นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 15 ม.ค. 2025 7:26 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ความก้าวหน้า
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 24 ส.ค. 2024 9:21 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4803
#บังสุกุลอุทิศให้โยมพ่อเปลี่ยนภพภูมิจากเปรตไปเป็นเทวดา

หลวงปู่แสวง อมโร ท่านเล่าว่า

"โยมพ่อท่านตายไปแล้วเป็นเปรต คืนหนึ่งได้มาหาท่าน องค์ท่านเองก็จำไม่ได้ว่าเป็นโยมพ่อท่าน ร่างกายที่มาปรากฏนั้นก็ผ่ายผอม ไม่มีเสื้อผ้าใส่ ส่วนสาเหตุที่มาเป็นเปรตตกระกำลำบากนี้ก็เพราะว่าเคยฆ่าแมวโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากพ่อท่านเป็นช่างลับมีด แล้วแมวมันมากวน โยมพ่อท่านก็เลยตั้งใจเอาสันมีด เคาะไปที่หลังแมว แต่จับด้ามผิดฝั่ง กลายเป็นเอาด้านคม ไปเฉาะเอาตรงคอแมวเข้า แต่มันไม่ขาดห้อยต่องแต่งอยู่อย่างนั้น โยมพ่อท่านทุกข์ใจเรื่องนี้มาก ก่อนตายก็คิดแต่เรื่องนี้ จึงได้กลายมาเป็นเปรต หลวงปู่แสวง ท่านก็ทำบุญอุทิศให้โยมพ่อ โดยนำอาหารที่ท่านบิณฑบาตได้นั้น มาใส่บาตรครูบาอาจารย์อีกทีหนึ่งเพื่ออุทิศให้โยมพ่อท่าน และนำผ้าจีวรเนื้อดีถวายแก่ครูบาอาจารย์ หากจำไม่ผิดท่านนำจีวร ไปถวายหลวงปู่มหารักษ์ เรวโต พระอุปัชฌาย์ของท่าน

ในส่วนของผ้าจีวรนี้ ท่านได้มาจากหลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ หลวงปู่แสวง ได้เป็นผู้ร่วมสร้างสะพานไม้รอบภูทอก แต่มีจุดหนึ่งที่มีสะพานหินธรรมชาติเชื่อมไปยัง เขาโดดลูกเล็กที่มีลักษณะคล้ายเห็ดที่แยกตัวออกไปจากภูทอก หลวงปู่จวนบอกกับลูกศิษย์ว่า ใครหาวิธีเชื่อมทางเขา ๒ ลูกนี้ได้ เราจะให้ผ้าจีวรเนื้อดีแก่ผู้นั้น หลวงปู่แสวง ก็หาวิธีจนได้ โดยทำเชือกผูกเป็นบ่วง โยนค่อมไปที่เขาลูกนั้น แล้วหย่อนเชือกลงไป ให้สามเณรที่ตัวเบาๆ ผูกกับเอว แล้วค่อยๆไต่ขึ้น ท่านว่าพวกเณรนั้นไม่มีใครกลัว ต่างก็ชอบเล่นกันเป็นของสนุก ทั้งพระทั้งเณรต่างช่วยกันสกัดหินทำสะพานไม้เชื่อมต่อเขาสองลูกจนสำเร็จ เขาลูกนี้เป็นที่ทราบกันในชื่อว่า “พุทธวิหาร” ซึ่งอยู่บริเวณชั้นที่ ๕ ของภูทอก ด้วยเหตุนี้ หลวงปู่แสวง จึงได้ผ้าจีวรเนื้อดีจากหลวงปู่จวน และได้ทอดผ้าบังสุกุลอุทิศให้โยมพ่อ จึงเปลี่ยนภพเปลี่ยนภูมิ จากเปรตไปเป็นภูมิเทวดาได้"







"...แม้แต่ลมหายใจ ก็ไม่ใช่ของเรา เขาอยากอยู่เขาก็อยู่ เขาอยากดับเขาก็ดับ เพราะเหตุนั้น คนเราไม่ว่าแก่ไม่ว่าหนุ่ม ไม่ว่าเด็ก หรือเพิ่งจะเกิดก็ตายได้ พอลมหายใจดับ ก็ตายทุกคนเอาไปเผาได้ ก็แค่นั้นเอง ไม่มีอะไร

ตัวของเรามีอย่างเดียวคือ ใจ..นะ
การภาวนาคือการเอาใจของเรานี้ถอดถอนหัวใจของเรา อย่าให้มันโลภมาก อย่าให้มันอยากได้มาก มีพออยู่พอกินก็เป็นสุขแล้ว ....."

โอวาทธรรม

#หลวงปู่ศิลา สุมังคโล (อายุ 96 ปี)
วัดป่าท่าสิมมา อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี

ให้ไว้ ณ กุฏิเรือใหญ่ วัดสังฆทาน
21 มิ.ย.2567







"..ชีวิตนี้เป็นประดุจผ้าขี้ริ้ว เป็นเหมือนถังขยะที่คอยเก็บอานิสงส์ของกรรมดีชั่ว แล้วก็ได้ผลแก่เราเป็นผู้เสวย ถ้าเรานำชีวิตที่เราพิจารณาเห็นด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว น้อมพิจารณาให้เกิดธรรมะขึ้นภายในใจ ธรรมที่เกิดขึ้นภายในใจนั่นแหละจะเป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทองขึ้นมาทันที เพราะร่างกายของคนนี้ไม่มีค่า มันมีค่าอยู่ที่หัวใจที่มีธรรม รูปธรรมทุก ๆ อย่างจึงเป็นผ้าขี้ริ้ว นามธรรมคือหัวใจ ที่ฝึกปฏิบัติจนได้เห็นธรรมตามความสามารถ นั่นแหละเป็นทอง คือธรรมสมบัติอันล้นค่า ปรากฏเด่นขึ้นมาเป็นสักขีพยาน.."

โอวาทธรรม
พระครูสุทธิธรรมรังษี (หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท)
วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
(พ.ศ.๒๔๕๙-๒๕๔๗)






“อธิษฐานในความหมายของพระพุทธศาสนา
เป็นบารมีอย่างหนึ่ง คือ ความตั้งใจมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว
ว่าจะทำการนั้นให้สำเร็จตั้งจุดมุ่งหมายที่ดีขึ้นมา
แล้วก็มุ่งทำการนั้นแน่วแน่ไป ไม่ใช่อธิษฐานเพื่อจะได้
แต่อธิษฐานเพื่อจะทำ คนไทยนี่อธิษฐานเพื่อจะได้
แต่ของพระ เป็นการอธิษฐานเพื่อจะทำ”

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต)






อะไรเป็นตัวทดสอบ
ความก้าวหน้าในการปฏิบัติ
ยังไม่ปฏิบัติ… “สุขยาก ทุกข์ง่าย”
ปฏิบัติแล้ว… “สุขง่าย ทุกข์ยาก”

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 19 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO