Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

ความกลัว

พฤหัสฯ. 16 พ.ค. 2024 10:52 am

"..ศาสนาคือคำสั่งสอนของท่านผู้ฉลาด ท่านสอนคนเพื่อให้เกิดความฉลาดทุกแง่ทุกมุม ซึ่งพอจะพิจารณาตามท่านได้ แต่เราอย่าฟังเพื่อความโง่ อยู่ด้วยความโง่ กินดื่มทำพูดด้วยความโง่ คำว่าโง่ไม่ใช่ของดี คนโง่ก็ไม่ดี สัตว์โง่ก็ไม่ดี เด็กโง่ ผู้ใหญ่โง่ มิใช่ของดีทั้งนั้น เราโง่จะให้ใครเขาชมว่าดี จึงไม่ควรทำความสนิทติดจมอยู่กับความโง่โดยไม่ใช้ความพิจารณาไตร่ตรอง ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์โดยประการทั้งปวง จึงไม่ควรแก่สมณะซึ่งเป็นเพศที่ใคร่ครวญไตร่ตรอง.."

โอวาทธรรมคำสอน
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒) อ้างอิงหนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน






#ธรรมของฆราวาสมี ๔ ข้อ ขึ้นต้นด้วย #สัจจะ ฝึกให้เป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต ข้อนี้เป็นประธาน

ข้อที่สอง #ทมะ รู้จักข่มอารมณ์โกรธ อารมณ์รุนแรง ข่มไว้บ้าง อย่าไปแสดงกระทบกระเทือนคนอื่น

ข้อที่สาม #ขันติ ต้องอดต้องทน ต้องฝ่าต้องฝืน ดีเลิศจริง ๆ ขันตินี้หนุนจิต ทำหน้าที่การงานก็ต้องถูกกระทบกระเทือน ต้องอดต้องทน ต้องฝ่าต้องฝืน คำของหลวงปู่มั่นท่านว่า ธรรมของผู้มีความเพียร คือผู้อดทน ผู้มีความเพียร ทั้งหน้าที่การงานต้องฝ่าต้องฝืนด้วยความอดทน เป็นยอดคนด้วยความอดทน

ข้อที่สี่ เป็นหลักธรรมชาติ ไม่ต้องอธิบาย คือ #จาคะ อยู่ร่วมกันถ้าไม่เสียสละซึ่งกันและกัน ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ธรรมชาติตัวนี้ไม่ใช่แต่มนุษย์ สัตว์ก็ยังรักลูกมัน อย่างไก่ออกมาก็ยังเอาปีกเอาเท้าเขี่ยอาหารให้ลูก กุศลตัวนี้เป็นคุณหนุนจิตล้วน ๆ เสริมขึ้นเท่าไรมีแต่บุญล้วน ๆ ส่วนกิเลส ถ้าล้นขึ้นเท่าไรเป็นไฟเผาโลก เผาเจ้าของ เผาสัตว์ เผาพินาศป่นปี้หมด ท่านจึงว่า กิเลสเป็นไฟเผาโลก

พวกเราไปคิดไปอ่าน ให้สังวรระวัง ธรรมของฆราวาสนี้ ระวังทุกวัน ๆ สังวะเร วิรานิจะ สังวรระวัง อย่าให้ตัวเองทำความชั่ว คำนี้คำเดียว สังวรระวัง มีอยู่ในหัวใจของใครของมัน ก็ตั้งตัวนี้ขึ้นมาให้เป็นพลัง สังวรไม่ให้ความชั่วเกิดขึ้นในใจเจ้าของ บาปก็มีทางกาย ทางวาจา ทางใจ ฆ่าสัตว์ ลักขโมยเขา ปล้นจี้ ประพฤติผิดในระหว่างคู่ครอง อันนี้ทำลายน้ำใจกัน ฝ่ายคุณคือกุศลมูล ฝ่ายโทษคืออกุศลมูล เป็นฝ่ายต่ำ ฝ่ายเป็นพิษเป็นภัย มีมากเลย เป็นไฟบรรลัยกัลป์เผาโลก ท่านว่ากิเลสเป็นไฟเผาโลก ให้พากันไปคิดเอา

ขอให้พี่น้องทั้งหลาย น้อมนำคำพระพุทธเจ้าไปแก้จิตเจ้าของ มโนปุพพัง คมา ธัมมา มโน เสฏฐา มโนมยา ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจ ใจตัวนี้ถ้าฝึกด้วยพลังของธรรมแล้ว ทำอะไรงามดี ไม่มีโทษ ไม่มีมลทิน ถ้าไม่ฝึก ยังไงก็อยู่อย่างนี้ ทั้งรักทั้งโกรธ ทั้งเคียดแค้น ทั้งเศร้าโศก ทั้งร้องไห้ อยู่อย่างนี้ ขึ้นชื่อว่าธรรมแล้ว นำโลกออกจากความทุกข์ ถึงแดนบรมสุข ท่านจึงว่า นิยยานิกัง สุเทสิตัง ธรรมของพระพุทธเจ้า นำสัตว์โลกออกจากกองทุกข์ ความเศร้าโศก ความทุกข์ ความลำบาก สารพัด เรื่องของกิเลสเผาผลาญบรรดาจิตใจของคนที่ยังมีกิเลส ผู้พ้นแล้วจากความทุกข์ไม่มี

พลังของศีลของธรรมตัวนี้ ดังอำนาจของกิเลสให้พินาศฉิบหายออกจากหัวใจของผู้บำเพ็ญถึงแดนบรมสุข ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชาย ไม่ว่าใครอยู่ที่ไหนแดนใด นำธรรมของพระพุทธเจ้าไปปฏิบัติ ดีหมด บรรดาโลกทั้งหลายถ้านำธรรมของฆราวาสไปปฏิบัติ ตามสายทางที่พระพุทธเจ้าบอก พวกเราจะมีแต่ความร่มเย็น อยู่ที่ไหนแดนใดมีแต่สายทางของความร่มเย็น มีแต่สายทางแห่งความสมหวัง นอกนั้นกิเลสไม่เคยทำให้คนสมหวัง

ไปคิดดูจริงแค่ไหน ให้ไปคิดดู ใคร่ครวญเสียก่อนว่าจริงไหม ถ้าจริงก็นำไปประพฤติปฏิบัติ นั่นแหละ สายทางที่จะทำให้พวกเรามีความสุขความเจริญโดยทั่วกัน ขอให้นำธรรมไปแก้จิตดวงเดียวนี้ ซึ่งทำให้พวกเราเศร้าโศกร้องไห้เสียอกเสียใจเป็นพิษเป็นภัยจากกิเลส ธรรมนี้ไม่มี มีแต่นำออก พากันจำไว้ให้ดี

หลวงปู่ทุย ฉันทกโร
๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗







..ในการคิดก็ดี พยายามที่จะดูความคิดของตนเอง บางทีมันคิดไม่ดีคิดถูกคิดผิด คิดอาฆาตจองเวรคนนั้นคนนี้ คิดไม่ถูกมันทุกข์ไหม นอกจากตัวเองทุกข์แล้ว ยังอยากให้คนอื่นมีความทุกข์ด้วยอีก ตนเองก็มีความทุกข์ด้วยคิดขึ้นมาแล้ว เมื่อเห็นว่ามันเป็นทางที่ไม่ดีก็จะได้หยุดคิด เมื่อหยุดคิดได้ความทุกข์มันก็ดับไป ทางด้านจิตใจ อันนี้เป็นการแก้ไขที่ทันสมัย เรียกว่าเป็นคนที่มีความทันสมัย พัฒนาตนเองให้ทันเหตุการณ์ ให้ทันการพูดการทำการคิดของตนเอง ให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมตามหลักพระพุทธศาสนา ก็จะนำพาให้พวกศรัทธาญาติโยมทั้งหลาย ได้รับความสุขความเจริญเกิดขึ้นในตนเอง..

..#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป..
วัดอรัญญวิเวก ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่






#บูชาพระพุทธเจ้าอย่างเลิศ
อย่างประเสริฐที่สุด
บุญอันใดจะเท่าเรานั่งสมาธิภาวนาไม่มี
____________________________________
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร








ในสมัยพุทธกาลที่พระพุทธเจ้าตรัสเล่าเรื่องอดีต
ประทับอยู่ที่วัดเชตวัน
ก็มีภิกษุไปเข้าอยู่ในสำนักพระเทวทัต
พระเทวทัตก็สอนไปเรื่องประพฤติผิดต่าง ๆ

พระพุทธเจ้าก็เลยชี้ให้เห็นว่า
การคบคนพาลมันจะพาให้เสีย
ทรงเล่าเรื่องชาดกให้ฟังในอดีตว่า

พระราชาพระเจ้าสามะครองเมืองพาราณสี
มีม้ามงคลชื่อว่าปัณฑวะ
อยู่มาคนที่เลี้ยงม้าประจำเสียชีวิต
ก็เลยจ้างคนเลี้ยงม้าใหม่

ปรากฏว่าม้าเดินกะเผลก ๆ
พระราชาก็สงสัย เรียกหมอไปตรวจ
แพทย์หลวงก็ไปตรวจม้า
ก็มากราบทูลว่า
ม้าก็ปกติทุกอย่าง ไม่ได้เจ็บไม่ได้ป่วยอะไร

อ้าว แล้วทำไมเดินโขยกเขยก

พระราชาก็เลยให้อำมาตย์บัณฑิตไปตรวจสอบ
ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

อำมาตย์ก็ไปอยู่ที่นั่น ๓ วัน
ดูเหตุการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ก็เห็นว่าเช้าคนเลี้ยงม้าจะพาม้าไปเดินรอบสนามทุกวัน ๆ
แต่คนเลี้ยงม้าขากะเผลก ขาพิการ
ม้ามันนึกว่าสอนมันด้วย
มันเดินตาม
มันก็เลยเดินเขยก ๆ ไปด้วย

อำมาตย์ก็เลยแนะนำว่า
แค่เปลี่ยนคนเลี้ยงม้าเท่านั้นแหละ
เปลี่ยนคนเลี้ยงม้าใหม่
พอเปลี่ยนเอาคนขาดีมา มาฝึก มาเดินนำ
ไม่กี่วันม้าก็กลับเดินปกติ

นี้ชี้ให้เห็นว่าสิ่งแวดล้อม ผู้นำ ถ้าไม่ดี
คนจะทำตามในสิ่งไม่ดีหมด

ที่ว่าสิ่งแวดล้อม ตัวบุคคล มีความสำคัญ
แม้แต่ที่เล่าให้ฟัง
เห็นไหม ม้ามันยังทำตามคน
หรือพืช ต้นไม้ ถ้ามันได้สิ่งแวดล้อมไม่ดีมันก็ไปตาม

พระเจ้าทธิวาหนะพระองค์เสด็จไปเสวยมะม่วงต้นหนึ่ง
มันมีรสหวาน มัน กรอบ
ทุกปีก็จะต้องเสด็จไปเสวยที่นั่นเป็นประจำ

ปีต่อมาพอไปเสวยแล้วมะม่วงรสมันผิดไป
รสมะม่วงมันขม
พระราชาคายทิ้ง โกรธพิโรธ
เรียกคนมาสอบถามเกิดอะไรขึ้น
ก็ให้คนไปสำรวจดู

ก็ปรากฏว่ามันมีต้นสะเดา
คนเอาต้นสะเดามาปลูกไว้ใกล้กับต้นมะม่วง
รากมันก็ไปพันกัน ไปเกี่ยวกัน
กิ่งมันก็มาประสานกัน
มะม่วงกลายเป็นมีรสขมไปด้วย

เห็นไหมว่าสิ่งแวดล้อมมันมีความสำคัญ
แม้แต่พืชมันก็คล้อยตาม

พระพุทธเจ้าจึงให้ความสำคัญ
ในมงคล ๓๘ ยกเรื่อง
“อะเสวะนา จะ พาลานัง
ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา
ปูชา จะ ปูชะนียานัง
เอตัมมังคะละมุตตะมัง”
ขึ้นมาก่อน

#ให้เว้นคนพาล
#ให้คบบัณฑิต
#บูชาบุคคลที่ควรบูชา
#เป็นมงคลอันสูงสุด

#ถ้าเราคบคนพาล #คนไม่ดี
#มันจะพลอยให้เราไม่ดีไปด้วย
บางทีตัวเราเองก็ยังไม่แข็งแรง
พอเจอคนพาลก็ไปเลย
ชวนไปเล่น ชวนไปกิน ชวนไปเที่ยว
ชวนไปสิ่งเสพติด หรือว่าทำอะไรที่มันผิด
มันจะไป เพราะยังไม่แข็งแรง

#แต่ถ้าคบบัณฑิต #คบคนดีมีศีลมีธรรม
คบคนขยัน คนอดทน ซื่อสัตย์สุจริต
#ตัวเราเองยังไม่แข็งแรง
#แต่อาศัยที่เราเข้าใกล้คนดี
#มันจะดึงมันจะพยุงเราให้ดีตาม

#เราจึงต้องมีการรู้จักเลือกคบคนที่ดี
#ถ้าเราอ่อนแอ #เราก็เลือกคนที่เข้มแข็ง
#ที่มีความอดทน #มีศีลมีธรรม เป็นบัณฑิต
#คบค้าบัณฑิต
#คบคนพาลพาลพาไปหาผิด
#คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล

ธรรมบรรยาย เป็นผู้นำ ธรรมให้ดู
สามเณรปลูกปัญญาธรรม ๒๕๕๘
.............................
ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา






..ขันน้ำมันแตกแล้วเราก็ทิ้งไป ขันธ์ ๕ มันแตกเราก็ทิ้ง ขันธ์ ๕ ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในขันธ์ ๕..ขันธ์ ๕ ไม่มีในเรา อย่าไปยึดเอาไปคว้าเอา เพราะมันปล่อยวางไม่เป็น ให้พิจารณาไป..ขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ ขันธ์ ๕ เป็นอนิจจัง ขันธ์ ๕ เป็นอนัตตา รวมลงสู่ไตรลักษณ์ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เราก็ไม่ใช่เจ้าของ คนอื่นก็ไม่ใช่เจ้าของ พิจารณาให้มันดับ..มันถึงจะพ้นทุกข์ได้..

..#โอวาทธรรมพระราชวชิรกิจโกศล วิ. หลวงปู่กวง โกสโล องค์หลวงปู่ละสังขารเมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗..






#เดี๋ยวนี้คนยึดถือไปเสียหมด ก็ได้ปวดหัวนอนไม่หลับ เป็นโรคประสาทเป็นบ้าตาย,

นี่แล้วก็เพราะความยึดถืออย่างนี้ มันจึงเกิดกิเลส: เกิดความรัก เกิดความโกรธ เกิดความเกลียด เกิดความกลัว ความอาลัยอาวรณ์ อิจฉาริษยา ความหวงความหึง จนมันได้ฆ่าฟันกัน แล้วมันก็ได้ฆ่าฟันกันขนาดที่เป็นสงคราม.

.
เดี๋ยวนี้โลกไม่ว่างจากสงคราม แล้วสงครามทุกชนิดมาจากความยึดถือส่วน ที่เป็นตัวกูเป็นของกู,

ยึดเกียรติยึดถืออะไร ยอมไม่ได้ ยอมไม่ได้ เห็นด้วยไม่ได้, ยึดถือของกูก็ต้องเอาไว้ ก็ต้องต่อสู้, แล้วก็ไปปล้นไปชิงไปยื้อแย่งของผู้อื่น มาเป็นของกู,ฝ่ายหนึ่งรู้ทัน มันก็ต่อสู้ มันก็ได้รบกัน, มันไม่มีอะไรที่ว่ามันจะไม่มาจากความยึดมั่นถือมั่นว่าตัวกูว่าของกู.

ถ้าคนในโลกรู้เรื่องนี้ เขาก็จะหยุด, หยุดยึดมั่น แล้วก็ทำไปด้วยสติปัญญา, อย่าทำไปด้วยกิเลสตัณหา.

.
เราพูดว่าทำไปด้วยจิตว่าง เขาว่าบ้า แล้วเขาด่าเอาด้วย, ว่าทำไปด้วยจิตว่าง คือไม่ต้องยึดถือว่าเป็นตัวกูว่าเป็นของกู.

.
จะหาเงินก็หาด้วยสติปัญญา, อย่าหาด้วยกิเลสตัณหา มันก็ไม่กัด, จะมีเงินไว้ก็ด้วยสติปัญญา อย่ามีด้วยกิเลสตัณหา มันก็ไม่กัด.

.
จะใช้เงินไปก็ใช้ด้วยสติปัญญา อย่าใช้มันไปด้วยกิเลสตัณหา มันก็ไม่กัด หมายความว่ามันไม่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะการหา การมีการใช้ การอะไรทุกอย่าง.

แล้วคนอยู่กันเป็นสันติสุข, โลกนี้ก็มีสันติภาพ เพราะว่ามันทำไปอย่างถูกต้อง ไม่กระทบกระทั่งกัน,

มันเต็มไปด้วยความถูกต้องของความรู้ ของการกระทำ และมีผลของการกระทำ มันก็เรียกโดยบาลีว่า สันติ ๆ สงบรำงับ, ยอดสุดก็เป็นวิมุตติ คือความหลุดพ้น.

#พุทธทาสภิกขุ
#สันติภาพของโลก #หน้า_๒๙๙-๓๐๐







- #อยู่ป่าช้าครั้งแรก -

มันกลัวมากๆ ก็คงเหมือนกับเราตักน้ำใส่ตุ่ม
ตักใส่มากๆ มันก็เลยล้นปากตุ่มออกมา
คงจะเป็นอย่างนั้น มันกลัวมากๆ
ก็เลยออกมา เลยถามตัวเองว่า ที่มึงกลัวๆ นี่มึงกลัวอะไร
ทำไมถึงกลัวเอานักหนา ไม่ได้พูดดอก ใจมันพูดของมันเอง
ก็มีคำตอบสวนขึ้นมาว่า กลัวตาย มันว่าอย่างนั้น
ก็เลยถามต่อไปอีกว่า ตายมันอยู่ที่ไหน
ทำไมถึงกลัวเกินชาวบ้านชาวเมืองเขาเอานักหนา
ถามหาความตาย ถามไปถามมา ได้คำตอบว่าตายมันอยู่กับเรา
เมื่อมันอยู่กับเราแล้ว จะหนีไปที่ไหนถึงจะพ้น
จะวิ่งหนี มันก็วิ่งไปด้วย จะนั่งอยู่
มันก็นั่งอยู่ด้วย ลุกขึ้นเดินหนี มันก็เดินไปด้วย
เพราะความตายมันอยู่กับเรา มันไม่มีที่จะไปดอก
ความตายนี้ ถึงกลัวไม่กลัวมันก็ต้องตาย
เพราะความตายอยู่ที่เรานี้เอง หนีมันไม่ได้ดอก
พูดตัดบทขึ้นมาอย่างนี้ เมื่อคำถามและคำตอบจบลง
อาการความรู้สึกที่เป็นสัญญาแบบเก่าๆ พลิกขึ้นมา
เปลี่ยนขึ้นมาใหม่ ความกลัวที่มีอยู่มากๆ หายออกไป
เหมือนหน้ามือกับหลังมือ

พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
จากหนังสืออุปลมณี น.๒๙-๓๐
ตอบกระทู้