นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 21 เม.ย. 2025 9:10 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: จิตใจ
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 07 พ.ย. 2024 1:16 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4896
#อย่าทำตัวเป็นไม้บรรทัดเที่ยววัดคนอื่น

"... แต่ไม่เคยวัดตัวเองอย่าเอาคนอื่นมาเป็น
มาวัดกับเรานะ เรากับเขา มันคนละคน

#การปฏิบัติตามธรรมเป็นเรื่องส่วนตัว

"... ของใครของมัน อย่าเอามาอวด มา
อ้างกัน อย่าเอาเขา มาทำให้เราเป็นทุกข์ …”
----------------------------------------------
#โอวาทธรรม_หลวงปู่หา_สุภโร
วัดสักกะวัน ( ภูกุ้มช้าว ) อำเภอสหัสขันธ์
จังหวัดกาฬสินธุ์







…เวลาของเราจะมีน้อยลงไปเรื่อยๆ
ถ้าไม่รีบทำเสียตอนนี้
พอเวลาของเราหมดก็จะไม่ได้ทำ
จะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้บำเพ็ญต่ออีกเมื่อไหร่

เวลาของเราๆก็ไม่รู้ว่าเหลือมากน้อยเพียงไร
เพราะไม่ได้เป็นของตายตัว
ไม่ได้เป็นว่าทุกคนจะมีอายุถึง ๘๐ ปีทุกคน
บางคนอาจจะไปไม่ถึง ๘๐
บางคนอาจจะเลย ๘๐
ไม่มีใครรู้ว่าจะไปถึงเท่าไหร่

แต่สิ่งที่ควรคำนึง
หรือคิดไว้เพื่อความไม่ประมาทก็คือ
คิดว่าของเราอาจจะหมดในวันนี้ก็ได้
หรืออาจจะหมดพรุ่งนี้ก็ได้
ถ้าคิดอย่างนี้ ก็จะไม่ปล่อยเวลาอันมีค่า
นี้ให้ผ่านไปโดยไม่ได้บำเพ็ญภาวนา.

…………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

จุลธรรมนำใจ ๑๔ กัณฑ์ที่ ๓๘๓
วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๑






"..ไปทำเถอะ ทำอยู่ที่ไหนก็ได้ ขอให้ปฏิบัติตัวเองให้ดี นั่นแลคือการปฏิบัติ พระพุทธเจ้า ระลึกถึงท่านด้วยการระมัดระวังตัวให้ดี นั่นแลคือการระลึกถึงพระพุทธเจ้า ถึงพระธรรม ถึงพระสงฆ์ พระสงฆ์ท่านปฏิบัติดีอย่างไร เราปฏิบัติดีอย่างนั้น นั่นแล คือการบูชาพระสงฆ์.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)







"..การสั่งสอนหมู่คณะผมก็ได้คุ้ยเขี่ยธรรมมาสอนอย่างเปิดเผยไม่มีปิดบังลี้ลับเลย บรรดาธรรมที่ควรแก่การรู้เห็นในวงสัจธรรมหรือสติปัฏฐานสี่ เว้นแต่ธรรมที่เป็นไปตามนิสัยวาสนาโดยเฉพาะเป็นราย ๆ ไม่เกี่ยวแก่การบรรลุ เช่น ความรู้ปลีกย่อยต่าง ๆ ดังที่เคยเล่าให้ฟังเป็นกรณีพิเศษเสมอมา ใครจะรู้เห็นอะไรขึ้นมาผมยินดีฟังและแก้ไขเต็มกำลังอยู่เสมอ เวลาผมตายไปแล้วจะลำบาก หาผู้แก้ไขได้ยากมากนะ ธรรมทางด้านปฏิบัติไม่เหมือนทางด้านปริยัติ ผิดกันอยู่มาก ผู้ไม่เคยรู้เคยเห็นสมาธิ ปัญญา มรรค ผล นิพพานมาก่อน แต่จะมาสามารถสั่งสอนคนอื่นให้ถูกต้องเพื่อมรรค ผล นิพพานนั้นไม่ได้.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒) อ้างอิงหนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ







วัตถุมิได้ช่วยให้พ้นทุกข์
เมื่อได้วัตถุที่ตนปรารถนาแล้ว เอาไปบําบัดทุกข์เท่าไรๆทุกข์นั้นก็ไม่สามารถจะหมดสิ้นไปได้ บางทีทุกข์ยิ่งเพิ่มทวีขึ้นอีก อันเกิดจากวัตถุนั้นๆ ก็มี ผู้มีปัญญาจึงตัดสิน เห็นชัดด้วยใจของตนเองว่า เรื่องนั้นมิใช่ทางเป็นไปเพื่อพ้นจาก ทุกข์ได้จริง

จิตหลอกลวง
จิตหลอกลวงสัตว์ทั้งหลายให้ลุ่มหลง แล้วยินดีตามวิสัยของมาร

พระธรรมคำสอน
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี







ทำให้ต่อเนื่อง

การยืน เดิน นั่ง นอน ให้มีสติติดต่อกันเรื่อยสม่ำเสมอ นี่เรียกว่า การฝึกกรรมฐานที่ถูกต้อง ที่เรามีสติไม่สม่ำเสมอเพราะบางทีเราไม่ได้ทำ การกระทำนี้ไม่ใช่ร่างกายทำ แต่จิตเป็นผู้ทำ ถ้าเราทำสติให้ติดต่อให้มีความรู้สึกอยู่เสมอแล้ว จะเหมือนกับหยดน้ำที่ไหลติดต่อกันจนเป็นสายน้ำตลอดเวลา ถ้าทำจิตได้อย่างนี้ การภาวนานั้นก็จะเร็วมากดีมาก

เดี๋ยวนี้มีไปทำวิปัสสนากรรมฐาน ๓ วัน ๗ วัน ๑๐ วัน ๑๕ วัน แล้วก็ออกมา เมื่อออกมาก็ว่าเราไปทำวิปัสสนาแล้ว ดีแล้ว ก็ไปเต้นรำทำเพลงสนุกสนาน ทำอย่างนี้ก็หมดแล้วไม่มีอะไรแล้ว ไปทำชั่วต่าง ๆ ทำให้จิตกระทบกระเทือนเสียหายอย่างนี้ ไม่เรียกว่าปฏิบัติ มันเป็นปฏิปทา เหมือนกับปลูกต้นไม้ เอามาปลูกวันนี้อีก ๓ วันก็ถอนเอาไปปลูกตรงนั้น อีก ๓ วันก็ถอนอีก ต้นไม้ก็ตายไม่ได้กินหรอก กรรมฐานก็หมดไปเหมือนกันอย่างนั้น

พระธรรมเทศนา
พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)






มรรค ๘ ใครภาวนาเจริญดีแล้ว แก้โลกธรรม ๘ ประการ ฉะนั้นจิตท่านอรหันต์ไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรม ๘ ประการ มีไตรลักษณ์บังคับแม้โลกีย์ทั้งหลาย มีไตรลักษณ์บังคับอยู่เสมอ ไตรลักษณ์บังคับไม่ได้นั้น มีโลกุตระเท่านั้น โลกุตระอันนี้อยู่เหนือไตรลักษณ์

สถานที่เกษมบุคคลที่จะพ้นโลกโลกีย์ไปถึงโลกุตระ ต้องสร้างพระบารมีเป็นการใหญ่ บุคคล ๓ จําพวกคือ พระพุทธเจ้า ๑ พระปัจเจก ๑ พระอรหันต์ ๑ พระพุทธเจ้าสร้างบารมี ๓ ชนิด ปัญญาบารมี ๔ อสงไขย แสนกําไรมหากัป ศรัทธาบารมี ๘ อสงไขย แสนกําไรมหากัป วิริยบารมี ๑๖ องไขย แสนกําไรมหากัป พระปัจเจกสร้างบารมี ๒ อสงไขย แสนกําไรมหากัป พระอรหันต์สร้างบารมี ๑ อสงไขย แสนกําไรมหากัปดังนี้

สร้างพระบารมีมิใช่น้อยกว่าจะสําเร็จพระนิพพานได้ดังนี้ ชำนาญมากที่สุด ๑ อสงไขย เหลือที่จะนับนั้นประการหนึ่ง เอาสวรรค์ เอานรกเป็นเรือนอยู่สร้างพระบารมี พระนิพพานเป็นของที่แพงที่สุด ต้องสร้าง บารมีแลกเปลี่ยนเอาจึงจะได้พระนิพพาน

ขอขอบคุณที่มา:หนังสือ "โอวาทธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" บันทึกโดย หลวงปู่หลุย จันทสาโร






"ทุกข์ไม่ทำ ทำไม่ทุกข์
ทุกข์ไม่พูด พูดไม่ทุกข์
ทุกข์ไม่คิด คิดไม่ทุกข์
ทำ พูด คิด ไม่ติดทุกข์"

หลวงปู่เสาร์ ติสสปัญโญ






“เมื่อเราพูดว่าการกระทำอย่างนี้
หรือเหตุการณ์นี้ ทำให้เสียศักดิ์ศรี
เรามักจะหมายถึง การเสียหน้า
แต่ศักดิ์ศรีของเรา ไม่ได้อยู่ที่หน้า
หากอยู่ที่ใจ ถ้าเราไม่อยากเสียศักดิ์ศรี
ก็ต้องป้องกันจิตใจของเราด้วยอำนาจของ
ศีล สมาธิ และปัญญา”

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 16 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO