นวรัตน์ดอทคอม

"เเม้ชีวิตจะทุกข์ร้อนหรือยากลำบากสักเพียงใด๋
ให้มั่นฝึกจิตใจ ให้คิดในทางที่ดีไว้ เเม้หนทางหนทางมันจะมืดมิด กะจงเชื่อมั่นว่าจะพบทางสว่าง

เเม้จะพบสิ่งเลวร้าย ก็อย่าปล่อยให้จิตคิดร้าย
จงยึดมั่นในกุศลคุณความดีไว้
ชีวิตจะเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี

จงเชื่อมั่นศรัทธาในความดีที่เรามี ใจเฮาจะพบความความสุขเเละสิ่งที่ดีงาม เมื่อความดีในปัจจุบัน บวกบารมีเก่า ถึงเวลามันกะได้เบิ่ด บ่อยากได้มันกะได้เอง"

โอวาทธรรม หลวงปู่ประเสริฐ สิริคุตฺโต







"..ทุกคนเกิดมาก็ต้องการพ้นความทุกข์ทั้งนั้น คือต้องการดับกรรมนั่นเอง แต่ดับไม่ถูก เหมือนกับไฟฟ้านั่นแหละ ไฟฟ้าโรงใหญ่ มันติดเครื่องดังอยู่ตุบๆ ส่งกระแสไฟกระจายอยู่ทั่วไปหมด ผู้ต้องการดับไฟไปดับหลอดเล็กหลอดน้อย มันดับได้เฉพาะหลอดเท่านั้น แต่ไฟต้นตอมันยังเดินอยู่ ถ้าดับต้นตอมันก็ดับวูบหมดด้วยกัน ถึงเปิดมันก็ไม่ติดอีกฉันใด กรรมก็ฉันนั้น ตัวกรรมนั้นเป็นต้นเหตุ ถ้าจะดับทุกข์ ก็ต้องดับกรรมอันเป็นต้นเหตุอย่างที่อธิบายแล้ว เมื่อไม่กระทำกรรม คือใจไม่กระทำ มันก็หมดเรื่องกันไป มันก็ดับหมดเท่านั้นแหละ มีใจอยู่ตราบใด มันต้องทำอยู่ตราบนั้น ถ้าดับตัวใจ ไม่มีใจแล้ว กรรมมันก็ดับหมด ไม่ไปต่อที่ไหน มันไม่เกิดอีกก็ไม่มีกรรมอีก จึงต้องฝึกหัดให้เห็นตัวใจที่แท้.."

ธรรมโอวาทโดย
พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย
(พ.ศ.๒๔๔๕-๒๕๓๗)






"..เพราะไม่มีที่พึ่งทางจิตใจหรือไม่รู้ที่พึ่งอันเกษมอันอุดม จึง...กลัวการตายแต่ไม่กลัวการเกิด...เมื่อเป็นเช่นนี้จึงคว้าโน้นคว้านี่เป็นที่พึ่ง บางคนกลัวตาย...คว้าเอาสิ่งอื่นมาเป็นที่พึ่งที่เคารพนับถือ...ด้วยความงมงาย...นอกจากนี้ยังมีการทรงเจ้าเข้าผี สะเดาะเคราะห์ สะเดาะนาม สืบชะตาราศี ตัดกรรมตัดเวร โดยวิธีการต่าง ๆ ที่พึ่งอันอุดมมั่นคงนั้นคือการ...ภาวนา น้อมรำลึกนึกเอาพระคุณอันวิเศษของพระพุทธเจ้า พร้อมพระธรรม และพระอริยสงฆ์มาเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ...จึงจะเป็นการถูกต้อง.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ. ๒๔๑๓ – ๒๔๙๒)






#ความสุขทั้งหลายย่อมสำเร็จ_มาจากบุญ เหมือนกันทั้งหมด แต่เป็นบุญที่ได้มาจากพ่อแม่ปู่ย่าตายายหาไว้ให้ก็มี แต่กระนั้นบุญนี้ก็ยังมีอาการเหมือนกับสายน้ำไหล คือบางวัน
ก็ไหลตลอด บางวันก็ขาดเป็นห้วงๆ ไม่เหมือนกับความสุขที่เกิดจากการกระทำของตัวเราเอง ซึ่งไม่ต้องอาศัยอะไรเลย

#ความสุขทางโลก_ซึ่งต้องอาศัยพัสดุกาม
นั้นก็ทำความเพลิดเพลินให้ชั่วคราว แต่แล้ว
ก็อาจกลับกลายไปเป็นความทุกข์ได้
พัสดุกาม นั้นก็คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์ ซึ่งเนื่องด้วยอายตนะภายนอก เรียกว่า อามิสสุข ส่วน นิรามิสสุข
นั้น เป็นความสุขที่เนื่องมาแต่การอบรมจิต
โดยเฉพาะ ได้แก่การที่เราสับสร้างความดีภายใน

#เช่นที่เรามานั่งสมาธิฟังธรรมกันอยู่นี้
ความสบายกายสบายใจก็มีพอสมควร แต่ความสุขอีกชนิดหนึ่งเกิดขึ้นในดวงจิต เป็นความสุขที่สูงเหนือความสุขชนิดใด

#ความสุขชนิดนี้แหละที่พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนให้เราพากันแสวงหาไว้สำหรับตัว
#เพราะเป็นความสุขที่ถาวรคงที่_และไม่เปลี่ยนแปลง
-----------------------------
#ท่านพ่อลี_ธัมมธโร​
วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ