Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

ทำบุญสุนทาน

อาทิตย์ 17 พ.ย. 2024 6:10 am

คนมีธรรม เขาบ่ไปเถียงกับไผเด้
เขาเถียงกับตัวเองเนี้ย บ่ไปเถียงกับไผบ่ไปเอาชนะไผ
ทุกวันนี้มันเอาธรรมะไปเถียงกัน แบกตำราไปเถียงกัน
อันนั้นถูกอันนี้ผิด อันนี้พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน อันนั้นไม่มีในพระไตรปิฎก เอาไปเอามาธรรมะของพระพุทธเจ้าเลยเป็นเครื่องต่อรอง
โอปนยิโก ควรน้อมเข้ามา หรือ ควรน้อมเข้ามาไว้ในใจ หรือน้อมใจ เข้าไปให้ถึง ด้วยการปฏิบัติให้เกิดมีขึ้นในใจ อันนี้ปฏิบัติก็ไม่ปฏิบัติ มีแต่หาเรื่อง วันๆคิดหาเรื่องนั้น คิดหาเรื่องนี้ จะเอาไปเถียงกัน คนมีธรรมเขาบ่สนใจดอกเขานิ่งเขาเสย สนใจแต่เรื่องของตัวเอง
แก้ไขดัดแปลงตัวเอง บ่ไปแก้ไขคนอื่น เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดี บ่ต้องไปเปลี่ยนแปลงคนอื่น เพราะเขามีกรรมของเขา ถ้าถึงวาระที่จะเข้าถึงในจุดนี้เขากะสิมาของเขาเอง ให้ดีที่สุดคือแก้ไขตนเอง ตื่นรู้ตนเอง เข้าใจบ่

โอวาทธรรม
#หลวงพ่อพระวิชัยมุนี





"..ไข้นี้ เป็นไข้ของคนแก่ ซึ่งหมดความสืบเนื่องใด ๆ อีกแล้ว ไม่ว่ายาขนานใดมาใส่จะไม่มีวันหาย มีเพียงลมหายใจที่รอวันตายอยู่เท่านั้น เช่นเดียวกับ...ไม้ที่ตายยืนต้นแม้จะลดน้ำพรวนดินให้ฟื้นผลิดอกออกใบก็ไม่มีทางเป็นไปได้ รออยู่พอถึงวันโค่นล้มลงจมดินของมันเท่านั้น...ฉะนั้นจึงได้เตือนเพื่อนเสมอมาว่า อย่าพากันนอนใจ ให้รีบเร่งทำความเพียรขณะที่ผมยังมีชีวิตอยู่...ติดขัดอะไรจะได้ช่วยแก้ไขให้ทัน.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)







"..ตัวของเรานี้แล อันได้กำเนิดเกิดมาเป็นมนุษย์
ซึ่งเป็นชาติสูงสุด เป็นผู้เลิศตั้งอยู่ในฐานะอัน
เลิศด้วยดี คือมีกายสมบัติ วจีสมบัติ แลมโน
สมบัติบริบูรณ์ จะสร้างสมเอาสมบัติภายนอก
คือ ทรัพย์สินเงินทองอย่างไรก็ได้ จะสร้างสม
เอาสมบัติภายในคือมรรคผลนิพพานธรรมวิเศษ
ก็ได้ พระพุทธองค์ทรงบัญญัติพระธรรมวินัย
ก็ทรงบัญญัติแก่มนุษย์เรานี้เอง มิได้ทรงบัญญัติ
แก่ ช้าง ม้า โค กระบือที่ไหนเลย

มนุษย์นี้เองจะเป็นผู้ปฏิบัติถึงซึ่งความบริสุทธิ์ได้
ฉะนั้นจึงไม่ควรน้อยเนื้อต่ำใจว่า ตนมีบุญวาสนา
น้อย เพราะมนุษย์ทำได้ เมื่อไม่มี ทำให้มีได้ เมื่อมีแล้วทำให้ยิ่งได้สมด้วยเทศนานัยอันมาในเวสสันดรชาดกว่า ทานํ เทติ สีลํ รกฺขติ ภาวนํ ภาเวตฺวา เอกจฺโจ สคฺคํ คจฺฉติ เอกจฺโจ โมกฺขํ คจฺฉติ นิสฺสํสยํ
เมื่อได้ทำกองการกุศล คือ ให้ทานรักษาศีลเจริญภาวนา ตามคำสอนของพระบรมศาสดาจารย์เจ้า
แล้ว บางพวกทำน้อยก็ต้องไปสู่สวรรค์
บางพวกทำมากและขยันจริงพร้อมทั้งวาสนาบารมี
แต่หนหลังประกอบกัน ก็สามารถเข้าสู่พระนิพพานโดยไม่ต้องสงสัยเลย พวกสัตว์ดิรัจฉานท่านมิได้กล่าวว่าเลิศ เพราะจะมาทำเหมือนพวกมนุษย์ไม่ได้
จึงสมกับคำว่ามนุษย์นี้ตั้งอยู่ในฐานะอันเลิศด้วยดี
สามารถนำตนเข้าสู่มรรคผล เข้าสู่พระนิพพานอันบริสุทธิ์ได้แล.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
(๒๔๑๓-๒๔๙๒)






"..พระพุทธเจ้าจึงยังมีอยู่ ยังเมตตากรุณาสัตว์ทั้งหลาย ยังช่วยมนุษย์สัตว์ทั้งหลายอยู่ ถ้ามนุษย์ผู้ใดมีความประพฤติปฏิบัติดี จงรักภักดี พระพุทธเจ้า ต่อพระธรรม ผู้นั้นก็จะมีคุณงามความดีอยู่ตลอดทุกวันฉะนั้น ถ้าเรามีปัญญา ก็จะเห็นได้ว่า เราไม่ได้อยู่ห่างพระพุทธเจ้าเลย เดี๋ยวนี้เราก็ยังนั่งอยู่ต่อหน้าพระพุทธเจ้าเราเข้าใจธรรมะเมื่อใด เราก็เห็นพระพุทธเจ้าเมื่อนั้น ผู้ใดที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมอยู่อย่างสม่ำเสมอแล้ว ไม่ว่าจะนั่ง ยืน เดิน อยู่ ณ ที่ใด ผู้นั้นย่อมได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา.."

#พระธรรมคำสอน
พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
(พ.ศ.๒๔๖๑-๒๕๓๕)







"..ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ต้องละและสิ่งที่ต้องบำเพ็ญนั้นไม่มี สิ่งที่โลกเขาสมมุติกันว่าเป็นของจริง มีราคา สำหรับพระอรหันต์แล้วมันเป็นของปลอมไม่มีค่าเลย ฉะนั้นการที่จะให้พระอรหันต์ไปสนใจเรื่องของโลก ก็เหมือนกับเอาตะกั่วไปขอแลกกับทองคำ เราคิดแต่ว่าเรามีตะกั่วแท่งใหญ่ ๆ ท่านมีทองคำก้อนนิดเดียว ทำไมหนอท่านจึงไม่อยากเปลี่ยน ทุกวันนี้คนเราจึงมองไม่เห็นพระอรหันต์กัน.."

จากหนังสือ : อุปลมณี หน้า ๕๔๕ พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
(พ.ศ.๒๔๖๑-๒๕๓๕)








ถาม – จะรู้ได้อย่างไรว่า ใครเคยเป็นอะไรมาแต่ชาติก่อน ๆ
.
ตอบ – อันนั้นมัน วิชชาจรณะสัมปันโน ต้องพร้อมด้วยวิชชาสาม มีปุพเพสันนิวาสานุสสติญาณ เหมือนครูอาจารย์มั่น ท่านศึกษาจนรู้ดีว่า ท่านปรารถนาพุทธภูมิมานี่ได้กี่ภพกี่ชาติกี่อสงไขย หรือพระพุทธเจ้าได้พยากรณ์ไว้แล้ว สาวเข้าสาวเข้าก็ถึงวันที่ตั้งความสัตย์ ปรารถนาพุทธภูมิ แต่ที่ ตาย ๆ เกิด ๆ นี่ก็หลาย ตายก็เพราะกาม เกิดก็เพราะกาม ทุกข์ก็เพราะกาม สุขก็เพราะกาม
.
ท่านมองดูชั้นฟ้าท้องฟ้าจนจดพุทธภูมิ พุทโธ่ เราจะมาตายมาเกิดอย่างไม่มีกำหนดอีกแล้ว จากนั้นท่านก็เร่งความเพียร จนตีสองก็ได้วิชชาสอง คือ จุตูปปาตญาณ รู้ว่าสัตว์ภพนี้ ดับที่นี้ ไปเกิดที่โน้น ภพโน้น ดับที่โน้น ดับที่นี่ไปเกิดที่โน่น ดับที่โน่นไปเกิดที่นั่น อันนี้ จุตูปปาตญาณ อาสวักขยญาณ วิชาชั้นสาม รุ้จักกิเลสของตนว่าสิ้นไปหมดไป กิเลสของกายวาจาสิ้นไปหมดไป กิเลสของใจเราสิ้นไปหมดไป เรามีกรรมเป็นอันขาด มีกรรมอันไม่งอกแล้ว จิตดวงหลังดับไปอยู่แล้ว อาศัยกำลังทั้งห้า คือกำลังศรัทธา กำลังความเพียร กำลังสติ กำลังสมาธิ กำลังปัญญา ให้รู้แจ้งชัชวาล เพื่อดับขันธปรินิพพาน เราไม่ยินดีจะก่อภพใหม่อีก ก็หมดเรื่องไป
.
ถาม – หลวงปู่มีอะไรเกี่ยวข้องกับใครบ้างไหม
.
ตอบ – นิมิตต่าง ๆ มันต้องศึกษา พอรู้เท่าแล้วก็วาง ๆ ๆ เข้าไปเล่นวนอยู่ก็เป็นธรรมเมาละ ประเทศชาตินี่ก็อาศัยคนมาก จะตั้งทางไหน ก็ตั้งอยู่กับความยุติธรรม จะตั้งทางไหน ก็หมั่นทำ ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ มันเกิดอะไรเบียดเบียนละก็น้อมเข้ามาหาใจ ให้มันสงบก็สบายเท่านั้นแหละ ให้รู้อยู่กับปัจจุบันนี้แหละ มันจึงเป็นพุทโธ ธัมโม สังโฆ ทำอยู่แค่นี้ก็พอแล้ว ความเกิดแก่เจ็บตายมันเป็นกงจักร กงจักรมันบดสัตว์ ความเกิดแก่เจ็บตาย มันเป็นของจริงเมื่อเรายังมีภพมีชาติอยู่ เวลาหยุดพักผ่อนก็ให้ทำความสงบทันที ปฏิบัติที่ใจนี้ คนมันมาก พูดกับคนนี้ก็เป็นอย่างหนึ่ง กับคนโน้นก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง มันไม่ลงรอยกันสักที อายุสังขารของเรามันก็เต็มที่แล้ว วันคืนเดือนปีมันก็สิ้นไปหมดไป เราจะทำอะไรอยู่ก็ตามก็ต้องหมั่นทีจิตของเราไปเรื่อย ๆ เวลาธาตุทั้งสี่ ขันธ์ทั้งห้า จะพรากจากกัน ดินก็ไปเป็นดินของเก่า น้ำก็ไปเป็นน้ำของเก่า ไปมันก็ไปเป็นไฟของเก่า ลมก็ไปเป็นลมของเก่า อากาศธาตุมันก็วางไว้อย่างเก่านั่นแหละ เหลือแต่ใจ ดินก็ไม่ใช่ใจ น้ำก็ไม่ใช่ใจ ไฟก็ไม่ใช่ใจ ลมก็ไม่ใช่ใจ แต่เราก็อาศัยสิ่งเหล่านี้แหละ นี่มันก็เป็นสมบัติของบิดามารดา นะ กับ โม นี่แหละสมบัติ ของดี จะไปตั้งศีลก็อาศัยสมบัติของบิดามารดา ปู่ ย่า ตา ยาย นี่แหละ เวลาจะทำบุญสุนทานก็อาศัยสมบัติของบิดามารดาเป็นที่ตั้ง จะเล่าเรียนวิชาของโลกมันก็เอาสมบัติของบิดามารดานี่แหละเป็นที่ตั้ง
.
#หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
คัดจากหนังสือ สุจิณฺโณรำลึก
ตอบกระทู้