"..อะไรที่มันไม่เที่ยง แล้วเราไม่รู้ทันมัน อยากจะให้มันเที่ยงมันก็เป็นทุกข์เท่านั้น เป็นทุกข์เพราะไม่ได้ตามปรารถนาไม่ได้ตามความอยาก ที่จะให้มันเป็นอยู่อย่างนั้น ซึ่งเป็นความอยากที่เกิดจากอำนาจจิตที่สกปรก สกปรกด้วยความไม่รู้จักอันนี้ มันก็เกิดกิเลสตัณหาตรงนี้แหละ พอมีความรู้สึกเกิดขึ้นมา เช่นว่า เราได้กระทบ รูปเสียงกลิ่น รส โผฏฐัพพะ ก็มีความชอบใจบ้าง ไม่ชอบใจบ้าง คือมีความยึดมั่นถือมั่น เต็มอยู่ในใจของเรา ดังนั้นพระพุทธเจ้าท่านจึงให้คลี่คลายออก เรื่องที่มันเกิดขึ้นมานี่ให้ยกเอาความไม่เที่ยงเป็นหลักวินิจฉัย อะไรที่มันเกิดขึ้นมาให้เห็นว่า ถึงเราจะชอบมันหรือไม่ชอบมัน อันนี้ไม่แน่นอนอันนี้ไม่เที่ยง ถ้าเราไปยึดมั่นมันมันก็พาให้เราเป็นทุกข์ ทำไมเป็นทุกข์ เพราะเราไม่มีอำนาจที่จะบังคับให้เป็นไปตามใจของเราได้ทุกอย่าง.."
#พระธรรมคำสอน พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี (พ.ศ.๒๔๖๑-๒๕๓๕)
#เราเกิดมามีศีลห้าพร้อม..!!
"... ตัวศีลห้าได้มาพร้อมตั้งแต่เราเกิดมา มีขาทั้งสอง แขน ทั้งสอง ศีรษะอันหนึ่ง นี่แหละตัวศีลห้า อย่าเอาห้าไปทำโทษห้า
... โทษห้านั้นคือปาณานั้นก็โทษ อทินนานั้น ก็โทษ กาเมนั้นก็โทษ มุสานั้นก็โทษ สุรานั้น ก็โทษ แน่ะเป็นโทษทั้งหมด ที่เรายุ่งทุกวันนี้ ก็เพราะห้าอย่างนี้
... กลัวคนมาฆ่า กลัวคนขโมย กลัวคนผิด ในกาม กลัวคนมุสาฉ้อโกงหลอกลวง กลัว คนมึนเมาสุราสาโท กัญชายาฝิ่น นี่เป็นโทษ
... ถ้าเราละเว้นอันนี้แล้ว ท่านว่า สีเลน สุคตึ ยนฺติ มีความสุข ก็เพราะศีล สีเสน โภคสมฺปทา มีโภคสมบัติ ก็เพราะศีล นี่แหละ ให้พากันพึงเข้าใจ ให้ละเว้นโทษทั้งหลายห้าอย่างนี้ ...” .......................................... จากหนังสืออนุสรณ์งานศพ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร __________________ #หลวงปู่ฝั้น_อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ( พ.ศ.๒๔๔๒ - ๒๕๒๐ )
"..พระพุทธศาสนาสอนอย่างไรบ้าง เราต้องขบให้แตก ก็เรื่องศีลห้า เท่านั้นแหละ การรบราฆ่าฟันจะมาจากประตูไหน เท่านั้นพอแล้ว ถ้าโลก ทั้งหลายเต็มไปด้วยศีลห้า ศีลห้าเป็นทรัพย์มากกว่าแผ่นดิน แผ่นฟ้า ผู้ใดมีศีลห้าบริสุทธิ์ ผู้นั้นจะขอทานเขากินก็ตาม ก็คล้ายกับว่ามีทรัพย์ เก็บไว้ครอบแผ่นดินแล้ว ทรัพย์ภายในเรียกว่า อริยทรัพย์ ผู้ใดจะมี เงินหมื่น เงินล้าน เงินเท่าไหร่ก็ตาม เมื่อศีลห้าไม่มี เมื่อหิริ ความละอาย ต่อบาปไม่มี โอตัปปะ ความกลัวบาปก็ไม่มี กิน คอรัปชั่น-รัปเชิ่นอะไรสารพัด คนนั้นแหละนายรับเหมานรก...(หัวเราะ)...นรกอยู่ที่ใจนายรับเหมานรก จะแสดงเป็นผู้วิเศษวิโสเพียงใดก็ตามเถิด การแสดงนั้นก็เป็นการโกหก พกลมตนอยู่ในตัว ทำใจตนให้เป็นหมัน ทำใจตนให้เป็นคนนอนใจเสีย อีกด้วย.."
#พระธรรมคำสอน หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพคีรี (ภูจ้อก้อ) ต.หนองสูง อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร (พ.ศ.๒๔๕๔–๒๕๓๙)
#ชีวิตหลังความตายไม่มีการต่อรองได้
"..หากบุญมากก็ไปสวรรค์ ในชั้นที่เหมาะกับแรงกุศลของตนเท่านั้น จะขอความเป็นทิพย์แห่งสวรรค์ที่มากหรือน้อยกว่านั้นไม่ได้
และหากแรงบาปมาก ก็ต้องไปนรกขุมต่างๆ ตามแรงกรรมของตน ซึ่งเต็มไปด้วยทุกข์กับร้อนเท่านั้น จะขอต่อรองพักยกความทุกข์ร้อนทรมาน เพียงช้างกระพือหู งูแลบลิ้น ไม่ได้เลย ต้องก้มหน้ารับกรรมไป
ต่อรองได้แต่ในชีวิตจริงในโลกมนุษย์ขณะนี้ เดี๋ยวนี้เท่านั้น ที่ทุกคนมีสิทธิ์จะเลือกทำดี หรือชั่ว บุญ หรือบาป
ฉะนั้น ขอทุกคนจะเร่งทาน เร่งศีล เร่งภาวนาของตนแต่บัดนี้เสีย จะได้ออกไปจากการซัดเหวี่ยงของสังสารวัฏนี้ได้.."
#พระธรรมคำสอน หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
"..จะตัดบาปตัดกรรม ไม่มีวิธีอื่น เราต้องทำจิตให้สงบ ถ้าจิตเราไม่สงบแล้ว มันก็ไปก่อกรรม ก่อภัย ก่อเวร พอจิตเราสงบแล้ว มันก็ไม่มีกรรม ความชั่วทั้งหลายไม่มี มีแต่ความสุข ความสบาย เราต้องการความสุข ความสบาย จะไปหากับทรัพย์สมบัติไม่มีหรอก มีแต่ที่ใจเราสงบ พอใจเราสงบแล้ว มันได้รับความสุข ความสบาย.."
#พระธรรมคำสอน หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ. สกลนคร (พ.ศ.๒๔๔๒-๒๕๒๐)
"..ธรรมะ หรือ ธัมโม ต้องเรียนเอามาจากธรรมชาติ เห็นความเกิด ความแปรปรวนของสังขารประกอบด้วยไตรลักษณ์ เป็นนักปฏิบัติกรรมฐานอย่าเชื่อหมอมากนัก ให้เชื่อธรรม เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรมจึงจะดี ธรรมะทั้งหมดชี้เข้าที่กายกับจิต เพราะกายกับจิตนั่นแหละเป็นคัมภีร์เดิม เป็นคัมภีร์ธรรมที่แท้จริง ภูเขา ทะเล สายน้ำ แผ่นดิน แผ่นฟ้า เห็นไปดูไปก็ไม่มีความหมาย ให้เห็นแต่ชาติทุกข์ ชราทุกข์ พยาธิทุกข์ มรณทุกข์ เท่านั้นแล.."
ภูริทตฺตธมฺโมวาท พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒) อ้างอิงหนังสือ :ท่านพ่อลี ธมฺมธโร พระอริยเจ้าผู้มีพลังจิตแก่กล้า
|