นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 08 ก.ย. 2024 8:13 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เมตตากรุณา
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 17 ก.ค. 2024 10:03 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4675
สังคมผู้สูงอายุ:พระอาจารย์สิริปัญโญ
_ _ _

วันนี้จะให้สัมโมทนียกถาสั้นๆที่เราเอาไปพิจารณาได้ ไม่ต้องมากมาย บางครั้งก็แค่ข้อเดียว แล้วก็พอ

เมื่อกี้นี้คุยกับพระอาจารย์ต้นเรื่องสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ทั่วโลกจะต้องเจอกัน อายุของมนุษย์เรายาวขึ้นด้วยการแพทย์ที่ดี ทำให้มีสุขภาพอนามัยดี

สังคมมันเปลี่ยน ก็มีคนเป็นห่วงโลก เพราะเป็นสังคมที่มีเด็กเกิดน้อยลง จากที่เคยมีลูกสี่ห้าคน เจ็ดแปดคน เหลือแค่คนหนึ่งสองคน

แล้วจะทำยังไงกัน
แต่ดูแล้วสังคมไทย ส่วนหนึ่งที่ยังมีส่วนที่ดี พวกเราเข้าใจในเรื่องเกิดแก่เจ็บตายว่าเป็นเรื่องธรรมดา

ในสังคมอื่นๆ เยาวชนจะมองคนแก่ด้วยความรังเกียจว่า "เราไม่ใช่แบบนั้น"

แต่ที่นี่ เราเห็นคนแก่ เห็นคนป่วย เห็นคนที่โรงพยาบาล หรือไปงานศพ เรามีความรู้สึกว่า "เรากับเขาเป็นอันเดียวกัน แยกออกจากกันไม่ได้"

เมื่อมีความคิดแบบนี้แล้ว
อย่างน้อยก็มีความรู้สึกของความเมตตากรุณาเกิดขึ้น
"เราเห็นคนอื่นเหมือนเรา
เราก็เหมือนคนอื่น"

นี่ก็เป็นข้อหนึ่ง นอกจากธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอนเกี่ยวกับบุญคุณ และมงคลที่เกิดจากการเลี้ยงดูบิดามารดา เป็นต้น

เพราะฉะนั้นถือว่าเราโชคดี
เรายังหาทางออกได้
แต่ถ้าเป็นสังคมอื่นๆ มันจะยาก

นี่เป็นอีกข้อหนึ่งที่เราเห็นว่าศาสนาของเรา พระพุทธเจ้าท่านสอนง่ายๆ ว่า...

เรามีความแก่เป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความแก่ไปไม่ได้

เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปไม่ได้

เรามีความตายเป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความตายไปไม่ได้

ทำไมแค่ ๓ ข้อนี้ จึงมีประโยชน์มากในการพิจารณาธรรมะ ในการปล่อยวาง ลดความทุกข์ในชีวิตของเรา และเป็นจุดเริ่มต้นในการมองเห็นตามความเป็นจริงในระดับผิวเผินหน่อย

แต่หลายๆคนก็ยังปฏิเสธ ไม่อยากจะมอง ไม่อยากจะยอมรับ ไม่อยากจะนึกถึง และไม่อยากจะปรับชีวิตตามสัจธรรมเหล่านี้

ถึงแม้เขายอมรับ เขาจะมองอีกแบบหนึ่ง
" เราจะตายเมื่อไหร่ก็ได้
เที่ยวให้เต็มที่ ทุศีลก็ไม่เป็นไร
เดี๋ยวก็ตาย "

นั่นก็เป็นอีกมุมมอง แล้วแต่จะตีความหมาย

เราโชคดีที่พระพุทธเจ้าท่านสอนโดยมีเหตุผลชัดเจน ด้วยทาน ศีล สมาธิ ปัญญาและบริบทในเรื่องนี้ทั้งหมดก็คือเกิดแก่เจ็บตาย
ทำให้เราเกิดสังเวช
ทำให้เราเกิดความรู้สึกว่า

" อืม..โอกาสนี้หาได้ยาก
ชีวิตนี้มันสั้น จะทำยังไงดี"

แม้แต่ชาติหน้า บางทีก็ก็ไม่ต้องคิดถึง

ถ้าคิดได้ มันเป็นอุบาย
ให้เราแค่ระลึกถึงชาตินี้

"อายุมากแล้ว ก็อยากจะมีความสุข ร่างกายอาศัยไม่ได้ จะทำอย่างไรให้มีความสุขหนอ มันอยู่ที่จิตใจ"

นี่ก็ได้ธรรมะแล้ว
มีกำลัง มีสังเวชที่จะปฏิบัติธรรม

วันนี้พวกเราทุกคน ดูแล้วในศาลานี้ก็มีแต่คนแก่ๆทั้งนั้น ความแก่มันเป็นเรื่องจริง ไม่ต้องรออนาคต

จะทำยังไง หากเทวทูตมาปรากฏ เราก็มีคู่มือ มีวิธี มีอุบายแล้ว ต่อไปเราก็ช่วยกัน สุดท้ายกัลยาณมิตรก็เป็นสิ่งสำคัญ

ในวันนี้ก็อนุโมทนา นึกถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว พ่อแม่ แล้วก็พวกเราเองด้วย

๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗
วัดป่าบุญล้อม
#พระอาจารย์สิริปัญโญ





“ทุกข์เพราะอยากให้เขาทำตามใจเรา”

.แต่ไม่รู้ว่า..ความอยากเป็นตัวที่
ทำให้เกิดความทุกข์

.เพราะไม่เข้าใจว่าที่ทุกข์ทุกวันนี้
ไม่ใช่เพราะเขานะ “เพราะเราต่างหาก”

.ไปอยากให้เขาทำตามใจเรา
พอเขาไม่ทำตามใจเรา..เราก็ทุกข์ .

…………………………………………

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๑๓ กัณฑ์ที่ ๓๘๐
วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๑






เราควรทำดี
อย่าให้ดีมาหาเรา
ทำดี ดีเอง
ทำดีอย่างไร อย่างใด
ก็ได้อย่างนั้น

คติสอนใจ
#หลวงปู่ลี ตาณํกโร


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 20 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO