“ให้เป็นคนดีเด้อ บ่ต้องอยากเก่งอยากดังดอก ถ้าเฮาดีอิหลีแล้ว ความเก่งจะตามมาเองบ่ต้องประกาศ คนเก่งบางคนนั้นก็ใช่ว่าจะดี คนดีนี่สิหายากมีค่ากว่าทรัพย์สินหลายเท่า ไผสิเก่งกะช่างเขา ไผสิดังกะช่างเขา แต่เฮาเฮ็ดโตเฮาให้ดีกะพอ”
#คำสอนพระผู้เฒ่า หลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท
" ถาม : ผมยังคงมีความนึกคิดต่างๆ มากมาย จิตของผมฟุ้งซ่านมาก ทั้งๆ ที่ผมพยายามจะ มีสติอยู่ ?
หลวงพ่อชา : อย่าวิตกในเรื่องนี้เลย พยายามรักษาจิตของท่าน ให้อยู่กับปัจจุบัน เมื่อเกิดรู้สึกอะไรขึ้นมาภายในจิต ก็ตาม จงเฝ้าดูมัน และปล่อยวาง... แล้วจิตก็จะเข้าถึงสภาวะปกติตามธรรมชาติ ของมัน
ไม่มี...การแบ่งแยกระหว่างความดี และความชั่ว ร้อน และหนาว ไม่มีเรา ไม่มีเขา ไม่มีตัวตนเลย อะไรๆ ก็เป็นของมัน อยู่...อย่างนั้น
จงรู้จักตัวเอง ด้วยการปฏิบัติตน เป็นปกติตามธรรมชาติ และเฝ้าดู... เมื่อเกิดสงสัย จงเฝ้าดู(ความสงสัย) มันเกิดขึ้น และดับไป มันก็ง่ายๆ อย่ายึดมั่น ถือมั่น กับสิ่งใดทั้งสิ้น
เหมือนกับว่า...ท่านกำลังเดินไปตามถนน บางขณะ ท่านจะพบสิ่งกีดขวางอยู่ เมื่อท่านเกิดกิเลสเครื่องเศร้าหมอง จงรู้ทันมัน และเอาชนะมัน โดยปล่อย...ให้มันผ่านไปเสีย อย่าไปคำนึงถึงสิ่งกีดขวางที่ท่านได้ผ่านมาแล้ว
อย่าวิตกกังวล กับสิ่งที่ยังไม่ได้พบ จงอยู่...กับปัจจุบัน ไม่ว่าท่านจะผ่านอะไรไป อย่าไปยึดมั่นไว้ ในที่สุด...จิต ก็จะบรรลุถึงความสมดุลตาม ธรรมชาติของจิต
และเมื่อ นั้น... การปฏิบัติก็จะเป็นเองโดยอัตโนมัติ ทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้น และดับไป ในตัวของมันเอง." _________________________________________ หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง.
” นี่คือเรื่องของการปฏิบัติ “
…ร่างกายเป็นวงจรของดินน้ำลมไฟ เป็นการรวมตัวของดินน้ำลมไฟ แล้วก็แยกสลายไป
.พอร่างกายตายไปแล้ว น้ำก็กลับไปสู่น้ำ น้ำก็ไหลออกจากร่างกายไป ความร้อนก็ออกไป อากาศก็ระเหยออกไป ทิ้งร่างกายไว้สักระยะหนึ่ง ก็จะแห้งกรอบ เนื้อหนังก็จะแห้งกรอบ ต่อไปก็จะผุไป กระดูกก็จะผุไป กลายเป็นดินไป
.ส่วนใจ เป็นแบบร่างกายหรือเปล่า ไม่เป็นหรอก เพราะใจคือผู้รู้ เวลาจิตสงบ ก็มีแต่ผู้รู้อยู่ตัวเดียว ไม่มีกาย พอผู้รู้ๆอย่างนี้..ก็เข้าใจ ก็เลยไม่ยึดติดกับร่างกาย ปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามเรื่องของเขา ยอมรับความจริงของร่างกาย พอรับได้ ก็สบายใจ
.ถ้าอยากรู้ว่ารับได้จริงหรือไม่ ก็ต้องพาร่ากายไปพิสูจน์ดู พาไปปล่อยไว้ในป่าช้าบ้าง ปล่อยไว้ในที่น่ากลัวๆ ที่อาจจะมีภัยต่อร่างกาย ดูสิว่า จะปล่อยมันได้ไหม จะวางเฉยได้ไหม
.ถ้าวางเฉยได้ ไม่เดือดร้อน มันจะเป็นอะไรก็ให้มันเป็นไป พอมันปล่อยได้จริงๆแล้ว “ ใจจะโล่งจะเบาสบาย ” จะไม่วิตกกังวลกับร่างกายอีกต่อไป
.นี่คือเรื่องของการปฏิบัติ.
………………………………………… . พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๑๕ กัณฑ์ที่ ๓๘๖ วันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๑
"การเป็นเจ้าคุณเป็นเรื่องสมมติของโลก แต่ท่านก็ยังเป็นหลวงพ่อคนเก่า"
"แต่สะพานยังอยู่ที่เก่านะ สะพานข้ามน้ำมูลน่ะ ถึงน้ำจะขึ้น สะพานมันก็ไม่โก่ง น้ำจะลงสะพานมันก็ไม่แอ่นตาม ..."
โอวาทธรรม
#พระโพธิญาณเถร หลวงพ่อชา สุภัทโท
"พวกเราทั้งหลาย คิดดูให้เห็นโทษ และคุณแห่งความตายเสียให้ชัด ผู้มีปัญญาไม่ควรประมาทความตาย ให้เห็นว่าเป็นสมบัติสำหรับตัวเรา เราจะต้องตายในกาลอันสมควร ไม่ควรจะเกลียด ไม่ควรจะกลัวสังขารทั้งหลาย คือ สัตว์ที่เกิดมาในไตรภพ จะหลีกพ้นจากความตาย ไม่มีเลย
เมื่อมีความเกิดเป็นเบื้องต้นแล้ว ย่อมมีความตายเป็นเบื้องปลายทุกคน นัยหนึ่ง ให้เอาความเกิดความตาย ซึ่งมีประจำทุกวัน เป็นเครื่องหมาย เมื่อพิจารณาถึงความตาย ก็ต้องพิจารณาถึงความป่วยไข้ และความแก่ชรา เพราะเป็นเหตุเป็นผลกัน
ให้พิจารณาถึงพยาธิความป่วยไข้ว่า พยาธิ ธมฺโมมหิ พยาธิ อนตีโต เรามีความป่วยไข้เป็นธรรมดา จะข้ามล่วงพ้นไปจากความป่วยไข้หาได้ไม่ ถ้าแลพิจารณาเป็นความชราอันเป็นปัจจุบันได้ ก็ยิ่งประเสริฐ
ความระงับสังขารทั้งหลายนั้น ท่านมิได้หมายถึงความตาย ท่านหมายถึง วิปัสสนาญาณ และอาสวักขยญาณ คือปัญญารู้เท่าสังขาร รู้ความสิ้นไปแห่งอาสวะ เป็นชื่อของพระนิพพาน เป็นสุดยอดแห่งความสุข"
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท)
“การให้ด้วยความเต็มใจนั้นมีอานิสงส์มหาศาล ของที่ให้แม้จะน้อย แต่ให้ด้วยความเต็มใจ ก็มีอานิสงส์มากกว่าเงินจำนวนมาก แต่ให้เพราะ อยากได้หน้า หรือให้แต่เสียดาย เราเหลือกินเหลือใช้ ก็ให้ไปเถอะ เลี้ยงคนไม่ทำให้จนลงหรอก ทรัพย์สมบัติทั้งหมดเป็นของโลก ตายไปเอาไปไม่ได้ ความมีน้ำใจเป็นสิ่งสำคัญ เราอยากให้ใครดีกับเรา เราต้องดีกับเขาก่อน ทำอะไรด้วยความตั้งใจที่ดี ความบริสุทธิ์ใจ”
หลวงปู่ไพบูลย์ สุมังคโล
"ขอให้ทุกท่านมีกำลังใจ ปลอดภัยทุกคน สบายกาย สบายใจ พยายามทำสมาธิ สะสมพลังจิต เพิ่มพูนพลังจิตเยอะๆ และรักษาคุณงามความดี อย่าไปทุกข์ กับโรคภัยไข้เจ็บ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป"
หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร
“ไม่มีอะไรที่จะเป็นไปตามใจเรา มันเป็นไปตามธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บไข้ ความวิบัติเหล่านี้ มันเป็นของธรรมดา ไม่ใช่มีมาให้เรากลัว ไม่ใช่มีไว้สำหรับให้เรากลัว แต่มีไว้สำหรับ ให้เราเรียน ให้เราศึกษา ให้เรากล้าเผชิญหน้า สิ่งที่ไม่ตรงกับความต้องการของเรานั่นแหละ มันมาเพื่อให้เราเรียน หรือมาเพื่อสอบไล่ ความเก่งของเรา”
ท่านพุทธทาสภิกขุ
|