Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

ทำบุญกุศล

ศุกร์ 09 ส.ค. 2024 8:28 am

...สามวันที่เข้ากรรมฐานไปนี่สนุกสนานมาก วันแรกเลยไปเจอหลวงปู่อินสม สุวีโร กำลังเข้ากรรมฐานอยู่เหมือนกัน ท่านก็เลยชวนไปกราบพระรูปหนึ่ง จำไม่ได้ว่าใคร จนท่านเอ่ยปาก เพิ่งรู้ว่าเป็นหลวงปู่ฟู วัดบางสมัคร โอ้โห...หล่อมาก เวลาท่านอยู่เต็มบุญเต็มบารมีนี่จำไม่ได้จริง ๆ

การเข้ากรรมฐานนั้นมีสองรูปแบบ รูปแบบแรกก็คือ จิตนิ่งอยู่ภายใน แต่จะไม่สนใจอะไรภายนอกเลย ฟ้าถล่มดินทลาย แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ก็ไม่สนใจ

แบบที่สองก็คือ ท่องเที่ยวไปตามภพภูมิต่าง ๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจในร่างกายเหมือนกัน ปีนี้เที่ยวไปเที่ยวมาไปเจอนางเงือก ชื่อ "น้องทราย" น่ารักมาก ถ้ารูปร่างหน้าตานี่น่าเกลียดมากในสายตาของเรา แต่นิสัยดี น่าคบมาก ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวจะแวะไปหาอีก

สรุปว่านางเงือกจริง ๆ หน้าตาน่าเกลียดสุด ๆ ไม่ได้หน้าตาน่ารักเหมือนที่จิตรกรเขาวาดเลยนะ..!

พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
เก็บตกงานทอดกฐิน (ช่วงเช้า) วันศุกร์ที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔






…นิวรณ์เกิดจากการไม่มีสติ
ทำให้คิดเรื่องกามฉันทะ
ทำให้คิดลังเลสงสัย
ในความสามารถของตน

.ให้โกรธคนนั้นโกรธคนนี้
เกิดจากการขาดสติเป็นหลัก
ถ้ามีสติดีๆแล้วก็จะดึงอยู่
“บริกรรมพุทโธๆๆอย่างเดียว
ทุกอย่างก็จบ”.

…………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

จุลธรรมนำใจ ๑๘ กัณฑ์ที่ ๔๐๐
วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๒






. ที่สุดของการทดแทนพระคุณพ่อแม่

สมเด็จโต พรหมรังสี

ลูกเอ๋ย , ยามที่พ่อแม่ของเจ้ามีอายุมากขึ้น ย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ความแข็งแรงของร่างกายที่เคยมีก็ลดลง ใจน้อย โกรธง่าย ความจำก็เสื่อม ขี้หลงขี้ลืม จิตใจก็หมดความสุขสดชื่น ถึงแม้พวกเจ้าจะคอยเอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดสักเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจช่วยให้พ่อแม่ของเจ้ามีความสุขได้เต็มที่...

เพราะพวกเจ้าทุกคนต่างก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เจ้าช่วยท่านให้ได้รับความสุขเพียงการให้กินอยู่หลับนอน อันเป็นความสุขทางกายเท่านั้น แต่จิตใจของท่าน หาได้ร่าเริงสดชื่นผ่องใสไม่

เจ้าจงจำไว้ว่า การให้ความสุขแก่พ่อแม่อย่างแท้จริงก็คือ การให้ธรรมะ ด้วยการสอนหลักธรรมง่ายๆให้พ่อแม่ของเจ้า พาท่านไปทำบุญทำทาน

สอนท่านให้รู้จักการปฏิบัติบูชา สวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตา ธรรมะจะอยู่ในจิตใจของพ่อแม่เจ้าทุกภพทุกชาติ ถือว่าเป็นการทดแทนพระคุณที่สูงสุด

เจ้าจงจำไว้นะลูกเอ๋ย....."ธรรมโอสถ".....

คำสอนของสมเด็จโต ท่านได้บันทึกเอาไว้ด้วยลายมือของงท่าน อันเป็นอมตะวาจา......

คัดลอกจาก หนังสือ อมตะธรรมสมเด็จโต







. " ชนะแค่ตัวเองเป็นพอ "

หลวงปู่ชา สุภัทโท

หลักของการปฏิบัตินั้น หนึ่ง เราตั้งไว้ในใจของเราว่า...

"เราจะต้องเอาชนะตัวเองให้ได้ "

นี่หลักใหญ่ของมัน...

"อย่าเอาชนะสิ่งอื่น อย่าเอาชนะบุคคลอื่น"

ถ้าใครมีความรู้สึกนึกคิดว่า จะเอาชนะผู้อื่นอยู่รํ่าไป นั้นก็เป็นผู้ที่แพ้เรื่อยไปในด้านปฏิบัติ เพราะลักษณะปฏิบัติที่แท้จริงนั้น จะต้องภาวนา ให้รู้จักเอาชนะตนเองเรื่อยไป เมื่อรวมแล้วถ้าเอาชนะตนเองก็ชนะหมดทุกสิ่ง ทุกอย่าง

ผู้ปฏิบัติอยู่ในระบอบอันนี้เรียกว่า

"เป็นผู้มีหลักธรรมเอาชนะใจตัวเองได้"

การดำเนินงาน ในด้านปฏิบัติของเรา ให้ตั้งอันนี้ไว้สมํ่าเสมอ "

หลวงปู่ชา สุภัทโท







. " คนไปสวรรค์เท่ากับเขาวัว คนไปนรกเท่าขนวัว "

หลวงปู่ขาว อนาลโย

" .. กระทำจิตของตนให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว "อันนี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ให้มีสติรักษากาย วาจา ใจ" ศีลห้าถ้าใครละเมิดก็เป็นบาป ครั้นละเว้น โทษห้าอย่างนี้ นั่นแหละเป็นศีล "ศีลคือใจ บาปก็ศีอใจ ศีลอยู่ในใจ บาปก็อยู่ที่ใจเหมือนกันนั่นแหละ"

เรื่องทำบุญกุศลให้ทานรักษาศีล "ภาวนาอยู่แต่ใจทั้งนั้น อะไรม๊ดอยู่กับใจ สงสัยก็พิจารณาดวงใจ" ทำบาปห้าอย่างนี้แล้วศีลไม่มี เป็นคนไม่มีศีล คนมันชอบท่าแต่บาป ศีลไม่ชอบทำ อยากท่าแต่บาป ท่านเปรียบไว้ว่า "คนไปสวรรค์เท่ากับ เขาวัว คนไปนรกเท่าขนวัว" วัวมีสองเขา แต่ขนมันนับไม่ล้วน .. "

"โอวาทธรรม ๒๒ ปีวันละสังขาร"
(หลวงปู่ขาว อนาลโย)
ตอบกระทู้