นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 27 ธ.ค. 2024 9:48 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 29 พ.ย. 2024 5:37 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4783
#อันที่จริงแล้ว
"..กฎแห่งกรรม" ก็คือ กฎแห่งธรรมะประเภทหนึ่งนั่นเอง เพราะการที่กระทำสิ่งหนึ่งลงไป ย่อมเป็นปัจจัยให้สิ่งหนึ่งเกิดขึ้นตามมาเสมอ บุคคลจึงจำเป็นต้องระมัดระวังเหตุ ในทุกๆ การกระทำ ด้วยความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม เพื่อที่จะได้รับผลดีคือ ความไม่ทุกข์ หากท่านรักสุขเกลียดทุกข์ ก็จงอย่าประพฤติทุจริต ไม่ว่าด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ ซึ่งล้วนเป็นเหตุแห่งความทุกข์.."

พระคติธรรม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก







#นั่งภาวนานี้อย่าไปฆ่าร่างกาย
ต้องฆ่ากิเลส ถึงจะถูก

อย่านั่งเหมือนกบ นั่งเฝ้าคูบัว
ต้องใช้สติ ต้องใช้ปัญญา นำกิเลส

กิเลส ตัวสำคัญนะ กิเลส
ตัวน้อย ตัวใหญ่

กิเลส ก็คือ ความอยากนั่นแหละ กิเลส
อยากน้อย ก็ กิเลสน้อย
อยากมาก ก็ กิเลสมาก

คนที่อยากร่ำ อยากรวย
อยากเป็นนั่น อยากเป็นนี่
นั่นแหละ กิเลสใหญ่

ท่านให้วางเสีย วางกิเลส
ปล่อยวางไป ทีละเล็ก ทีละน้อย
มันก็หมดไป หมดไป หมดไป

ถ้าไม่ปล่อย ไม่วาง มันก็ไม่ได้
เพราะว่า คนเรามันทุกข์
ทุกข์ เพราะความอยาก นั่นแหละ
_____________

#หลวงปู่ปั่น สมาหิโต (อายุ ๙๙ ปี)







"..ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี ที่หาได้ยากยิ่ง.." แม้เพียงการตั้งใจนึกไว้ให้เสมออย่างน้อยวันละครั้งก็ยังดี ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งที่สำเร็จด้วยใจ นี้เป็นพระพุทธศาสนสุภาษิต ขอให้นึกถึงพระพุทธศาสนสุภาษิตนี้

ทำความเข้าใจให้ถูกต้องชัดเจนว่าใจของเราทุกคนเป็นใหญ่ มีอานุภาพยิ่งใหญ่ความรู้พระคุณท่านผู้ใดก็ตามก็เกิดที่ใจ ดังนั้นการตอบแทนพระคุณท่านก็ทำได้ด้วยใจ อะไรอื่นก็ไม่สำคัญไปกว่าใจ ใจรู้พระคุณท่านได้ ใจก็ตอบแทนพระคุณท่านได้

เพียงให้เป็นความรู้พระคุณท่านจริงใจเท่านั้น ความสำเร็จก็จะเกิดตามมาแน่นอน ดังพระพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า "..ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ.." ทั้งที่ดีชั่วไม่ได้เกิดแต่อะไรอื่นเป็นสำคัญ เกิดแต่ใจที่มุ่งดีหรือไม่มุ่งดีเท่านั้นเป็นสำคัญ.."

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร








#เมื่อไม่มีรูปร่างกายแล้วจะเอาอะไรไปใช้กรรม

เห็นไหมหลวงปู่นั้น หลวงปู่นี้ เดี๋ยวก็เจ็บโน่นเจ็บนี่เข้าโรงพยาบาล แท้ที่จริงจิตท่านหลุดแล้ว แต่ร่างกายมันเป็นของที่รองรับกรรมทั้งหลาย

อาตมาจึงไปถามหลวงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ อาตมาก็ศึกษา "หลวงปู่ เวลาหลวงปู่จะหนีเข้านิพพาน กรรมมันว่ากันยังไง ?" โอ้ยมันรุมกัน มากันไม่รู้ทางใต้ ทางเหนือ มาทุกรูปแบบ จะมารบกวน ก็จะหนีแล้วนี่ ใครก็อยากใช้ เหมือนญาติโยมเป็นหนี้เขาซัก ๑๐ คน พอขายที่บ้านในกรุงเทพฯได้หลายล้าน ให้เจ้าของนี่ มีแต่คนจะมาเอา รุมเลย

เค้าก็อยากมาเอาค่าหนี้ที่เราติดเค้า ก็เหมือนกับพระอริยเจ้าทั้งหลายที่ท่านจะเข้านิพพาน ก็เคยคิดนะบางที ว่า เออ..กรรมอะไรที่มันมีอยู่ มาใช้ให้หมดตอนนี้ซะดีกว่า ไข้เลยนะ ไม่ถึง ๓ วัน เอาเลย..มาจริงๆ นะ เลยไม่พูดเลยทุกวันนี้...

#หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป







เรื่องของคนอื่น ไม่ต้องไปยุ่ง ไม่ต้องไปช่วย... อย่าได้คิดว่าเราเป็นคนเก่งจากเรื่องแบบนี้...

ระวังใจตัวเองให้ดี เห็นเรื่องของคนอื่น ก็เห็นแล้ววางไว้ที่นั่น...

ถ้าคิดว่า 'เรา' ถูก 'เรา' หวังดี ก็จะ 'โกรธ' ที่เขาไม่ฟังเรา...

ถ้าคิดว่า 'เรา' ทำผิด 'ใจ' เราก็จะ 'ชอกช้ำ'

ปัญหาทุกอย่างไม่ได้อยู่ที่ใคร อยู่ที่ 'ใจ' เราที่เดียว ไปรับไว้ ไปปรุงแต่ง...

ฝึก 'หยุดคิด' ให้ได้นะ ทำให้ชิน ครั้งละวินาทีก็ยังดี

หยุดคิดไม่ได้ ก็ไม่หลุดไม่พ้นวัฏสงสารไปได้หรอก

#หลวงพ่อวิชา รติยุตโต

ศูนย์ปฏิบัติธรรมหลวงพ่อวิชา รติยุตโต อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์






#กายนี้เป็นก้อนทุกข์ก้อนธรรมทั้งหมด : หลวงปู่ขาว อนาลโย

ในเรื่องการนั่งสมาธิภาวนา หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ท่านแนะนำไว้ดังนี้

"...วิธีการนั่งก็ให้เอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย ทำกายให้ตรง ดำรงสติให้ตั้งมั่นเฉพาะหน้า ไม่ส่งจิตไปในอดีตอันผ่านมาแล้วให้หวนกลับมาในจิตอีก ไม่ส่งจิตไปในอนาคตอันยังมาไม่ถึง หรือสร้างวิมานสวยหรูของอนาคตขึ้นในจิตใจ ให้กำหนดในปัจจุบัน ว่าเรากำลังนั่งสมาธิ น้อมเอาคุณพระพุทธเจ้ามาไว้ที่ใจ น้อมเอาคุณพระสงฆเจ้าเข้ามาไว้ที่ใจ

ตั้งจิตไว้ที่จิต ตั้งใจไว้ที่ใจ โดยใช้ตัวสติเป็นตัวบังคับให้นิ่งอยู่กับคำบริกรรมว่า พุทโธ อารมณ์เดียว จนกว่าจิตจะลงรวมแล้วก็พักผ่อนอยู่ในความสงบอันนั้น เมื่อครั้งจิตถอนออกมา ให้ใช้ปัญญาค้นคว้าในกายนี้ลงสู่ ไตรลักษณ์ จนเห็นแจ้งประจักษ์ในไตรภพ ลงสู่ไตรลักษณ์อันเดียว

ผลงานค้นคว้า คือ จิตของเราจะรู้สึกสลดสังเวชเป็นเหตุให้เกิด นิพพิทาญาณ การเบื่อหน่ายในชาติ - ความเกิด ชรา - ความแก่ พยาธิ - ความเจ็บไข้ได้ป่วย มรณะ - ความตาย ความพลัดพรากจากของรักของเจริญใจทั้งหลาย เห็นโทษของ สมุทัย ใจ ตัณหา พาเราเกิดตายอยู่บ่อยๆ ความเกิดทั้งหลายเป็นทุกข์หลาย หาความสุขไม่มี

มีแต่ทุกข์เกิดแล้ว ตั้งอยู่ ดับไป ตกอยู่ในไตรลักษณ์ มีเกิดเป็นเบื้องต้น กลางก็เปลี่ยนแปลง ท้ายสุดก็นอนทับพื้นปฐพี ให้ปลวกมากินตา ให้หมากินไส้ ถ้าไม่ฝังเอาไว้ ฝูงแร้งฝูงกาก็เป็นลาภของมัน
อาหาระลาภะปัจจะโย สัตว์ทั้งหลายเป็นอยู่ด้วยอาหาร อาหารจึงเป็นปัจจัยสำคัญของสัตว์ พิจารณาดูว่า สรรพสัตว์ที่เกิดมาแล้วต้องหากินอยู่ ค่ำไม่ได้กิน คืนไม่ได้นอน ตากแดดตากฝนทนทุกข์ทรมาน อาหาระปริเยสิทุกขัง ทุกข์เพราะต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง อันเป็นปัจจัยสำคัญยิ่ง เพราะฉะนั้นทุกคยต้องระวังปากระวังท้อง

ถ้าจะพูดกันจริงๆ ละก็ บอกว่า ถ้าข้าวไม่ตกถึงท้องอย่ามายุ่งนะ ผัวเมียเกิดศึกหิวข้าวก็ตอนนี้ ลูกฆ่าแม่ก็เรื่องนี้ เรื่องปากมันหิว เรื่องท้องมันอยาก ถึงจะมีอาหารการกินดีแสนดีอย่างไรก็ตาม ก็ไม่พ้นเรื่องทุกข์ แต่ก็พากันหลงระเริงสำคัญว่า มันมีความสุข

ถ้ามาพูดความจริงของสภาวธรรมแล้ว กายนี้เป็นก้อนทุกข์ก้อนธรรมทั้งหมด ตั้งแต่หัวจรดเท้า หาช่องสุขในระหว่างกลางมิได้เลยแม้แต่น้อยนิด จึงเรียกว่า กองทุกข์ คือ ทุกข์ทั้ืงหลายมันมากองอยู่ในขันธ์ 5 จึงสามารถแยกทุกข์ออกเป็นกองๆ แล้วได้ถึง 5 กอง กองหนึ่งรวมอยู่ที่รูป กองสองอยู่ที่เวทนา กองสามอยู่ที่สัญญา กองที่สี่อยู่ที่สังขาร กองสุดท้ายกองห้าอยู่ที่วิญญาณ...ฯลฯ "

#คัดลอกจากหนังสือหลวงปู่ขาว อนาลโย โครงการหนังสือบูรพาจารย์


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO