลาขายด้วยซิ แต่ไม่ถึงกับเป็นโรคประสาท เพียงแต่ปวดศีรษะไม่พัก ทำให้เสียงาน เวลาเจ็บไข้ไม่สบายทำให้เสียงาน
อโรคยา ปรมา ลาภา คนไหนไม่มีโรค คนนั้นมีลาภ ถ้าสามวันดีสี่วันไข้ต้องเข้าโรงพยาบาล โยมจะไปหาเงินได้หรือ อย่างนี้มีความหมายมาก

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
จากหนังสือกฎแห่งกรรม เล่มที่ ๘







“ขอให้อดทนอดกลั้น มีสติและปัญญา
ฝ่าความยากลำบากในครั้งนี้ไปด้วยกันให้ได้ทุกคน
อย่างน้อยก็ให้ตระหนักว่า ไม่ว่าปัญหาใดๆ
ล้วนแต่มีอยู่ เป็นอยู่ชั่วคราวแล้วก็ต้องผ่านไป

ขอเพียงวางใจให้เป็นกลาง อยู่กับปัจจุบันจริงๆ
อย่าปล่อยใจให้จมกับโทสะ แล้วจะไม่รู้สึกว่า
ความยากลำบากครั้งนี้ ยาวนานเกินกว่าความเป็นจริง

เมื่อผ่านเหตุการณ์นี้ไปแล้ว เราจะรู้ได้ถึงความเติบโต
ทางจิตใจของตนเอง และรู้ว่าบททดสอบคราวนี้
มีคุณประโยชน์ใหญ่หลวง สำหรับการเดินทางไกล
ในสังสารวัฏของเรา”

พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชโช






"หัดวางเสียบ้าง หัดวางเสียหน่อย
ก่อนที่สังขารจะบังคับให้วาง
ก่อนที่ความเฒ่าชรา และความตาย
หรือโรคร้าย จะเป็นผู้บังคับให้วาง
ถ้ายังไม่หัดวาง จะเป็นผู้ที่เหนื่อยจนตาย
แล้วก็ขนอะไรไปด้วยไม่ได้เลยในที่สุด"

หลวงปู่สิงห์ทอง ธมฺมวโร





"วิเศษเพราะเขาชม หรือเลวทรามเพราะเขาติ
เขาจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา เราจะดี หรือไม่ดี
อยู่ที่การกระทำของเราเอง"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ






"คนบางคน เมื่อยังไม่ถึงเวลา
จะไปยัดเยียดธรรมะให้อย่างไรก็ไม่ฟัง
แต่พอถึงเวลาของเขา เขาอาจเอาจริงเอาจัง
จนแซงใครๆ กลายเป็นครูบาอาจารย์ขึ้นมา
อีกคนหนึ่งก็เป็นได้ ทุกอย่างไม่แน่ แต่ที่แน่ๆ
ควรต้องรักษาจิตของเจ้าของให้ดีไว้ก่อน"

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO