"..แม้จะจนก็ยอมจน ขอแต่ให้ตัว"ดี" แต่คนโง่ชอบเงินมากกว่าคนดีและความดี ขอแต่ได้เงิน ถึงจะชั่วช้าลามก โสมมเพียงไรก็ไม่หลีกห่าง คนดีกับคนชั่ว สมบัติเงินทอง กับธรรมะ ผิดกันอย่างนี้แล.."
โอวาทธรรม พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
"..มนุษย์ก็มีกรรมชนิดหนึ่งที่พาให้มาเป็นอย่างนี้ ซึ่งล้วนผ่านกำเนิดต่าง ๆ มา จนนับไม่ถ้วน ให้ตะหนักในกรรมของสัตว์ว่ามีต่าง ๆ กัน เพราะฉะนั้น ไม่ให้ดูถูกเหยียดหยามในชาติกำเนิดความเป็นอยู่ของกันและกัน และสอนให้รู้ว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมดี กรรมชั่วเป็นของ ๆ ตน ควรมีความเมตตาในสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งมีความ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เช่นเดียวกับเรา ไม่มีอะไรยิ่งหย่อนกว่ากัน.."
โอวาทธรรม พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
"..ผู้ที่มีคุณธรรมอย่างสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรืออริยสาวกผู้ที่ไกลจากกิเลสเหล่านี้เป็นต้น ท่านจึงหลีกเร้นไปอยู่ในที่อันสงบสงัด ปราศจากสิ่งที่รบกวน เป็นอย่างนั้นเพราะสถานที่เหล่านั้นเป็นที่บำเพ็ญความสงบสงัดของใจท่านให้ได้รับความร่มเย็น
เพราะฉะนั้นอย่างเรานี้ก็เหมือนกันผู้ที่เข้ามาฟัง เข้ามาวัดเข้ามาวาฟังเทศน์ฟังธรรมจำศีลภาวนาอย่างนี้ ก็เป็นการปลดเปลื้องภาระอันภายนอกให้คลายออกไปได้เปราะหนึ่ง เช่นมารักษาศีลอุโบสถอย่างนี้เป็นต้นก็ทิ้งภาระตั้งแต่เช้าจนกระทั่งค่ำ จนกระทั่งรุ่งสว่างก็ปลดเปลื้องภาระของร่างกายออกไปจากใจจากกายได้ชนิดหนึ่ง
แต่ทีนี้การเข้ามาปลดเปลื้องอย่างนี้ด้วยรักษาอุโบสถ แต่บางทีใจนั้นยังกังวลวุ่นวาย คิดอาลัยสิ่งนั้นสิ่งนี้อยู่ตลอดเวลา เราก็ต้องใช้การประหัตประหารอย่าให้สิ่งเหล่านั้นมาบั่นทอน บั่นทอนความดีของเราอันนั้นที่ตั้งใจจะบำเพ็ญให้เกิดขึ้น คือไม่ได้อะไรก็ให้นึกถึง พุทโธ ธัมโม สังโฆ บทใดบทหนึ่ง อย่าให้สิ่งนั้นเข้ามากวนใจของเรา เมื่อรู้ตัวอย่างนั้นแล้ว ก็พยายามระลึกอยู่ตลอดเวลา ใจนั้นก็จะบังเกิดความสุข คือ เกิดความสงบของหัวใจนั่นเอง
อย่างนั้นจึงเรียกว่า "ศีลบริสุทธิ์" ไม่ด่างพร้อย ไม่เศร้าหมอง ถึงซึ่ง "ความบริสุทธิ์ของสมาธิ" ได้อย่างนั้น นั่นเรียกว่า "ผู้ที่อบรมถูกทาง" ถูกต้องเรียกว่าตามกายวาจาใจ พร้อมด้วยศีลและก็เข้าถึงสมาธิ อย่างนี้เป็นต้น.."
โอวาทธรรม พระครูสุทธิธรรมรังษี (หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท) วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี (พ.ศ.๒๔๕๙-๒๕๔๗)
"..ศาสนาคือคำสั่งสอนของท่านผู้ฉลาด ท่านสอนคนเพื่อให้เกิดความฉลาดทุกแง่ทุกมุม ซึ่งพอจะพิจารณาตามท่านได้ แต่เราอย่าฟังเพื่อความโง่ อยู่ด้วยความโง่ กินดื่มทำพูดด้วยความโง่ คำว่าโง่ไม่ใช่ของดี คนโง่ก็ไม่ดี สัตว์โง่ก็ไม่ดี เด็กโง่ ผู้ใหญ่โง่ มิใช่ของดีทั้งนั้น เราโง่จะให้ใครเขาชมว่าดี จึงไม่ควรทำความสนิทติดจมอยู่กับความโง่โดยไม่ใช้ความพิจารณาไตร่ตรอง ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์โดยประการทั้งปวง จึงไม่ควรแก่สมณะซึ่งเป็นเพศที่ใคร่ครวญไตร่ตรอง.."
โอวาทธรรม พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)อ้างอิงหนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
"ความดี กับความไม่ดี ขึ้นอยู่กับเหตุ คือเราทำไว้ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับคนพูด"
หลวงปู่ศรี มหาวีโร
“หลวงพ่อเคยเตือนพวกเราเรื่อยๆ เรามีคู่ วันหนึ่งเราก็ต้องอยู่คนเดียว เคยอยู่กัน ๒ คน เหลือคนเดียว มีลูก ลูกก็ไปอยู่ที่อื่น สังคมมันเป็นอย่างนี้ เราต้องอยู่กับตัวเองให้ได้ มีความสุขให้ได้
อยู่กับธรรมะมีความสุข พึ่งคนอื่นความสุขเราอิงอาศัยคนอื่น อิงอาศัยสิ่งอื่น มีแต่ของไม่แน่นอน ความตายมาถึงเมื่อไหร่ก็ได้ ความพลัดพรากมาถึงเมื่อไหร่ก็ได้
พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ ละเอียดรอบคอบ ไม่ให้เราประมาท บอกว่าความตายเป็นของแน่นอน ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก การประสบสิ่งที่ไม่รัก ความไม่สมปรารถนาเราต้องเจอ
ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เราต้องเจอ ทีนี้ทำอย่างไร เราจะสามารถผจญกับมันได้อย่างเข้มแข็ง”
พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
"สิ่งสำคัญในชีวิตเราคือ ต้องพึ่งตนเอง คนเราเกิดคนเดียว แก่ก็แก่คนเดียว เจ็บก็เจ็บคนเดียว ตายก็ตายคนเดียว เรื่องการละกิเลส การบำเพ็ญกุศล ไม่มีใครทำให้เราได้ เป็นงานของเราโดยเฉพาะ"
พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ
|