” เปตร “
ถาม : ลูกอ่านในหนังสือท่านบอกว่า มีเปรตประเภทเดียวเท่านั้น ที่สามารถรับการอุทิศบุญกุศลได้ พระอาจารย์ : ใช่ บุญที่เราทำนี่ เขารับไม่ได้หมด รับได้เพียงเสี้ยวเดียว เพราะเขามีภาชนะที่จะรับได้เพียงเท่านั้น สมมุติเรามีของให้เขา ๑ รถปิกอัพแต่เขามีกระแป๋งอยู่ใบเดียว ให้ทั้งหมดปิกอัพเขาก็เอาไปไม่ได้ เอาไปได้เพียงกระแป๋งเดียว แต่ก็พอกับความต้องการของเขา ส่วนใหญ่ต้องมีเหตุให้เรารู้ เช่นมาเข้าฝัน หรือมาทำอะไรสักอย่าง ถ้าเราอยากจะทำเผื่อเขาไป ถ้าเขารอรับอยู่ก็ได้รับ อาจจะรับก็ได้ไม่รับก็ได้ เพราะอาจจะไม่ได้เป็นเปรตก็ได้ อาจจะเป็นเทพเป็นมนุษย์อยู่ก็ได้ หรือยังอยู่ในนรกก็ได้ แล้วแต่บุญแต่กรรมของเขา เราก็ทำเผื่อไว้ เป็นธรรมเนียมเวลาเราทำบุญเสร็จแล้ว เราก็กรวดน้ำกัน ทำเผื่อไปอย่างนั้นเอง เผื่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วรอรับอยู่ ก็จะได้รับไป ถาม : เหมือนในคำอุทิศบุญกุศลที่พิมพ์แจกกัน ก็อุทิศให้กับเทวดาอินทร์พรหม ยมยักษ์ เปรตสัมภเวสี เจ้าที่เจ้าทาง ก็เพื่อความสบายใจ พระอาจารย์ : เขียนไปตามเรื่อง อุทิศได้พวกเดียว ก็คือพวกเปรตเท่านั้นเอง เทวดามีบุญมากกว่า เหมือนกับเอาเงิน ๑๐๐ บาทให้มหาเศรษฐี เขาไม่รู้จะเอาไปทำอะไร อย่างมากเขาก็ขอบใจอนุโมทนา ถ้าส่งไปในคุกก็โดนเจ้าหน้าที่เรือนจำเก็บไว้ ไม่ส่งให้นักโทษ พวกเปรตนี้เป็นเหมือนพวกที่ถูกปล่อยออกมาจากคุก ไม่มีเงินติดตัว ไม่รู้จะไปไหน ก็ไปหาเพื่อนเก่า ขออาศัยนอนสักคืน ขอค่ารถเพื่อเดินทางกลับบ้าน หรือไปสู่จุดหมายปลายทางที่เขาจะไป.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๑๗ กัณฑ์ที่ ๓๙๖ วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
#การนึกถึงความตายเป็นอารมณ์เป็นของดี ดีอย่างไร เพราะเราจะได้ไม่ประมาท ##แล้วก็จงอย่าคิดว่าอายุของเรายังน้อย เราจะไม่ตาย ถ้าคิดอย่างนี้ก็ผิด การนึกถึงความตายต้องนึกอยู่ทุกขณะจิต ว่าเราจะตายเมื่อไรก็ได้ ก่อนที่เรานึกว่าเราจะตาย เราก็ต้องหาทางไปให้มันเหมาะสม เพราะว่าการเกิดมาเวลานี้รู้สึกว่าโชคดีมาก พระศาสนาขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ายังมีความสมบูรณ์อยู่ เว้นไว้แต่เพียงว่าเราไม่ยอมรับนับถือคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ กลายเป็นแกะดำในพระพุทธศาสนา นั่นแหละความทุกข์มันเข้ามาถึงใจ ถ้าเรารู้ว่าเราจะตาย เราก็ตั้งใจไว้มันเป็นของไม่ยาก ถ้าเราไม่อยากไปอบายภูมิเราก็รักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ อันนี้ถ้าเรารักษาศีล 5 บริสุทธิ์แล้วเราก็ไม่ไปอบายภูมิ เรามีการเกิดเป็นมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ #ถ้าเราอยากเกิดเป็นเทวดา เราก็ทรง หิริ และ โอตตัปปะ หิริ แปลว่า ความละอายต่อความชั่ว โอตตัปปะ เกรงกลัวผลของความชั่วจะให้ผลเป็นทุกข์ นี่คนที่นึกถึงความตายเขาหาทางเลือกแบบนี้ อาการที่เราจะต้องเลือกก็เลือกอยู่ทุกวัน หิริ ความละอายต่อความชั่วจะให้ผล เราก็ไม่ทำกลัวมันเสียแล้ว นี่กลัวแล้วเราจะทำอย่างไร ความชั่วมี 2 อย่าง คือ ทั้งฝ่ายวินัยได้แก่ศีล แล้วฝ่ายธรรม ธรรมส่วนใดที่องค์สมเด็จพระจอมไตรกล่าวว่าเป็นอธรรม เป็นธรรมให้เกิดความทุกข์ ตัวอย่างเช่น นิวรณ์ 5 ประการ เราก็ไม่ยอมคบ ถ้าเราไม่คบนิวรณ์ 5 ประการเข้า ถึงแม้ว่าเราไม่ขาดศีล เราก็ไปอบายภูมิได้ เพราะจิตมัวหมอง นี่การนึกถึงความตายเป็นอารมณ์ดีอย่างนี้ ============== คำสอนพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน จากหนังสือ โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม3 หน้า93-94"
#ภาวนาต้องการจิตสงบ #สำหรับการเจริญพระกรรมฐานที่แบ่งออกเป็น ๒ นัย สมถภาวนา และวิปัสสนาภาวนา สมถภาวนาแปลว่าอุบายเป็นเครื่องสงบ หมายความว่าทำจิตใจให้สงบตั้งอยู่ในอารมณ์เป็นอันเดียว #ความประสงค์ในการสมถภาวนาก็มีอยู่ว่าต้องการจิตสงบเท่านั้น ไม่ใช่หวังในการเห็นภาพหรือแสงสีใดๆ ทั้งหมด #ฉะนั้นในการที่เจริญสมถภาวนาถ้าบังเอิญอารมณ์จิตของท่านพุทธบริษัทเข้าถึงอุปจารสมาธิแล้วก็บางทีภาพจะปรากฎ ก็ขอจงอย่าได้กำหนดจิตถือเอาภาพนั้นเป็นสำคัญ ให้ถือว่าเมื่อมาแล้วก็ดับไป เมื่อไปแล้วก็มา ก็ช่าง เราไม่สนใจภาพ ======================= คำสอนพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หนังสือทางสายเอก หน้า 94
|