นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 08 ก.ย. 2024 8:07 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เมตตาจิต
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 04 มิ.ย. 2024 6:50 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4675
…ปัญหาคือใจไม่ยอมรับรู้เฉยๆ
จะจัดการกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้สัมผัส
อันไหนดีก็พยายามดึงไว้
ทั้งๆที่ดึงไว้ไม่ได้ เดี๋ยวก็จากไป
พอไปก็เสียดาย เสียใจ ร้องห่มร้องไห้
พอสิ่งที่ไม่ดีมาก็พยายามปัดมัน
ผลักมัน ไล่มันไป มันก็ไม่ยอมไป
ก็วุ่นวายใจกระสับกระส่าย
จนกว่ามันจะหายไป .

.“ถ้าทำใจให้เฉยๆได้ ก็จะไม่เดือดร้อน“

…………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

จุลธรรมนำใจ ๑๐ กัณฑ์ที่ ๓๖๙
วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๐





"ไปสมมติกันเองว่า รุ่นโน้น รุ่นนี้ รุ่นหนึ่ง รุ่นสอง ไม่มีทั้งนั้นเหมือนกันทุกรุ่น ไปกำหนดกันตั้งราคากัน รุ่นหนึ่งนั่งอยู่นี่ ของแท้เดินได้ ฉันได้ พูดได้ สอนธรรมะได้"

หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ
วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ





. "เอโกปุคคะโล...ทำตนเองให้เป็นคนๆเดียว ถือจิตดวงเดียวเท่านั้น จะสามารถพบธรรมะชั้นสูงสุดได้ไม่ต้องสงสัย...

ธรรมะเป็นสิ่งประเสริฐ แม้ธรรมะประดิษฐานอยู่กลางดวงจิตดวงใจ ของผู้ใดแล้ว ผู้นั้นจะได้รับความอบอุ่นใจ มีที่พึ่งอันถาวรสมบรูณ์ทุกประการ จะไม่มีสิ่งใดๆ ในโลกที่จะให้ความอบอุ่นยิ่งกว่าธรรมะ...

คำสอนหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย





คนดีเพียงคนเดียว ย่อมมีค่ามากกว่าเงินเป็นล้านๆ เพราะเงินเป็นล้านๆ ไม่สามารถทำความร่มเย็นให้กับโลกได้ เหมือน(คนดี)ทำประโยชน์
.
ชีวิตที่มีความดีอาจจะไม่ใช่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ต้องอาศัยคุณงามความดีเท่านั้น
.
โอวาทธรรม บูรพาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตแห่งวัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร น้อมกราบสักการะบูชาด้วยเศียรเกล้า






ร่างกายของคนเราทุกคน ทุกเพศทุกวัย ประกาศบอกให้รู้ตลอดว่า ไม่อยู่ในอำนาจ ในการควบคุมของคนเรา ยิ่งอายุมากยิ่งขึ้นเห็นชัดเจนขึ้น ความทรุดโทรมเสื่อมทรามของร่างกาย ความเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นนั่น นู่น นี่ สารพัดต่างๆนานาถาโถมเข้ามา และสุดท้ายก็ต้องตายหนีความตายไม่พ้น ทุกคนล้วนต้องตาย

ธรรมะเช้าวันที่ 3 มิถุนายน 2567 หลวงปู่โกศล ธนปุญโญสำนักสงฆ์บ้านจันทน์หอม








#สันตุสสโกวาท #ธรรมะวันพุธ

“วิบากกรรม”

คนที่ทำกรรมหนักทำความชั่วมาก
แต่เวลาตายแล้วไปสู่สวรรค์
บางทีคนที่ทำกรรมดีมาก
แต่เวลาตายแล้วไปตกนรก
ทำไม….เป็นอย่างนี้
อันนี้ พระพุทธองค์ท่านบอกว่า
ในอดีตชาติก่อนก่อนนั้นไปเขาทำความชั่ว
แต่ว่าเขามาเกิดชาตินี้เขาทำกรรมดี
แต่ว่ากรรรมชั่วตัวนั้น ไม่เสียหาย พอตายปุ๊ป
กรรมชั่วตัวที่ทำที่ชาติที่แล้ว
มันวิ่งมาสวมเข้ามาเลย มาสวมวิญญาณ
ก็พร้อมกันในขณะที่ตาย กำลังใจจะขาด
ก็ระลึกถึงความชั่ว ด้วยกรรมตัวนั้นมันก็วิ่งปุ๊ปเข้ามา
มาก็มาล๊อคเลย พอล๊อคเสร็จก็โยนลงนรกเลยว่างั้นเถอะ
ทั้งที่ในชาตินี้เขาทำกรรมดีแต่ก็เถอะ
พอพ้นจากนรกขึ้นมาแล้วกรรมดีของเขาที่เขาทำไว้แล้ว
ก็พาเขาไปสู่สวรรค์ได้ พาไปสู่มนุษย์ได้
เพราะว่ากรรมดีของเขาให้ผล
หลักของพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าท่านเน้นหนักอย่างนั้น
แต่ท่านบอกว่าคนที่มีอายุสั้น มีกรรมเป็นมาอย่างไร
อันนี้ท่านเทศน์ให้ลูกชายของโตเทยพราหมณ์ฟัง
คนที่มีอายุสั้น ชาติก่อนเขาชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นอาจิณ
คนที่ชอบเบียดเบียนสัตว์ รังแกสัตว์ไม่ถึงกับฆ่า
ร่างกายเขาจะทุพพลภาพร่างกายจะเจ็บไข้ได้ป่วย
บางคนเกิดมาแล้วยากจนเพราะอะไร
เพราะในชาติก่อนเขาไม่ยินดีในการให้ทาน
แต่คนที่เกิดมาร่ำรวยเพราะเหตุไร
เพราะในอดีตชาติของเขา เขายินดีในการทำบุญทำทาน
คนที่เกิดมาโง่เพราะอะไร
เพราะไม่ได้สนใจเรื่องหาความรู้
มีแต่กินเหล้าเมายา
ไม่ได้สนทนาปรารถกับบัณฑิตนักปราชญ์
แต่หากผู้ใดชอบศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
เข้าไปหาบัณฑิตนักปราชญ์ ถามปัญหาข้อข้องใจต่างๆ
ทั้งคดีโลกทั้งคดีธรรมเป็นการฝึกซ้อมในจิตใจอยู่เสมอ
ถ้าเขาเกิดมาในภพหน้าชาติหน้าก็จะเป็นผู้ฉลาด
แต่บางคนเกิดมาในสกุลต่ำเพราะอะไร
เพราะชอบอิจฉาคนอื่น เห็นคนอื่นได้ดีทนอยู่ไม่ได้ว่างั้น
อิจฉาเขาเพราะอิจฉาเขา ทำให้ตัวเองตกต่ำว่างั้น
แต่คนที่ขี้เหร่ขี้ร้ายคนที่สวยงามเพราะอะไร
คนที่สวยงามเพราะจิตใจเบิกบาน
พร้อมกันก็ยินดีทำบุญทำทานเกี่ยวกับ
เครื่องผ้าอาภรณ์เสื้อผ้านุ่งห่ม
คนที่ขี้ร้ายขี้เหร่เพราะอะไร
เพราะเป็นคนชอบขี้โกรธ
จิตใจไม่แจ่มใส จิตใจโมโหโทโสอยู่บ่อยๆ
อันนี้คือหลักของพุทธศาสนา
ที่ท่านบอกความเป็นมาความเป็นไป
ของมนุษชาติที่เกิดมาแล้วได้ทำกรรมอะไร
กรรมอันไหนให้ผลอย่างไร
ถ้าเราศึกษาแล้วไตร่ตรองดูตามเหตุและผลแล้วเป็นไปได้
เพราะฉะนั้นพวกเราควรจะสร้างกรรมดี สร้างคุณงามความดี
กรรมชั่วทั้งหลายอย่าทำ
เกิดมาในภพใดชาติใดจะร่มเย็นผาสุกทั้งหมด
ถ้าหากไม่มีศีลมีธรรมอยู่ในจิตในใจ
มีแต่ปาบอกุศลติดจิตติดใจมีแต่ความทุกข์เดือดร้อนวิญญาณ

โดย หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
พระธรรมเทศนา “กรรมและผลของกรรม”
แสดงธรรมเมื่อ วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๔






"...วิบากคืออะไร ผลแห่งบุญที่เราเคยทำไว้นี้ แม้ในปัจจุบันที่เราได้บรรลุธรรมถึงขั้นสุดแล้ว วิบากอันนี้ก็จะปฏิเสธไม่ได้ ที่เราเคยทำมา จะต้องตามสนองโดยลำดับๆ จนกระทั่งถึงวันนิพพาน ยกตัวอย่างเช่น พระสีวลี ในศาสนาของพระพุทธเจ้านี้ ไม่มีใครที่จะเลิศยิ่งกว่า พระสีวลี ในการที่มีอติเรกลาภมากที่สุด รองพระพุทธเจ้าลงมาก็คือพระสีวลี จึงได้ยกเป็นเอตทัคคะ พระพุทธเจ้าประทานเอตทัคคะให้ ในความเลิศทางมีลาภสักการบูชา ไม่มีใครเสมอเหมือน นี่คือวิบาก ผลแห่งบุญของท่านที่เคยสร้างไว้แล้วตั้งแต่กาลก่อน
แม้จะเป็นพระอรหันต์จิตท่านจะปล่อยวางแล้วตาม วิบากเหล่านั้นก็ยังต้องตามมา ด้วยอำนาจแห่งผลบุญท่านเคยสร้างไว้แล้ว ไปไหนมีแต่คนสักการบูชา เทวบุตรเทวดาตามตำราท่านบอกไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าแต่มนุษย์แม้แต่เทวดาก็ยังมาสักการบูชา ด้วยเครื่องทิพย์ต่างๆ นั่นเป็นอย่างนั้น บางองค์แม้จะเป็นพระอรหันต์ด้วยกันก็ตาม เดินทางไปด้วยกัน อันนี้จะไม่ค่อยมีใครสนใจอะไรมากนัก เรื่องจะทำบุญให้ทาน เรื่องเกี่ยวกับเรื่องอติเรกลาภ ทำไมท่านก็เป็นพระอรหันต์ ก็ทราบอยู่ว่าท่านเป็นพระอรหันต์ ไม่ใช่ไม่ทราบ แต่เรื่องความแตกต่างกันก็เห็นอย่างชัดเจน ตามอัธยาศัยหรือนิสัยของผู้ที่เคยสร้างมาอย่างไรบ้าง นั่น จำเป็นต้องอาศัยกันไปอย่างนี้
ไม่สูญหายไปไหน แม้จะสิ้นกิเลสอาสวะความยึดความถือโดยประการทั้งปวงทั้งบุญและบาปแล้ว บุญก็ยังต้องตามสนอง หากตามสนองได้ภายในขันธ์ ไม่สามารถที่จะซึมซาบเข้าถึงจิตใจให้ยินดียินร้ายเกิดโทษเกิดภัยขึ้นมาภายในใจได้ ผิดกันตรงนี้ที่เรียกว่า ขึ้นถึงที่สุดจุดหมายปลายทางแล้วหรือขึ้นถึงที่ต้องการแล้ว บันไดกับเราก็หมดปัญหากันไปเอง บุญและบาปที่เกี่ยวข้องกับใจก็หมดปัญหากันไปเอง เป็นว่าขาดวรรคขาดตอนกัน ส่วนวิบากที่จะตามธาตุตามขันธ์ไปนั้นมี จนกระทั่งวันนิพพาน ก็เป็นอันว่าหมดปัญหากันโดยประการทั้งปวง แม้แต่ขันธ์ก็หมดปัญหากันไป
การสร้างความดี รวมเข้าไปสู่ที่ใจทั้งหมด จะจำได้หรือไม่ได้ไม่สำคัญ ลบไม่สูญก็คือการทำบุญ ทำบาป มีความติดแนบอยู่ภายในจิตใจ ไม่สำคัญอยู่ที่ความจำ ให้พากันเข้าใจ และพยายามสร้างจิตของเราให้มีสารคุณขึ้นภายในตัว ความสงบเย็นใจ ความผาสุกสบาย จะเกิดขึ้นมีขึ้นโดยลำดับ ด้วยอำนาจแห่งกุศลผลทานของเรา เวลาจนตรอกจนมุม แทนที่จะไม่มีอะไรเป็นเครื่องตอบสนองแก้ขัดแก้จน มันก็เกิดขึ้นมาจนได้ เพราะอำนาจแห่งกุศลนี้แหละไม่ใช่อำนาจอะไร กุศลที่เราสร้างไว้นี้เอง ไม่ใช่จะเทวฤทธิ์บันดลบันดาลมาจากที่ไหน ก็เทวฤทธิ์ของใจของเราที่เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง ที่สามารถให้ทานรักษาศีลภาวนาได้นี้แหละเป็นเครื่องบันดาลให้เราได้เห็นประจักษ์กับตัวของเราผู้สร้างเสียเอง
การแสดงธรรมก็เห็นว่าสมควร จึงขอยุติเพียงเท่านี้.."

พระธรรมวิสุทธิมงคล
(หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
จากธรรมเทศนา “กายคัมภีร์ จิตคัมภีร์”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๙
ณ วัดป่าบ้านตาด





.." #อย่าทำลาย_มรดกบิดามารดา.."
มารดาบิดา เป็นผู้มีเมตตาจิต ต่อบุตรธิดา
นับจะประมาณมิได้ มรดกที่ท่านทำให้
กล่าวคือรูปกายนี้ แลเป็นมรดกตั้งเดิม
ทรัพย์สินเงินทอง อันเป็นของภายนอก
ก็ไปจาก รูปกายนี้เอง ถ้ารูปกายนี้ ไม่มีแล้ว
ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเหตุนั้น ตัวของเรานี้
เป็น 'มูลมรดก' ของมารดาบิดาทั้งสิ้น "
______________________________________
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 18 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO