Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

รีบเร่งปฏิบัติธรรม

จันทร์ 13 พ.ค. 2024 4:53 am

เคยไปพักที่วัดป่าบ้านตาดหลายครั้ง ในสมัยองค์หลวงตามหาบัวท่านยังอยู่ ส่วนตัวก็ไม่เคยเห็นหลวงปู่เชอรี่ท่านล้มตัวลงนอนให้เห็นสักครั้งเลย เคยถามท่านว่าครูจารย์นอนพักผ่อนเวลาไหน

หลวงปู่เชอรี่ท่านบอก...

"กิเลสมันพาเรานอนหลงมาหลายชาติแล้ว ชาตินี้เราจะพามันตื่นลืมตาขึ้นมาดูธรรมบ้างจะเป็นไร"...

หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าภูผาแดงบอกสมัยท่านอยู่วัดป่าบ้านตาดด้วยกัน "หมากสีดา (ฝรั่ง) เชอรี่" พระอาจารย์เชอรี่ อภิเจโต ท่านจะหลับเหมือนช้าง คือการนั่งหลับตาพอให้ธาตุขันธ์ของตัวเองได้พักซักเล็กน้อย พอลืมตาขึ้นมาพระอาจารย์เชอรี่ท่านก็จะลุกออกไปเดินรอบวัด การเดินรอบวัดของพระอาจารย์เชอรี่ หลวงปู่ลีผาแดงบอก นั่นคือการเดินจงกรมในแบบนิสัยส่วนตัวของ "ท่านหมากสีดา (ฝรั่ง) เชอรี่"...

ครูบากล้วย ธีรภัทโท





” ได้รับจดหมายจากนักโทษ “

…เมื่อ ๒ วันก่อนก็ได้รับจดหมายจากนักโทษคนหนึ่ง เขาอยู่ในแดนประหาร กำลังรออุทธรณ์อยู่ เขาบอกว่าได้อ่านหนังสือกำลังใจเล่มที่ ๑๕ และ ๑๖ ของเพื่อนนักโทษด้วยกัน อ่านแล้วมีความสุขมีความสบายใจ มีแสงสว่าง ถึงแม้จะอยู่ในคุกในตะราง เขาก็สามารถมีความสุขได้

.เพราะมีธรรมะสอนใจให้เขาอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ระงับดับความอยากต่างๆได้ เพราะความทุกข์ไม่ได้เกิดจากสถานที่ๆเราอยู่ ไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์รอบตัวเรา แต่เกิดจากความอยากต่างๆ ถ้าไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ อยากจะให้เป็นอย่างอื่น ก็จะสร้างความทุกข์ให้กับเรา

.แต่ถ้ายอมรับสภาพความจริง เราอยู่ตรงนี้ เราเป็นอย่างนี้ เรามีอย่างนี้ เราพอใจกับมัน เราก็จะไม่ทุกข์ คนที่อยู่ในคุกหลังจากที่ได้อ่านหนังสือแล้ว เข้าใจในหลักธรรมนี้ ก็สามารถทำใจให้มีความสุขได้ เหมือนกับคนที่อยู่นอกคุกอย่างพวกเรา ที่มาสร้างความสุขให้กับใจของเราในวันนี้ ด้วยการมาทำทาน ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้เรามีความสุข.

…………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

จุลธรรมนำใจ ๑๕ กัณฑ์ที่ ๓๘๗
วันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๑







#สวดมนต์แล้วเงินงอก

"ถ้าคนใดมีสติสัมปชัญญะครบ อุดมคติอุดมการณ์จากสติปัฏฐาน ๔ แล้ว เงินไหลนองทองไหลมา

หมายความว่าอุดมสมบูรณ์ ถ้าใครมีสติอุดมสมบูรณ์ จึงเรียกว่าสติปัฏฐาน ๔ อย่างนี้คนนั้นอุดมสมบูรณ์แน่ ถ้าเป็นพ่อค้าแม่ค้ารวยมหาศาล เพราะอุดมสมบูรณ์ด้วยสติ ค้าขายมีสติ ปัญญาเกิด รู้ว่าขาดทุนได้กำไรรู้ล่วงหน้าเสียด้วยนะนี่ จึงเรียกว่าอุดมสมบูรณ์

สรุปว่าธรรมสติปัฏฐาน ๔ นี้ อุดมสมบูรณ์พร้อมมูลบริบูรณ์ดีด้วยสติทุกประการ มีสติดีแล้วสตางค์มา ถ้าคนไหนไม่มีสติสตางค์หนี สตางค์หนีหมดแน่นอนนะ

วิระทะโย วิระโคนายัง โยมสวดคาถาให้เงินมา แล้วสวดแล้วเงินมาไหม ถ้าฝรั่งถามอย่าไปตอบว่าสวดแล้วเงินมานะ สวดไปทำไมโยม เดี๋ยวไปสวดเงินไม่มา ด่าเราแหลก

#สวดแล้วจิตงอก พอจิตงอกแล้วเงินมันก็งอก ถ้าหากว่าเราสวดแล้วจิตมันหดเงินมันก็หดด้วย ไม่ใช่สวดแล้วได้เงินเลย โยมพอจิตมันงอกนะ จิตก็แตกก้านสาขาเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของจิต แล้วเงินก็มา ถ้ายิ่งสวดไปจิตหดนะ จิตหดเงินหดด้วย ข้าวในหม้อก็หดด้วยหดหมด เพราะฉะนั้นตอบได้เลยว่า วิระทะโย วิระโคนายัง สวดให้จิตขึ้น พอจิตสบายอุดมการณ์เกิดขึ้นมีสติครบ รับรองนึกเงินได้เงิน นึกทองทองไหลมา

โยมจำไว้สวดไว้จิตงอก ถ้าจิตของท่านทั้งหลายงอกทุกคนนะ รับรองสำเร็จตามเป้าหมายและจุดประสงค์ทุกประการ ถ้าจิตหดแล้วนะหม้อแบตเตอรี่หมดไฟ รถทำอย่างไรถึงจะไปได้ คุณโยม ไม่เอาใจใส่แบตเตอรี่ในเมื่อเราไม่ใช้มัน ไม่สตาร์ทมันก็หมดไฟไปนะ ต่อไปอะไรเสียแผ่นผ้าเสีย ในเมื่อแผ่นผ้าเสียแล้วต่อไปทำอย่างไร ต้องโยนหม้อแบตเตอรี่ทิ้งซื้อใหม่เสียเงิน นี่กำลังใจตกนะ ถ้าเพิ่มพลังจิตโดยใช้สติทุกประการเท่านั้นเป็นการเพียงพอ เพิ่มสติเพิ่มกระแสไฟทั้งชาร์ททั้งสตาร์ท"

ธรรมคำสอน..
พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

คัดลอกจากหนังสือ กฏแห่งกรรม ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑
เรื่อง ประสบการณ์การปฏิบัติธรรม โดย..พระครูภาวนาวิสุทธ์






“ภาวนา อย่างน้อยภาวนาให้ได้
ถ้าจะตายอยู่ลำพัง ไม่มีแรงกระทั่งจะกินข้าว
ไม่มีแรงกระทั่งหาน้ำกิน จะอยู่ได้ยังไง
อยู่ด้วยธรรมะได้ไหม?
ร่างกายทุกข์ แต่ใจไม่ทุกข์ ทำได้ไหม?
ยังทำไม่ได้ ก็ไปฝึกทำอย่างที่หลวงพ่อสอน
ไปดูให้ดี โลกนี้มีแต่ความทุกข์
ความทุกข์กำลังรอเราอยู่ข้างหน้า
อย่าหลงระเริง รีบภาวนาเข้า”

พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช




"การกราบ ช่วยแก้ความถือตัวของเรา
ได้เป็นอย่างดี เราควรกราบบ่อยๆ
เมื่อท่านกราบสามหน ท่านควรตั้งจิต
ระลึกพระคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม
และพระสงฆ์ นั่นคือคุณลักษณะแห่งจิต
อันสะอาด สว่าง และสงบ

ดังนั้น เราจึงอาศัยรูปแบบนี้ฝึกฝนตน
กายแลจิตจะประสานกลมกลืนกัน
อย่าได้หลงผิดไปจับตาดูว่าผู้อื่นกราบอย่างไร
ถ้าสามเณรน้อยดูไม่ใส่ใจ และพระผู้เฒ่าดูขาดสติ
ก็ไม่ใช่เรื่องที่ท่านจะตัดสิน

บางคนอาจจะสอนยาก บางคนเรียนได้เร็ว
บางคนเรียนได้ช้า การพิจารณาตัดสินผู้อื่น
มีแต่จะเพิ่มความหยิ่งทะนงตน จงเฝ้าดูตัวเอง
กราบบ่อยๆ ขจัดความหยิ่งทะนงตนออกไป"

หลวงปู่ชา สุภทฺโท





"เราทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้
อย่าได้เข้าใจว่าเราจะสุขสบายมีอายุยืนยาว
แต่แท้ที่จริงแล้ว เราทุกคนอาจตายได้ทุกเวลา
แล้วจะมาคิดเอาเองว่าเรายังไม่ใกล้ตาย
จึงเป็นการคิดที่ประมาทอยู่
เราทุกคนยืนอยู่ ก็ยืนรอวันตาย
เราทุกคนเดินอยู่ ก็เดินรอวันตาย
เราทุกคนนอนอยู่ ก็นอนรอวันตาย
ผลที่สุดเราทุกคนก็ต้องตายแน่นอน
นี่แหละ เราทุกคนอย่าได้เป็นผู้ประมาทอีกต่อไป
จงเตือนตนให้รีบเร่งปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิภาวนา"

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
ตอบกระทู้