นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 08 ก.ย. 2024 8:06 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ทำบุญทำกุศล
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 24 ก.ค. 2024 7:41 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4675
พูดถึงปัญญาและความกรุณา
ในพุทธธรรมของเรานั้น
ความดีต้องคู่กับปัญญาในทุกเรื่อง
เช่น เราจะตักเตือนเพื่อน
เราก็มีความหวังดีต่อเพื่อนเป็นพื้นฐาน
แต่เราต้องมีปัญญาในการสื่อสาร
ปัญญาในการถ่ายทอดสิ่งที่เราอยากจะพูด

ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เป็นคู่ครอง
หรือเป็นลูกเป็นหลานนั้น

การพูดด้วยความหวังดี ความบริสุทธิ์ใจ
เท่านั้นยังไม่พอ เรายังจะต้องพิจารณาว่า
ทำอย่างไรเขาจึงจะรับฟังสิ่งที่เราจะพูดได้

อะไรคืออุปสรรค
อะไรเป็นสิ่งที่จะทำให้
เขารับคำพูดของเราไม่ได้
แน่นอนว่า ไม่ว่าใคร
อุปสรรคใหญ่คืออัตตาตัวตน
ความถือตัวถือตน

เพราะฉะนั้น
เราจึงต้องฝึกในการพูด
ในทางที่ให้ข้อมูล
แต่ไม่กระทบอัตตาของเขา

จะพูดอย่างไร นี่แหละเป็นโจทย์
เป็นสิ่งท้าทาย ปกติก่อนวันอาสาฬหบูชา
อาตมามักจะกล่าวถึงเรื่องนี้
เพราะพระพุทธองค์
เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมในการสื่อสาร

“กัลยาณมิตรคือทั้งหมด”
โดย #พระพรหมพัชรญาณมุนี
#พระอาจารย์ชยสาโร
บ้านบุญ ( ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗)

Cr:Achara Klinsuwan
Kanlayanatam









"ให้พากันทำความดี รักษาศีล การรักษาศีล ๕ นั้นสามารถปิดอบายภูมิทั้ง ๔ ได้ (สัตว์นรก เปรต อสูรกาย เดรัจฉาน) แต่ยังคงทุกข์ ในการเวียนว่ายตายเกิดอยู่
ต้องทำให้ได้มรรคผลนิพพานเท่านั้น ถึงจะพ้นทุกข์

ถึงแม้จะยาก แต่ก็ไม่เหลือวิสัย ที่มนุษย์ทุกคนจะทำได้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้เป็นสิ่งที่ทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้พระพุทธเจ้าไม่ทรงบัญญัติไว้.."

หลวงพ่อสมบูรณ์ กัณตสีโล
วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก






"..กิเลสมันไม่ได้อยู่ในกายนะ มันอยู่ในใจนะ มันอยู่กับใจต่างหาก มันไม่ได้อยู่ในธาตุในขันธ์ มันไม่ได้อยู่ในกายนะ...สารถีฝึกม้า ถ้าม้าตัวไหนผาดโผนมาก มันคึกมันคะนองมาก ผาดโผนมาก สารถีเขาจะต้องฝึกอย่างแรงทีเดียว ฝึกอย่างหนัก ไม่ควรให้กินหญ้าไม่ให้มันกิน ไม่ควรให้กินน้ำไม่ให้มันกิน แต่การฝึก ฝึกอย่างหนักแน่นทีเดียว จนกว่าว่าม้านี่ค่อยลดพยศลงไป การฝึกอย่างนั้นเขาก็ค่อยลดลงตามส่วน จนกระทั้งว่าม้านี้ใช้ได้แล้ว ไม่มีพยศอดสูอะไร พอที่จะต้องฝึกอย่างนั้นแล้ว เขาก็ใช้งานใช้การเป็นธรรมดาเท่านั้นแหละ.."


โอวาทธรรมโดย
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)






. ตาเห็นรูปก็จิตดวงนี้เป็นผู้เห็น ดีใจก็จิตดวงนี้หลงไป เสียใจก็จิตดวงนี้หลงไป
เสียงผ่านเข้ามาทางโสตทางหู ก็จิตดวงเก่านี่แหละ กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ก็จิตดวงนี้เป็นผู้หลง

เมื่อจิตใจดวงนี้เป็นผู้หลงผู้เมาไม่เข้าเรื่อง เราก็มาแก้ไข ภาวนาทำใจให้สงบ ไม่ให้หันเหไปกับอารมณ์ใด ๆ

เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดดับอยู่ในตัว ในใจ ในสัตว์ ในบุคคลนี้ ว่ามีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ชั่วระยะหนึ่ง แล้วก็แตกดับไป เป็นธรรมดาอย่างนี้....

คำสอนหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่






"..การสวดมนต์มีอานิสงส์ใหญ่ สวดมากก็มี
อานิสงส์ใหญ่ สวดน้อยก็มีอานิสงส์ใหญ่ อานิสงส์ใหญ่จริงๆ อยู่ที่เจตนา จิตมีความเคารพในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์จริง และเวลาสวดสวดด้วยความเคารพจริง ถึงสวดน้อยก็มีอานิสงส์ใหญ่

ถ้าสวดว่าเรื่อยเปื่อยไปไม่ได้ตั้งใจ ว่าส่งเดช อย่างนี้ว่ามากก็มีอานิสงส์น้อย

ทีนี้ถ้าจะถามว่าสวดมนต์กับภาวนาอย่างไหนจะมีอานิสงส์มากกว่ากัน

ถ้าสวดมนต์อย่างเก่งก็แค่อุปจารสมาธิ ถ้าภาวนาสั้นๆ จิตเป็นฌานได้ ต่างกัน ทีนี้ถ้าคนภาวนาส่งเดชก็ไม่เป็นเรื่องเหมือนกัน แต่ภาวนาส่งเดชก็ดีกว่าไม่ภาวนาเลย"

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
พิมพ์จากหนังสือ (ธัมมวิโมกข์ฉบับ ๒๕๔ หน้า ๖๙)








หลวงพ่อชา สุภัทโทสอนอริยสัจ 4 #แบบชาวบ้าน ว่า
หลวงพ่อ : โยมเคยเลี้ยงควายไหม
ชาวบ้าน : เคยครับ
หลวงพ่อ : เวลาจูงควายไป แล้วเชือกของโยมไปคล้องที่ตอ โยมยุ่งหัวใจไหม
ชาวบ้าน : ยุ่งครับ
หลวงพ่อ : ทุกข์ แล้วจะทำยังไงมันถึงจะแกะเชือกออก
ชาวบ้าน : เราก็ต้องสาวเชือกไปซิครับ ว่ามันติดอยู่ที่ตรงไหน
หลวงพ่อ : นั่นคือ สมุทัย ตามไปแล้วพอเจอว่ามันติดตรงไหน ทำยังไง
ชาวบ้าน : มีสองอย่าง ถ้าไม่คลายปม ก็เอามีดตัดที่เชือก
หลวงพ่อ : นั่น นิโรธ และทีนี้ตัดเชือกออกได้แล้ว เป็นยังไง โล่งไหม
ชาวบ้าน : โล่งครับ
หลวงพ่อ : ตัดเชือกได้เพราะอะไร ก็น้ำมือโยมนั่นแหละ นี่คือ มรรค
ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค อริยสัจ4 หนทางดับทุกข์

โอวาทธรรม #พระโพธิญาณเถระ (หลวงปู่ชา สุภัทโท) ศิษย์บูรพาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แห่งวัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี






*จิตปรุงกิเลส คือ การที่จิตบังคับให้กาย วาจา ใจ กระทำสิ่งภายนอกให้มี ให้เป็น ให้ดี ให้เลว ให้เกิดวิบากได้ แล้วยึดติดอยู่ นั่นเป็นตนของเราของเขา

*กิเลสปรุงจิต คือ การที่สิ่งภายนอกเข้ามา ทำให้จิตเป็นไปตามอำนาจของมัน แล้วยึดว่ามีตัวมีตนอยู่ สำคัญผิดจากความเป็นจริงอยู่ร่ำไป.

..... หลวงปู่ดูลย์ อตุโล







#การทำบุญให้ได้บุญ
โอวาทธรรม หลวงปู่ชนะ อุตฺตมลาโภ ณ วัดถ้ำพวง จ.สกลนคร

ทำบุญด้วยเงินให้ทำพอดีพอประมาณ ก่อนจะบริจาคให้คิดถึงพ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลูกหลานเสียก่อน เอาให้พวกท่านได้ใช้เสียก่อน ทำแล้วไม่ลำบากตัวเอง ทำเท่าที่จำเป็น จะมาเอาแต่เงินทำบุญอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องทำความดีด้วย คิดดี ทำดี ใจดี พูดดี นั้นก็เป็นการทำบุญอีกประการหนึ่ง #แต่สิ่งที่ควรทำมากที่สุดเป็นมหาบุญมหากุศลเลยคือ #ทำกับพ่อกับแม่ ทำกับผู้มีพระคุณของเรา ดูแลท่านหาข้าวหาน้ำ พูดคุยกับท่าน เอาใจใส่ท่านให้มากๆ บางคนเข้าวัดทำบุญแต่ไม่เคยสนใจพ่อแม่เลย อันนี้ก็ไม่ถูก ทำบุญต้องทำให้เป็นกลาง พระพุทธศาสนาของเราท่านพาพวกเราเดินในทางสายกลาง

พระภิกษุสงฆ์ที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนาของเราล้วนแล้วเป็นผู้สละ ผู้ที่ขัดเกลากิเลส ผู้พิจารณาตน ผู้สงบ ผู้สำรวมระวัง ญาติโยมจะมาเอาแต่เงินถวายพระก็ไม่ถูกนะ ต้องพิจารณาดูถึงเหตุผลในการให้บริจาคด้วย ท่านมีอะไรต้องใช้มั๊ย ท่านขาดเหลืออะไรมั๊ย ต้องใช้ปัญญาพิจารณาดู เพราะทุกวันนี้ พระภิกษุบางองค์ หลอกญาติโยมบริจาค เอาคำว่า ทำบุญมาอ้าง เพื่อให้ญาติโยมบริจาคเงินให้กับตัวเอง แล้วเอาเงินไปใช้เพื่อความสะดวกสบายแก่ตน ตัวอย่างเช่น ได้เงินบริจาคมาแล้วก็ไปซื้อโทรศัพท์ เล่นแต่โทรศัพท์ สมาธิก็ไม่นั่ง ภาวนาก็ไม่เอา ข้อวัตรปฏิบัติก็ไม่ทำ เอาแต่โทรศัพท์ นอนเล่น นั่งเล่นแต่โทรศัพท์ หลวงปู่เห็นพระบวชใหม่หลายคนที่บวชมาแล้ว วุ่นวายแต่กับโทรศัพท์ จนทำให้พระธรรมวินัยเสื่อมไป เอาเงินบริจาคญาติโยมไปซื้อไปใช้เอาตามกิเลสตัวเองต้องการ อย่างหลวงปู่เองเขาเอามาถวายนอกจากเอาไปหาหมอกับบูรณะวัดก็ไม่รู้จะเอาไปทำไม เพราะบวชมาปฏิบัติ บวชมาภาวนา บวชมาสละแล้ว คนที่เขาจำเป็นได้ใช้อย่างโรงพยาบาลที่เขาต้องใช้เงินเยอะ ทั้งเครื่องหมายเครื่องมือ ทั้งยารักษา งบประมาณแผ่นดินก็ไม่พอ #ใครอยากทำบุญที่เกิดประโยชน์มากให้ไปทำที่โรงพยาบาล ใครเจ็บ ใครป่วยก็ไปโรงพยาบาล ใครจะตายก็ไปที่โรงพยาบาล นั้นละคือการทำบุญที่ได้อานิสงส์มาก เพราะได้ช่วยเหลือผู้อื่น ได้ให้เขาพ้นทุกข์พ้นความลำบาก การทำบุญต้องทำให้เป็นประโยชน์ ทำให้เกิดคุณ ญาติโยมเราหลายคนยังหลงทางกับการทาน การทำบุญที่ไม่เกิดประโยชน์

เมษายน ๒๕๖๒











..เวลาทำบุญให้ทำบุญตั้งแต่หนุ่มแต่น้อย เหตุฉะนั้นบางคนจึงเปรียบเทียบว่า เหมือนบุคคลทำนา ทำนาแล้วก็ได้รับข้าวมา ออกมาครั้งแรกก็เป็นข้าวน้ำนม นำมาทำเป็นขนม ขนมเหมือนข้าวมธุปายาส ก็ได้ทำบุญครั้งหนึ่ง พอมาถึงอีกระยะหนึ่งก็นำมาทำข้าวเม่า ตำข้าวเม่าก็มาถวายพระอีก ต่อมาเวลาข้าวท้องแก่แล้ว ก็ได้เวลาเก็บเกี่ยวแล้วก็มาสีเป็นข้าวสาร สีข้าวแล้วก็เอามาทำบุญทำกุศล อันนี้ก็ได้ทำประโยชน์ตั้งแต่เป็นข้าวน้ำนมมาจนถึงมาเป็นข้าวสาร มาหุงในหม้อ ก็เหมือนคนเฒ่าคนแก่แล้วที่ได้ทำมาทุกช่วงทุกตอน เหตุฉะนั้นบางคนก็เป็นอย่างนั้น บางคนก็แก่เสียก่อนจึงได้ทำบุญทำทานการกุศล ก็ถือว่าโชคดีในชีวิตที่ยังมีอยู่ ได้ทำน้อยแต่ก็ได้ทำ ทำตามกำลังศรัทธาของตน บัดนี้ได้ทำแค่ไหนก็ดีก็ได้ทำตามกำลังของตนเอง ก็ทำให้จิตใจมีความสุข เมื่อจิตใจของเรามีความสุขก็เลยมีบุญ บุญคือความสุขใจ ได้ทำไว้มากไว้น้อยเพียงใดก็พอใจสุขใจ..

..#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป..
วัดอรัญญวิเวก ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่








"อำนาจแห่งบุญที่เคยสร้างไว้
คุณงามความดีที่เราสร้างไว้แล้ว
ถ้าเกิดในภพใด ชาติใด ระลึกถึงบุญ
บุญจะมาปรากฎทันทีช่วยเหลือเราให้พ้นภัย
ไปโดยลำดับลำดา นี้คือ "บุญ""

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน







สิ่งใดก็อยู่กับตัวเรานี่ล่ะ ธรรมก็อยู่กับเรา
วินัยก็อยู่กับเรา ไม่ได้อยู่กับพระกับเจ้าที่ใหนหรอก
การที่เราเข้าพรรษาก็คือเข้าคุณงามความดีนั่นเอง
กายดี วาจาดี ใจดี เมื่อครบ3อย่างนี้จึงเรียกว่าเข้าพรรษา
...หลวงตาบุญชื่น...







กราบ กราบ กราบ...โอวาทธรรมพ่อแม่ครูอาจารย์

"ธรรมทั้งหลายเกิดจากจิต
สำเร็จมาจากจิต

กุศลธรรม
อกุศลธรรม
เกิดจากจิต

จิตที่คิดเป็นกุศล
จิตที่คิดเป็นอกุศล
เกิดจากจิตทั้งนั้น

จิตที่คิดเป็นกุศลแค่คิดแล้วก็ดับไป
จิตที่คิดเป็นอกุศลคิดแล้วก็ดับไป
เกิดขึ้นที่จิตเท่านั้น

ความคิดทั้งหลายเป็นความคิด
ความคิดทั้งหลายไม่ใช่จิต
ความคิดทั้งหลายเป็นสังขาร
สังขารทั้งหลายเป็นอนิจจัง มันไม่เที่ยง
สังขารทั้งหลายเป็นอนัตตา สังขารไม่มีตัวตน
สังขารทั้งหลายเกิดที่จิตดับที่จิต
เกิดแล้วดับที่จิตทั้งนั้น..."

พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร ( หลวงปู่แบน ธนากโร )
วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร






"#ธรรมทั้งหลายเกิดจากจิต_สำเร็จมาจากจิต

กุศลธรรม , อกุศลธรรม เกิดจากจิต
จิตที่คิดเป็นกุศล, จิตที่คิดเป็นอกุศล เกิดจากจิตทั้งนั้น
จิตที่คิดเป็นกุศลแค่คิดแล้วก็ดับไป ,จิตที่คิดเป็นอกุศลคิดแล้วก็ดับไป เกิดขึ้นที่จิตเท่านั้น

ความคิดทั้งหลายเป็นความคิด ความคิดทั้งหลายไม่ใช่จิต
ความคิดทั้งหลายเป็นสังขาร สังขารทั้งหลายเป็นอนิจจัง
มันไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายเป็นอนัตตา สังขารไม่มีตัวตน
สังขารทั้งหลายเกิดที่จิตดับที่จิต เกิดแล้วดับที่จิตทั้งนั้น..."

พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร ( หลวงปู่แบน ธนากโร )
วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร









” #ไตรลักษณ์ “

ถาม : ท่านอาจารย์สอนว่า ถ้าหยุดคิดหยุดปรุงไม่ได้ ให้เข้าหาไตรลักษณ์ ทำไปแรกๆ #จะไล่เหตุผลไปเรื่อยๆ พอสุดท้ายก็มาลงที่ไตรลักษณ์ พอทำบ่อยเข้า ขั้นตอนลดลงไปเรื่อยๆ จะเร็วขึ้นเรื่อยๆ พอคิดปั๊บก็ลงไปที่ "ไตรลักษณ์" เลย

พระอาจารย์ : ถูกต้อง สติปัญญาจะเร็วขึ้นจนเหมือนฟ้าแลบ ปั๊บเดียว พออะไรเกิดขึ้นมา กำหนดปั๊บ มันปล่อยเลย รู้ว่าต้องทำอะไร เมื่อก่อนไม่รู้ พอนึกถึงไตรลักษณ์มันปล่อยทันที

แต่ตอนนี้ไตรลักษณ์ยังไม่อยู่กับเราตลอดเวลา เพราะเรายังยึดติดเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่ ยังหลงกับเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่ เราจะใช้ปัญญาเวลาที่มันทุกข์เท่านั้น พอเราใช้มันแล้ว เราก็จะมีภูมิคุ้มกันเกี่ยวกับเรื่องนั้น เรื่องนั้นจะไม่เป็นปัญหากับเราอีกต่อไป.

#พระอาจารย์สุชาติ_อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๑๔ กัณฑ์ที่ ๓๘๕
วันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๑






"...ศีลทำคนให้เป็นคน ทำมนุษย์ให้เป็นเทวดา คนไม่มีศีลก็เหมือนสัตว์ ทำอะไรไปตามกิเลสชักนำ กิเลสคือ โลภ โกรธ หลง มันคอยชวนคนให้ทำผิดตลอดเวลา คนที่ไม่ได้ศึกษาธรรมย่อมไม่รู้จักมัน หลงเชื่อมัน ทำตามมัน มันก็พาไปพบทุกข์ คนไม่รู้ก็คิดว่าเป็นความสุข รูป รส กลิ่น เสียง พอหลงตามไปแล้ว ทีหลังจึงรู้ว่ามันเป็นสุขปลอม เป็นสุขแต่ข้างนอก ข้างในเป็นทุกข์

ตอนแรกๆ สนุกสนาน นานไปได้ทุกข์ยาก หนักๆ เข้า ตกนรกทั้งเป็น ตายแล้วก็ยังตกนรกอีก คนฉลาดต้องรีบเร่งศึกษาธรรม ท่านทั้งหลายเป็นนักศึกษา ศึกษาทางโลกมากแล้ว มาศึกษาธรรมะเสียบ้างเป็นการดี ถูกต้อง ขั้นแรกคือศีล ศีลห้านั่นแหละพอแล้ว ถือให้มันดีๆ ให้มั่นคง ให้บริสุทธิ์ พอแล้ว ท่านว่าถือตามฐานะ พวกท่านเป็นนักศึกษา ศีลห้าก็ดีแล้ว ถ้าใครถึงศีลแปด ก็ยิ่งดี ถ้าทำได้..."

โอวาทธรรม
หลวงปู่ขาว อนาลโย







#อินทรีย์สังวร

"...เมื่อเรามีสติอยู่ก็เหมือนแมงมุม ที่มัน
ทำรังชักใยไปมา ขึงอยู่กลางอากาศ
เสร็จแล้วตัวแมงมุมก็มาอยู่ตรงกลางรัง
มันเฉยอยู่ นิ่งอยู่ สงบอยู่ ด้วยมีสติอยู่
ถ้าแมลงวัน แมลงผึ้ง บินมาถูกใยมัน
ก็เกิดสัมผัสขึ้น ตัวแมงมุมก็รู้ ก็ตื่นขึ้น
วิ่งไปจับสัตว์ไว้เป็นอาหาร

เมื่อจับเสร็จแล้วก็รีบกลับมาอยู่จุดเก่า
ทำความสงบ ระวังอยู่ มีสติ รู้ว่าอะไร
มันจะมาถูกเข้า ถ้ามันสัมผัสเมื่อไหร่
เเมงมุมก็ตื่น เพราะว่าแมงมุมอยู่ด้วยสติ

แมงมุมนั้นก็เหมือนกับจิตของเรา
จิตของเรานั้นอยู่กึ่งกลางของอายตนะ
ตา หู จมูก ลิ้น กาย จิต
ผู้ประพฤติปฏิบัติก็เหมือนกันฉันนั้น

ถ้าเราระมัดระวังสังวรอยู่สำรวมอยู่ มันจะ
รู้จักตัวของตัวเองรู้จักจิตของตนเองว่า
มันเป็นไปในลักษณะอย่างไร..."

หลวงปู่ชา สุภัทโท








หากต้องการบุญ ก็เข้าไปในกลางกายนั่นแหละ กลางของกลาง กลางของกลาง ก็จะเข้าไปซ้ายขวาหน้าหลัง ล่างบนไม่ไปทั้งนั้น

กลางของกลางหนักขึ้นทุกที ก็จะเข้าไปพบบุญทะเลบุญ อยู่ในกลางกายนั้น เจ้าของผู้ปกครองบุญ นั้นมีอยู่ 2 ภาค มารปกครองภาคหนึ่ง พระปกครองภาคหนึ่ง

ถ้าภาคพระปกครอง ทำบุญทำกุศลต่างๆ พระท่านก็ส่งบุญกุศลมาให้ เหมือนส่งกระแสไฟฟ้า ที่ให้ใช้นี่แหละ ผู้ส่งกระแสไฟฟ้ามาให้ใช้ก็มีอยู่ ถ้าเขาไม่ส่งมาให้เรา เราก็ใช้กระแสไฟฟ้าไม่ได้

บุญก็เหมือนกัน พระเป็นผู้ปกครอง ดินฟ้าอากาศก็มีผู้ปกครองเหมือนกัน ที่บังคับเรา ให้เกิด ให้แก่ ให้เจ็บ และให้ตายอยู่ เดี๋ยวนี้แหละ บังคับพวกเราให้เป็นไปตามนั้น ส่วนพวกพระบังคับไม่ให้เกิด ไม่ให้แก่ไม่ให้เจ็บไม่ให้ตาย นี่พวกพระกับมารบังคับอย่างนี้ เวลานี้พวกพระบังคับไม่ให้รบกัน แต่พวกมารบังคับให้รบกันหนักขึ้น

โอวาทพระมงคลเทพมุนี






ธรรมะอรุณสวัสดิ์...รับวันใหม่
.............................
#ให้ทานกับรักษาศีล
#อันไหนมันง่ายกว่ากัน? #อันไหนยากกว่ากัน?

ให้ทานบางทีเราฝากเขาไปได้ไหม
ฝากไปทำบุญด้วยนะ

รักษาศีลโยมฝากใครได้ไหม?
เราขี้เกียจรักษาศีล
ช่วยเพื่อน ให้ไปรักษาศีลให้ด้วยนะ
มันไม่ได้โยม ของใครของมัน

รักษาศีลนี่บุญยิ่งสูงขึ้นไปอีก

รักษาศีลเป็น มันเท่ากับได้ ๒ อย่างนะโยม

๑. ได้เว้นบาป
ที่เรารักษาศีล เว้นฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์
เท่ากับเว้นบาป

๒. ได้สั่งสมบุญ

#ศีลมันได้๒ด้านเลย
#ได้เว้นบาปด้วย #ได้บำเพ็ญบุญด้วย

ทำไมพระพุทธเจ้าสอนให้ทั้งเว้นบาป สั่งสมบุญ?
ถ้าเอาแต่ทำบุญ ๆๆ ไม่คำนึงถึงการเว้นบาป
มันจะเกิดอะไรขึ้น?

#ทำบุญเยอะแยะทำบุญมากมาย #แต่ไม่เว้นบาป
บุญก็ให้ผลเป็นผู้มีทรัพย์สมบัติ #มีฐานะ #หน้าตารูปร่าง
แต่ถ้ามีบาปมาให้ผล จะเป็นอย่างไร?
อันตรายต่อชีวิตใช่ไหม
บางทีก็ประสบอุบัติเหตุ
บางทีก็ถูกฆ่าบ้าง ถูกอุบัติเหตุ ตายไว อายุสั้น โทษของมัน
ป่วยเจ็บรักษาไม่หาย
มันมาจากบาปทั้งหมด
#มีทรัพย์สมบัติเพราะว่าเราทำบุญไว้
#แต่มันมีโรคมาเบียดเบียนเยอะ
ถ้าไม่เว้นบาปให้ดี มันเป็นอย่างนั้น

#หรือว่าถ้าเกิดตอนจะตาย #บาปมันแซงมาให้ผล
#มันก็ต้องไปสู่อบาย
ไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นสัตว์นรก เป็นหมู หมา แมว อะไรอย่างนี้
#แต่ว่าบุญที่ทำไว้ให้ทานมันตามมาช่วยเหมือนกัน
#เป็นหมาเป็นแมวที่มีคนดูแลเลี้ยงดูอย่างดี

บางตัวนอนที่นอนอย่างดีเลย
ห้องก็ปรับอากาศ ที่หลับที่นอนทุกอย่าง
แถมเขาเอามาเลี้ยง เขาเลี้ยงเหมือนลูก
ตัวเองก็ไม่มีครอบครัวแล้ว
เหลือคนเดียว ลูกหลานก็ไม่มี
ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติให้หมาหรือแมวที่เลี้ยง ที่อังกฤษมี
พอตายใครรับ?
เขาจะมีหน่วยงานเจ้าหน้าที่มารับเอาหมาแมวไปเลี้ยง
แล้วก็เอาทรัพย์สมบัติไปด้วยเลี้ยงดูแมว
ก็ไปกลายเป็นหมารวยแมวรวย

#แต่โยมคิดว่าโยมจะเอาแบบนั้นไหม
ถ้าไม่เว้นบาปมันเป็นอย่างนั้น
#ทำบุญทำกุศลจริงแต่ถ้าไม่เว้นบาปมันพลาดไปเป็นอย่างนั้น

#ฉะนั้นการถือศีลมันเท่ากับเว้นบาปด้วยได้สั่งสมบุญด้วย

(โอวาทปาติโมกข์ ตอนที่ ๕)
ถ่ายทอดสด ธรรมบรรยาย สดจากห้องธรรมพุทธธรรม ปากน้ำ สมุทรปราการ (๒๘-๕-๖๖)
.............................
ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 18 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO