พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
จันทร์ 26 ส.ค. 2024 5:15 am
"..เมื่อบุคคลยังไม่รู้จักตัวเอง ธรรมะไม่เข้าถึงใจ ใจไม่เข้าถึงธรรมะ จะทำความชั่วอะไรก็กลัว กลัวคนอื่นจะเห็น กลัวพ่อแม่จะเห็น กลัวครูบาอาจารย์จะเห็น กลัวคนอื่นจะรู้ คือคนยังไม่เห็นธรรมก็ต้องเป็นอย่างนั้น เมื่อไปในสถานที่ใดๆ ที่ว่างจากผู้คน ว่างจากพ่อแม่ว่างจากครูบาอาจารย์ เห็นว่าไม่มีเพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย ไม่มีใครอยู่ในที่นั้น ก็พยายามทำความชั่วอยู่ที่ตรงนั้น ด้วยความประมาท เพราะความโง่เขลาเบาปัญญานั่นเอง การกระทำเช่นนั้นเขาก็คิดว่าเขาทำถูกแล้ว พ้นภัยแล้ว เพราะว่าไม่มีใครเห็นเขา ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นเขาอย่างนี้ ก็กระทำอย่างสนิทใจเลย แต่คนคนนั้นในทางธรรมถือว่าเป็นคนโง่ที่สุด คือเป็นคนดูถูกตัวเองที่สุด ความเป็นจริงนั้นเมื่อจิตมันเป็นธรรมะ เมื่อธรรมะเป็นจิต มันจะกลมกลืนเป็นอันเดียวกันเลย จะไปทำผิดอะไรที่ตรงไหนเป็นต้น ก็ต้องมีคนเห็น คนอื่นไม่เห็นเราก็เห็นคนอื่นไม่รู้เราก็รู้ ดังนั้นถึงจะไปอยู่ตรงไหนก็เป็นอยู่อย่างนั้น จึงเป็นธรรมะ ไม่กล้าทำ เพราะใจมันเป็นธรรมะแล้ว พระอริยสาวกทุกๆ องค์เมื่อใจเป็นธรรมะแล้วก็ต้องเป็นอย่างนั้นทุกๆ องค์ ที่ลับไม่มี ที่แจ้งไม่มี อะไรๆ มันก็ไม่มี รู้แต่ว่าท่านประพฤติปฏิบัติถึงที่แล้ว.."
พระโพธิญาณเถร
(หลวงปู่ชา สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
(พ.ศ.๒๔๖๑–๒๕๓๕)
"..มนุษย์เวียนเกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดติดของเก่า กามาวจรสวรรค์ ๑ สัตว์เดรัจฉาน ๑ มนุษย์ ๑ ท่านพวกนี้ติดของเก่า ... มีกิน ๑ มีนอน๑ สืบพันธ์ ๑ แม้ปู่ย่าตายายของเราล้วนแต่ติดของเก่า พระพุทธเจ้าก็ดี พระปัจเจกก็ดี พระอรหันต์ก็ดี เมื่อท่านยังไม่ตรัสรู้ ก็ติดของเก่า เพลิดเพลินของเก่า ... ในรูป เสียง กลิ่น รสของเก่า ... ทั้งนี้ไม่มีฝั่งไม่มีแดน ไม่มีต้น ไม่มีสายย่อมปรากฏอยู่เช่นนั้น.."
ภูริทตฺตวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓–๒๔๙๒)
#จิตใจมีธรรมไปอยู่ไหนก็มีแต่ความเย็นความชุ่มฉ่ำ
ให้พากันทำแต่ความดีทำบุญให้มากไว้
หลีกหนีละเว้นจากความชั่ว
คนทำความดีมาตลอดชีวิต ทำชั่วเพียงครั้งเดียว (อนันตริยกรรม) ก็ตกนรกอเวจีได้
เปรียบได้ดั่งโยนหินลงในมหาสมุทรไม่ว่าก้อนเล็กหรือก้อนใหญ่ก็จมลงเบื้องล่างฉันนั้น
การทำความชั่วที่หนักหนาก็ต้องลงนรก
เพราะไม่มีความดีที่จะทานผลของความชั่วอนันตริยกรรมได้
ตรงข้ามกัน ทำกรรมไม่ดี ความชั่วเล็กๆ น้อยๆ มาตลอด
แต่พอทำบุญคุณงามความดีมหาศาลครั้งเดียว ก็ขึ้นสวรรค์ได้
เปรียบได้กับเกวียนบรรทุกสินค้าหนักร้อยเล่มเกวียน วิ่งลงในเรือสำเภาใหญ่ได้โดยไม่จมลง
เพราะผลของความดีพยุงไว้ไม่ให้จมลง เป็นฉันนั้นแล...
โอวาทธรรม
#หลวงปู่ทุย ฉนฺทกโร
วัดป่าดานวิเวกในพระบรมราชูปถัมภ์ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ
#วางใจเป็นกลางละวางความทุกข์
"..ความทุกข์ที่บังเกิดขึ้นที่จิต เพราะอาศัยความยินดียินร้าย เป็นตัวสมุทัยหนุนให้เกิดทุกข์ ทุกข์ตัวนี้ คือ ทุกข์อริยสัจที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เมื่อเรามีสติกำหนดอารมณ์จิตของเราอยู่ตลอดเวลา สุขทุกข์เกิดสลับกันไป เมื่อสติสัมปชัญญะตัวนี้เด่นขึ้น มีพลังแก่กล้าขึ้นเมื่อใด เราสามารถที่จะกำหนดรู้ รู้ธรรมะตามความเป็นจริงเมื่อจิตของท่านสามารถที่จะดำรงอยู่ในความเป็นปรกติ ไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์นั้น ๆ ความเป็นปกติจิตปรากฏเด่นชัดอยู่ตลอดเวลา ตัวปกติของจิตนั่นแหละคือนิโรธ เพราะฉะนั้น การกำหนดรู้อารมณ์จิตจึงเป็นสิ่งสำคัญ.."
พระธรรมคำสอนโดย
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
(พ.ศ.๒๔๖๔–๒๕๔๒)
ทะเลลึกที่กว้างใหญ่ไพศาลรองรับสายน้ำทุกๆสายโดยมิได้ปฎิเสธสายน้ำเหล่านั้นเลย ทะเลไม่เคยแสดงความยิ่งใหญ่ข่มสายน้ำน้อยๆที่ไหลลงมา ทะเลรองรับน้ำทั้งหมดได้อยู่ตลอด ไม่ว่าน้ำดีหรือน้ำเสีย จิตแห่งโพธิก็เป็นเช่นนั้นๆแล
โอวาทธรรม ครูบากฤษดา สุเมโธ
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.