Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

ศีลธรรมภายในใจ

จันทร์ 18 พ.ย. 2024 4:44 am

#ดวงเกินตำรา

ถาม : เรื่องของดวงชะตามีจริงไหมคะ?
ตอบ : ดวงชะตาก็คือ การส่งผลของบุญกรรมที่เราทำมา ส่งให้เป็นอย่างนั้น

เราทำความดี ผลดีก็ส่งให้เราเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย มีโชคลาภ แต่ถ้าเราทำชั่วมา ถึงเวลาก็ทำให้เราตกต่ำ เคราะห์ร้าย ต้องรับในเรื่องที่ไม่ดีต่าง ๆ ที่จะประดังกันเข้ามา

ช่วงของบุญ ของบาป จะสลับกันมาให้ผล ถ้าบุญขาดช่วงลง บาปก็เข้าแทรก ถ้าหากกำลังบาปอ่อนตัวลง กำลังบุญก็ไล่บาปพ้นไป ความดีก็จะสลับกลับคืนมาใหม่

บรรดาพราหมณ์ทั้งหลาย เขาเก็บสถิติต่อเนื่องกันมาเป็นพัน ๆ ปี เขาช่างสังเกตว่า คนที่เกิดวันนี้ เวลานี้ ที่ใกล้เคียงกัน ถึงเวลาจะมีผลดีผลร้ายเกิดขึ้นกับเขาเหล่านั้น ในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน ดีหรือไม่ดีคล้ายคลึงกัน คนที่เกิดใกล้เคียงกัน แสดงว่าทำบุญบาปมาใกล้เคียงกัน ก็เลยสามารถที่จะสรุปลงมาเป็นตำราได้ว่า ดวงชะตาของแต่ละคนเป็นอย่างไร แต่ว่ามีโอกาสผิดพลาดมาก ถูกต้องเต็มที่ได้ไม่เกิน ๘๐ เปอร์เซ็นต์

แล้วอีกอย่างหนึ่ง ตัวที่ผันแปรดวงชะตาได้ดีที่สุดก็คือ กำลังของความดีสูง ๆ อย่างเช่น ทาน ศีล ภาวนา ถ้าเรามีการให้ทานเป็นปกติ รักษาศีลเป็นปกติ เจริญภาวนาเป็นปกติ ผลของดวงชะตา หรือบุญกรรมในอดีต ส่วนใหญ่ที่เป็นผลบาปที่เราเรียกว่ากรรม ก็จะให้ผลได้ไม่เกิน ๒๕ เปอร์เซ็นต์

คนประเภทนี้ หมอดูจะทายผิดประจำ เขาเรียกว่า พวกนอกเหตุเหนือผล เกินตำรา

มีหมอดูอยู่ท่านหนึ่ง เป็นชาวพม่า เก่งมาก ตอนสมัยหลวงพ่ออุตตะมะ ท่านยังบวชเณรอยู่ ท่านให้หมอดูท่านนี้ทำนายดวงชะตา หมอดูทำนายดวงชะตาของหลวงพ่ออุตตะมะแล้วบอกว่า "ของท่านไม่สามารถที่จะทำนายได้" ถามว่า "ทำไม ?" ท่านบอกว่า "ดวงชะตาของท่านเกินตำรา ไม่มีบอกเอาไว้"

หมอดูจะไปทายอนาคตพระอรหันต์ ...(หัวเราะ)... ใช่ไหม ? ตำราบอกไม่ถึง เพราะว่าหลวงพ่ออุตตะมะตอนหลังท่านเป็นพระดีถึงที่สุดแล้ว ...ตอนนั้นท่านยังเป็นเณรอยู่ แต่ว่าภายหลังท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ จนกระทั่งกลายเป็นพระดีที่สุดไปแล้ว

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยบอกไว้ว่า หลวงพ่ออุตตะมะเป็นพระวิชชาสาม ในเมื่อเป็นพระดีขนาดนั้น ตำราว่าไม่ถึง เขาก็ยอมรับว่าตำราเขาไม่ถึง แต่เขาดูแม่นจริง ๆ

ท่านเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วน่าจะมีทิพจักขุญาณมาเสริมด้วย ถ้าลำพังยึดตำราอย่างเดียวคงรู้ได้ไม่ถึงขนาดนี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี อ.ทองผาภูมิ ต.ท่าขนุน






"..อย่าปล่อยให้ตัวมานะ เข้าไปยื้อแย่งครอบครองศีลธรรมภายในใจได้ จะกลายเป็นผู้มีเขี้ยวมีเขาแฝงขึ้นมาในศีลธรรมอันเป็นธรรมชาติเยือกเย็นมาดั้งเดิม การฝึกหัดทรมานตนให้เป็นเหมือนผ้าเช็ดเท้าจนเคยชิน โดยไม่ยอมให้ตัวทิฏฐิมานะโผล่ขึ้นมา ว่าตัวมีราคาค่างวดนี้ เป็นทางก้าวหน้าของธรรมภายในใจโดยสม่ำเสมอ จนกลายเป็นใจธรรมชาติ ไม่หวั่นไหวเหมือนแผ่นดิน ใครจะทำอะไร ๆ ก็ไม่สะเทือน จิตที่ปราศจากทิฏฐิมานะทุกประเภทโดยประการทั้งปวงแล้ว ย่อมเป็นจิตที่คงที่ต่อเหตุการณ์ดีชั่วทั้งมวล.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)







"..ความจริงของความจริงมีอยู่ทุกแห่งทุกหนและทุกเวลาอกาลิโก ขอแต่ปฏิบัติให้ถึงความจริงทำจริง ต้องรู้ตามความสามารถและภูมิวาสนาของตนแน่นอน ไม่ว่าธรรมภายในคือสัจธรรม และธรรมภายนอกคือความรู้แขนงต่าง ๆ ตามภูมินิสัยวาสนาของแต่ละรายที่สร้างมา และความปรารถนาที่ตั้งไว้ไม่เหมือนกัน แต่ผลส่วนใหญ่คือมรรคผลนิพพานนั้น เมื่อถึงแล้วเหมือนกัน.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)
ตอบกระทู้