นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 15 ม.ค. 2025 11:35 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: คำสรรเสริญ นินทา
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 25 ส.ค. 2024 9:02 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4803
…การได้ฟังเทศน์ฟังธรรม
เพียงอย่างเดียว เป็นเพียงจุดเริ่มต้น
ต้องฟัง จะได้รู้ว่าต้องปฏิบัติอะไร
ถ้าไม่ฟัง เราก็ไม่รู้ว่าจะปฏิบัติอะไร

.ตอนนี้ฟัง เรารู้แล้ว
สิ่งที่เราต้องปฏิบัติก็คือ ต้องทำใจ
เราต้องปลงให้ได้ วางให้ได้
ปล่อยให้ได้ ตัดให้ได้

.กับของที่ไม่ใช่เป็นของเรา
กับของที่จะต้องเสื่อม จะต้องจากเราไป
”ถ้าเราปลงได้ ยอมได้
ทำใจได้ ..เราก็จะไม่ทุกข์ “

…………………………………………
.
สนทนาธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๙

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี





"เมื่อไม่หวั่นไหวต่อความนินทาว่าร้าย ความอิจฉาริษยาจากผู้อื่น บุญบารมีก็แก่กล้าขึ้น ถ้าผู้ใดมีจิตหวั่นไหวกับคำสรรเสริญหรือนินทาจากผู้อื่นแล้ว บุญบารมีก็ไม่แก่กล้าขึ้นได้...ขอให้พากันเข้าใจ"

โอวาทธรรม

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
ศิษย์บูรพาจารย์ใหญ่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แห่งวัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย







"..ผู้ปฏิบัติพึงใช้อุบายปัญญาฟังธรรมเทศนาทุกเมื่อ ถึงจะอยู่คนเดียวก็ตาม คืออาศัยการกำหนดพิจารณาธรรม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็เป็นรูปธรรมที่มีปรากฏอยู่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ก็มีอยู่ ได้ยินอยู่ สัมผัสอยู่ ปรากฏอยู่ จิตใจเล่าก็มีอยู่ ความนึกคิด รู้สึกในอารมณ์ต่างๆ ทั้งดี และร้ายก็มีอยู่ ความเสื่อม ความเจริญ ทั้งภายนอก ภายใน ก็มีอยู่ ธรรมชาติอันมีอยู่โดยธรรมดา เขาแสดงความจริงคือ ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ให้ปรากฏอยู่ทุกเมื่อ เช่น ใบไม้มันเหลืองหล่นร่วงลงมา พินิจพิจารณาด้วยสติปัญญา โดยอุบายมีอยู่เสมอแล้ว ชื่อว่า ได้ฟังธรรมทุกเมื่อแล.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)






#บังสุกุลอุทิศให้โยมพ่อเปลี่ยนภพภูมิจากเปรตไปเป็นเทวดา

หลวงปู่แสวง อมโร ท่านเล่าว่า

"โยมพ่อท่านตายไปแล้วเป็นเปรต คืนหนึ่งได้มาหาท่าน องค์ท่านเองก็จำไม่ได้ว่าเป็นโยมพ่อท่าน ร่างกายที่มาปรากฏนั้นก็ผ่ายผอม ไม่มีเสื้อผ้าใส่ ส่วนสาเหตุที่มาเป็นเปรตตกระกำลำบากนี้ก็เพราะว่าเคยฆ่าแมวโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากพ่อท่านเป็นช่างลับมีด แล้วแมวมันมากวน โยมพ่อท่านก็เลยตั้งใจเอาสันมีด เคาะไปที่หลังแมว แต่จับด้ามผิดฝั่ง กลายเป็นเอาด้านคม ไปเฉาะเอาตรงคอแมวเข้า แต่มันไม่ขาดห้อยต่องแต่งอยู่อย่างนั้น โยมพ่อท่านทุกข์ใจเรื่องนี้มาก ก่อนตายก็คิดแต่เรื่องนี้ จึงได้กลายมาเป็นเปรต หลวงปู่แสวง ท่านก็ทำบุญอุทิศให้โยมพ่อ โดยนำอาหารที่ท่านบิณฑบาตได้นั้น มาใส่บาตรครูบาอาจารย์อีกทีหนึ่งเพื่ออุทิศให้โยมพ่อท่าน และนำผ้าจีวรเนื้อดีถวายแก่ครูบาอาจารย์ หากจำไม่ผิดท่านนำจีวร ไปถวายหลวงปู่มหารักษ์ เรวโต พระอุปัชฌาย์ของท่าน

ในส่วนของผ้าจีวรนี้ ท่านได้มาจากหลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ หลวงปู่แสวง ได้เป็นผู้ร่วมสร้างสะพานไม้รอบภูทอก แต่มีจุดหนึ่งที่มีสะพานหินธรรมชาติเชื่อมไปยัง เขาโดดลูกเล็กที่มีลักษณะคล้ายเห็ดที่แยกตัวออกไปจากภูทอก หลวงปู่จวนบอกกับลูกศิษย์ว่า ใครหาวิธีเชื่อมทางเขา ๒ ลูกนี้ได้ เราจะให้ผ้าจีวรเนื้อดีแก่ผู้นั้น หลวงปู่แสวง ก็หาวิธีจนได้ โดยทำเชือกผูกเป็นบ่วง โยนค่อมไปที่เขาลูกนั้น แล้วหย่อนเชือกลงไป ให้สามเณรที่ตัวเบาๆ ผูกกับเอว แล้วค่อยๆไต่ขึ้น ท่านว่าพวกเณรนั้นไม่มีใครกลัว ต่างก็ชอบเล่นกันเป็นของสนุก ทั้งพระทั้งเณรต่างช่วยกันสกัดหินทำสะพานไม้เชื่อมต่อเขาสองลูกจนสำเร็จ เขาลูกนี้เป็นที่ทราบกันในชื่อว่า “พุทธวิหาร” ซึ่งอยู่บริเวณชั้นที่ ๕ ของภูทอก ด้วยเหตุนี้ หลวงปู่แสวง จึงได้ผ้าจีวรเนื้อดีจากหลวงปู่จวน และได้ทอดผ้าบังสุกุลอุทิศให้โยมพ่อ จึงเปลี่ยนภพเปลี่ยนภูมิ จากเปรตไปเป็นภูมิเทวดาได้"









"..พระพุทธเจ้าของเราเป็นผู้ประเสริฐเลิศเลอ ไม่มีใครเสมอเหมือนแล้วในโลกทั้งสามนี้ แล้วเวลามาประกาศสอนธรรมแก่พี่น้องชาวไทยทั้งหลาย ที่ยอมรับนับถือและปฏิบัติตามท่าน จึงให้นามว่าเป็นชาวพุทธ เป็นลูกของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านให้สร้างทั้งเรือนกายเรือนใจ เรือนกายคือที่เราวิ่งเต้นขวนขวายเพื่อธาตุเพื่อขันธ์ นี้เรียกว่าเรือนกาย ส่วนเรือนใจได้แก่การให้ทาน การรักษาศีล การเจริญเมตตาภาวนาอบรมจิตใจของเราเข้าสู่ศีลธรรม ไม่ให้ไขว้เขวไปในทางที่เสียหายแก่ตัวของเรา เช่นความประพฤติไม่ดีงามอย่างนี้เป็นภัยต่อพวกเรา เราชาวพุทธจึงควรพยายามระมัดระวังสิ่งชั่วช้าลามกนี้ แล้วสร้างความดีเข้าสู่ใจของเราเป็นลำดับที่สำคัญมากที่สุดก็คือธรรมกับใจ เป็นที่พึ่งเป็นพึ่งตายของกันได้อย่างแท้จริง.."

พระธรรมคำสอนโดย
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน)
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
(พ.ศ.๒๔๕๖-๒๕๕๔)


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 156 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO