"#การสวดมนต์ถ้าเราทำเป็นถึงพระนิพพานได้
อันดับแรกก็คือสมาธิขั้นต้นต้องได้แน่นอน ถ้าสมาธิไม่ทรงตัวเราจะสวดผิด
อันดับที่สองถ้าตั้งใจที่จะทรงฌาน ใช้คำสวดทั้งหมดเป็นคำภาวนา เท่ากับว่าเราภาวนาโดยใช้คาถาทั้งบท แต่เป็นคำภาวนาที่ยาวหน่อย จนกระทั่งสมาธิสามารถทรงตัวได้ตามที่ต้องการ
อันดับต่อไปถ้าจะทำทิพจักขุญาณ เวลาสวดมนต์ให้นึกถึงคำสวดมาเป็นคำ ๆ ถ้าเห็นตัวหนังสือได้ชัดเท่าไร เราก็จะเห็นผีเห็นเทวดาได้ชัดเท่านั้น
ท้ายสุดถ้ายกจิตขึ้นพระนิพพานได้ ให้ยกจิตขึ้นไปสวดถวายพระพุทธเจ้าข้างบนเลย ตายตอนนั้นก็อยู่บนพระนิพพานเลย
เพราะฉะนั้น..อย่าไปคิดว่าแค่สวดมนต์ สำคัญว่าเราทำได้แค่ไหน ถ้าเราทำเป็น ประยุกต์ใช้เป็น แค่สวดมนต์ไปพระนิพพานได้สบาย"
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๖
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
"..ศาสนาคือคำสั่งสอนของท่านผู้ฉลาด ท่านสอนคนเพื่อให้เกิดความฉลาดทุกแง่ทุกมุม ซึ่งพอจะพิจารณาตามท่านได้ แต่เราอย่าฟังเพื่อความโง่ อยู่ด้วยความโง่ กินดื่มทำพูดด้วยความโง่ คำว่าโง่ไม่ใช่ของดี คนโง่ก็ไม่ดี สัตว์โง่ก็ไม่ดี เด็กโง่ ผู้ใหญ่โง่ มิใช่ของดีทั้งนั้น เราโง่จะให้ใครเขาชมว่าดี จึงไม่ควรทำความสนิทติดจมอยู่กับความโง่โดยไม่ใช้ความพิจารณาไตร่ตรอง ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์โดยประการทั้งปวง จึงไม่ควรแก่สมณะซึ่งเป็นเพศที่ใคร่ครวญไตร่ตรอง.."
ภูริทตฺตธมฺโมวาท พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)
#จงมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง "..ผู้ใดมาถือพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะที่พึ่งแล้ว ผู้นั้นย่อมชนะได้ซึ่งความร้อน สรณะทั้ง ๓ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มิได้เสื่อมสูญอันตรธานไหน ยังปรากฏอยู่แก่ผู้ปฏิบัติ เข้าถึงอยู่เสมอ ผู้ใดมายึดถือเป็นที่พึ่งของตนแล้ว ผู้นั้นจะอยู่กลางป่า หรือเรือนว่างก็ตาม สรณะทั้ง ๓ จริงๆ แล้ว จะแคล้วคลาดจากภัยทั้งหลาย อันก่อให้เกิดความเดือดร้อนได้แน่นอนทีเดียว.."
ภูริทตฺตธมฺโมวาท พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)
ถาม: ท่านอาจารย์มีความเห็นเกี่ยวกับวิธีฝึกปฏิบัติ (วิธีภาวนา) วิธีอื่นๆ อย่างไรครับ ทุกวันนี้ดูเหมือนว่าจะมีอาจารย์มากมาย และมีแนวทางการทำวิปัสสนาหลายแบบจนทำให้สับสน
ตอบ : มันก็เหมือนกันกับการเข้าไปในเมือง บางคนอาจจะเข้าเมืองทางทิศเหนือ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ฯลฯ ทางถนนหลายสาย โดยมากแล้วแนวทางการภาวนาก็แตกต่างกันเพียงรูปแบบเท่านั้น ไม่ว่าท่านจะเดินทางสายหนึ่งสายใด เดินช้าเดินเร็ว ถ้าท่านมีสติอยู่เสมอ มันก็เหมือนกันทั้งนั้น ข้อสำคัญที่สุดก็คือ แนวทางภาวนาที่ดีและถูกต้องนำไปสู่การไม่ยึดมั่นถือมั่น ลงท้ายแล้วก็ต้องปล่อยวาง" แนวทางภาวนาทุกรูปแบบด้วย ผู้ปฏิบัติต้องไม่ยึดมั่นแม้ในตัวอาจารย์ แนวทางใดที่นำไปสู่การปล่อยวาง สู่การไม่ยึดมั่นถือมั่นก็เป็นทางปฏิบัติที่ถูกต้อง
ท่านอาจจะอยากเดินทางเพื่อศึกษากับอาจารย์ท่านอื่น และลองปฏิบัติตามแนวทางอื่นบ้างก็ได้ พวกท่านบางคนก็ทำเช่นนั้น นี่เป็นความต้องการตามธรรมชาติ ท่านจะรู้ว่า แม้ได้ถามปัญหานับพันคำถามก็แล้ว และมีความรู้เรื่องแนวทางปฏิบัติอื่นๆ ก็แล้ว ก็ไม่อาจจะนำท่านเข้าถึงสัจธรรมได้ ในที่สุดท่านก็จะรู้สึกเบื่อหน่าย ท่านจะรู้ว่าเพียงแต่หยุด และสำรวจตรวจสอบดูจิตของท่านเองเท่านั้น ท่านก็จะรู้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสสอนอะไร ไม่มีประโยชน์ที่จะแสวงหาออกไปนอกตัวเอง ผลที่สุดท่านต้องหันกลับมาเผชิญหน้ากับสภาวะที่แท้จริงของตัวท่านเองตรงนี้แหละที่ท่านจะเข้าใจธรรมะได้"
พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)
#วางใจเป็นกลางละวางความทุกข์
"..ความทุกข์ที่บังเกิดขึ้นที่จิต เพราะอาศัยความยินดียินร้าย เป็นตัวสมุทัยหนุนให้เกิดทุกข์ ทุกข์ตัวนี้ คือ ทุกข์อริยสัจที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เมื่อเรามีสติกำหนดอารมณ์จิตของเราอยู่ตลอดเวลา สุขทุกข์เกิดสลับกันไป เมื่อสติสัมปชัญญะตัวนี้เด่นขึ้น มีพลังแก่กล้าขึ้นเมื่อใด เราสามารถที่จะกำหนดรู้ รู้ธรรมะตามความเป็นจริงเมื่อจิตของท่านสามารถที่จะดำรงอยู่ในความเป็นปรกติ ไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์นั้น ๆ ความเป็นปกติจิตปรากฏเด่นชัดอยู่ตลอดเวลา ตัวปกติของจิตนั่นแหละคือนิโรธ เพราะฉะนั้น การกำหนดรู้อารมณ์จิตจึงเป็นสิ่งสำคัญ.."
#พระธรรมคำสอน พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา (พ.ศ.๒๔๖๔–๒๕๔๒)
#บุญใดจะวิเศษยิ่งกว่าทำบุญกับพ่อแม่ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย คัดจาก...ฐานิยปูชา ปี ๒๕๔๑
"..ถ้าหากเราเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่เราไม่ดี เราไปตักบาตรพระล้านครั้ง ไม่เท่าเรายื่นอาหารให้คุณพ่อคุณแม่เรารับประทานเพียงครั้งเดียว คนเราในเมื่อเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ไม่ดี ไปเที่ยวหาเลี้ยงคนอื่น มันจะมีประโยชน์อะไร บางทีเราทำกับข้าวส่งกลิ่นหอมฉุย ยายแก่ได้กลิ่น เดินมือไพล่หลัง หลังค่อมๆ "อูย...น่ารับประทานจังเลย แม่ขอชิมหน่อยได้ไหม" "ไม่ได้ๆ ฉันจะไปทำบุญ อย่ามายุ่ง ยายแก่นี่" ตกนรกตายเลย นี่คือสูตรแห่งการทำบุญ #มาตาปิตุอุปัฏฐานัง เลี้ยงดูบิดามารดาให้ดี เอตัมมังคลมุตตมัง เป็นมงคลอันสูงสุด แม้แต่พวกภูติผีปีศาจยักโขอะไร เวลามันทะเลาะกันมันเถียงกัน คำว่าท่านต้องเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ใช่ไหม มันจะต้องถามกันเสมอ
พระปิตุลากับลักษมัณเถียงกัน ทีนี้พระปิตุลาหาว่าลักษมัณเด็กน้อยจองหอง ถ้าไม่นึกสงสารจะฆ่ามันเสียเดี๋ยวนี้ ลักษมัณก็คว้าลูกศร เราเป็นวรรณะกษัตริย์ ไม่เคยปฏิเสธคำท้าใคร แต่ว่าเราเป็นวรรณะกษัตริย์ ๑. ไม่ฆ่าสมณพราหมณ์ ๒. ไม่ฆ่าผู้หญิง ๓. ไม่ฆ่าโค นี่เพราะประเพณีอันนี้มันบังคับเราอยู่ ไม่งั้นพระปิตุลาแหลกไปตรงนี้ แล้วท่านบำเพ็ญตบะเดชะ มีอิทธิฤทธิ์ ทำไมมีแต่ความโหดร้าย ทำไมไม่มีความดีสักหน่อยหนึ่ง ท่านไม่เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ของท่านหรืออย่างไร ลักษมัณต่อว่าคนแก่ เพราะฉะนั้น ทำบุญอันใดหนอจะไปวิเศษยิ่งกว่าทำบุญกับพ่อกับแม่.."
ที่มา...มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
"เดินจงกรมกลับไปกลับมาก็ให้นึกพุทโธ อย่าได้ทิ้งพุทโธ
ผู้ที่ได้สมาธิขณะเดินจงกรมนี้ สมาธิไม่เสื่อมง่าย ตั้งอยู่ได้นาน จิตมันรวมลงไปได้ง่าย ส่วนร่างกายก็เบา มิเจ็บแข้งมิเจ็บขา เลือดลมไปมาสะดวก จะมานั่งก็นั่งได้นาน เดินตอนกลางวันก็ไม่อืดอาดอาหารถูกธาตุไฟเผาจนหมด
หากจิตรวมแล้วก็จะเห็นได้ว่า มีเทวดามายืนถือพานดอกไม้บูชาอยู่หัวท้ายทางจงกรม บางพวกก็พนมมือไหว้สาธุ สาธุ อยู่" . --- คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ สำนักชีบ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
เกิดแก่เจ็บตาย เป็นของแท้แน่นอน โรงพยาบาลไหนๆก็รักษาความตายไม่หาย ยาราคาเป็นแสนเป็นล้านก็ไม่หาย มีโรงพยาบาลเดียวที่รักษาหายขาด คือโรงพยาบาลของพระพุทธเจ้า ไม่ต้องกลับมาเกิดมาตายอีก
โอวาทธรรม หลวงปู่ทองอินทร์ กตปุญโญ วัดประชาคมวนาราม อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
เรื่องการพิจารณาร่างกายนี้ ต้องพยายามให้มากนะ ไม่ใช่ว่าประเดี๋ยวประด๋าวครั้งเดียวสองครั้ง ไม่ใช่นะ พิจารณาแล้วพิจารณาอีก เป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง เพราะใจของเรามันหลงร่างกาย มันหลงมาไม่รู้กี่ร้อยกี่หมื่นกี่แสนเป็นอสงไขยชาติ เกิดมาชาติใดก็มาหลงร่างกาย ส่งเพราะฉะนั้นจะพิจารณาประเดี๋ยวประด๋าวให้รู้แจ้ง ยากนะ
อย่างพระพุทธเจ้าของเรานี้ ปัญญาธิกะ ท่านก็ว่าสี่อสงไขยกำไรแสนมหากัป พระสาวกก็สองอสงไขย พระอสีติมหาสาวกสองอสงไขย พระสาวกธรรมดาหนึ่งอสงไขย อสงไขยนี้เท่าไร นับไม่ถ้วน เกิดมากี่ภพกี่ชาติจนนับไม่ถ้วน เรียกว่าอสงไขยหนึ่ง เพราะฉะนั้น เราจะมาพิจารณาประเดี๋ยวประด๋าว มันไม่ได้นะ ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน ถ้วนถี่ ให้ละเอียดถี่ถ้วน เราต้องรู้ได้เห็นได้ เป็นไปได้ทั้งนั้น
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก จากพระธรรมเทศนา “หนทางปฏิบัติสู่การพ้นทุกข์” แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
หลวงพ่อสุชาติท่านพูดเหมือนหลวงพ่อจิตโตเลยว่า ถ้ายังไม่บรรลุธรรมอย่าเพิ่งไปสอนผู้อื่น
“ก่อนที่จะเผยแผ่ธรรมไปสู่ผู้อื่น ผู้เผยแผ่ควรต้องบรรลุธรรมให้ได้ก่อน ถ้ายังไม่บรรลุธรรมอย่าเพิ่งไปสอนผู้อื่นเพราะจะทำให้ผู้อื่นหลงทางได้ และผู้สอนเองก็หลงทางไปด้วย ซึ่งถ้ายังไม่บรรลุธรรมแล้วกลับไปเข้าใจว่าตัวเองบรรลุธรรม ความคิดว่าตนบรรลุธรรมนั้นกับการที่ได้บรรลุธรรมจริงๆ ย่อมไม่เหมือนกัน
ผู้สอนต้องมีความมั่นใจเสียก่อนว่าตนได้บรรลุธรรมจริงๆ ตนได้กำจัดกิเลสคือความอยากต่างๆ ที่มีอยู่ในใจได้หมดสิ้นไปอย่างแท้จริงแล้ว ไม่มีความอยากอะไรหลงเหลืออยู่ภายในใจเราอีกต่อไปแล้ว เป็นที่แน่ใจว่าตนสามารถที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้ สามารถสั่งสอนผู้อื่นได้ แต่ผู้ที่ไม่มีกิเลสความอยากหลงเหลือก็จะไม่มีความอยากที่จะสอนใคร เพราะคนที่ไม่มีความอยากหลงเหลือ อยู่เฉยๆ มันก็สบายกว่าที่จะต้องไปสอนผู้อื่น”
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ธรรมะบนเขา ณ จุลศาลา เขตปฏิบัติธรรมเขาชีโอน วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชลบุรี วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๑
“มีใครบ้างที่โกรธคนอื่น แล้วมีความสุข มีใครบ้างที่เกลียดคนอื่น แล้วไม่มีทุกข์ เกลียดเขา เราก็ทุกข์ โกรธเขา...เราก็ทุกข์ แล้วเราจะเกลียดจะโกรธไปให้เราเป็นทุกข์ทำไม คนที่เราเกลียดเราโกรธ เขาไม่ทุกข์ไปกับเราหรอก มีแต่เรานั่นแหละ ที่ทุกข์เองอยู่ฝ่ายเดียว”
โอวาทธรรมคำสอน หลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
อานิสงส์ทาน เกิดมาภพใดชาติใด คำว่าอดอยากจะไม่มีกับคนที่ทำบุญทำทาน อานิสงส์จะเกื้อกูลหนุน คน ๆ นั้น เกิดมาภพใดชาติใดก็ร่ำรวยโชคดี เพราะได้ทำทานไว้แต่ในอดีตชาติ
ถ้าคนรักษาศีล ศีลคุ้มครอง ไป ณ สถานที่ใด ปลอดภัยวิบัติต่าง ๆ เกิดจากคน เกิดจากสัตว์ เกิดจากสิ่งต่าง ๆ ที่จะมาเบียดเบียนรังแกเรา เพราะอานิสงส์ศีลคุ้มครอง
อานิสงส์ภาวนา จะทำให้เรามีสติมีปัญญา รอบรู้ในเรื่องต่าง ๆ เฉลียวฉลาด คนที่จะมาต้มตุ๋นหลอกลวงเราไม่ได้ เพราะเรารู้ทันเขา
อานิสงส์แต่ละอย่างมันแตกต่างกันนะ ให้พวกเราท่านทั้งหลาย ถึงจะไม่มีของทาน เราก็รักษาศีล เป็นบุญเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่เหมือนกัน แล้วก็ภาวนาด้วยเมื่อมีโอกาส นั่งหลับตากำหนดจิตกำหนดใจ ทำให้ใจให้นิ่ง ทำใจให้สงบ ให้เกิดความรู้ความฉลาด มีความรอบคอบขึ้นทางด้านจิตใจ ล้วนแล้วเป็นบุญเป็นกุศล
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก จากพระธรรมเทศนา “ทำไมบุญจึงทำแทนกันไม่ได้” แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗
|