…ใจผ่านหรือไม่ผ่านก็ต้องดูที่อริยสัจ ๔ ถ้ายังทุกข์อยู่ก็แสดงว่ายังไม่ผ่าน ถ้าไม่ทุกข์แล้วก็แสดงว่าผ่าน
.เช่นตอนนี้ไม่ทุกข์แล้วกับความแก่ กับความเจ็บ กับความตาย นั้นแสดงว่าผ่าน ตอนนี้ไม่ทุกข์แล้วกับเรื่องกามารมณ์ เรื่องกามราคะ ก็แสดงว่าผ่าน
.ตอนนี้ไม่ทุกข์ไม่ติดในรูปฌานแล้ว ไม่ติดในอรูปฌานแล้ว ไม่ถือตัวแล้ว ไม่หลงกับอวิชชาแล้ว ก็จะรู้เองว่า ไม่มีอะไรจะให้ทำอีกแล้ว
.เพราะไม่มีความทุกข์ หลงเหลืออยู่ภายในใจแล้ว ทุกข์ได้ดับไปหมดแล้ว นิโรธเต็มที่แล้ว
.นิโรธก็มี ๔ ขั้น ขั้นโสดาบัน ขั้นสกิทาคามี ขั้นอนาคามี และขั้นอรหันต์ พอได้นิโรธขั้นอรหันต์แล้ว ก็ถึงพระนิพพาน
.มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ นี่ เป็นธรรมที่มีอยู่ในคำสอนของ พระพุทธศาสนาเท่านั้น เป็นธรรมที่ จะยุติการเวียนว่ายตายเกิดได้. ………………………………………… . พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๒๙ กัณฑ์ที่ ๔๓๘ วันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๕
"...ของเกิดขึ้นทั้งหมด เกิดแล้วไม่ดับไม่มี สังขารเป็นส่วนรูป ส่วนนาม...เกิดแล้ว จะ ต้องสลายตัว เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นข้าศึก ไม่ได้เกิดมาให้เรายึดถือ ไม่ได้เกิดมาเพื่อ.. แผดเผาจิตใจของเราของสัตว์โลก
... มีแต่ความไม่เข้าใจชัดในสิ่งที่เกิดมาเพื่อ ดับเท่านั้น แล้วไปยึดถือเอาไว้ ไปหวงแหน เอาไว้ เอามาแผดเผาเจ้าของเอง หน้าที่การงานของเรามีเท่านี้ คือให้มุ่งศึกษา.. ผลของการศึกษา "เรา" นี้ล่ะ จะเป็น ผู้รู้ ที่เห็น เป็น ผู้ที่มีวิชาความรู้ เรา.. จะเป็นผู้สำเร็จมรรค สำเร็จผล ...” "" "" "" "" "" "" "" "" "" "" "" "" "" "" "" "" "" "" "" "" "" #โอวาทธรรม_พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร #หลวงปู่แบน_ธนากโร วัดดอยธรรมเจดีย์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร (พ.ศ. ๒๔๗๑ - ๒๕๖๓)
"..พวกเราทั้งหลายจึงเป็นผู้ที่มีโชคมีบุญมากเพราะเมื่อมองไปที่สัตว์ทั้งหลายแล้ว จะเห็นว่าสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น เช่น วัว ควาย หมู หมา เป็นต้น เป็นสัตว์ที่อาภัพมาก เพราะไม่มีโอกาสที่จะเรียนธรรม ไม่มีโอกาสที่จะปฏิบัติธรรม ไม่มีโอกาสที่จะรู้ธรรม ฉะนั้นก็หมดโอกาสที่จะพ้นทุกข์ จึงเรียกว่าเป็นสัตว์ที่อาภัพ เป็นสัตว์ที่ต้องเสวยกรรมอยู่ ด้วยเหตุนี้ มนุษย์ทั้งหลายจึงไม่ควรทำตัวให้เป็นมนุษย์ที่อาภัพ คือไม่มีข้อประพฤติ ไม่มีข้อปฏิบัติ อย่าให้เป็นคนอาภัพ คือ คนหมดหวังจากมรรค ผลนิพพาน หมดหวังจากคุณงามความดี อย่าไปคิดว่าเราหมดหวังเสียแล้ว ถ้าคิดอย่างนั้น จะเป็นคนอาภัพเหมือนสัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย คือไม่อยู่ในข่ายของพระพุทธเจ้า ฉะนั้น เมื่อมนุษย์เป็นผู้มีบุญวาสนาบารมีเช่นนี้แล้ว จึงควรที่จะปรับปรุงความรู้ ความเข้าใจ ความเห็นของตนให้อยู่ในธรรม จะได้รู้ธรรม เห็นธรรม ในชาติกำเนิดที่เป็นมนุษย์นี้ ให้สมกับที่เกิดมาเป็นสัตว์ที่ควรตรัสรู้ธรรมได้..''
#พระธรรมคำสอน พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
"..คนเราถ้ายอมรับความจริงตามหลักศาสนาที่สอนไว้ ตัวย่อมได้รับความเป็นธรรม คือตัวเย็น ผู้เกี่ยวข้องมากน้อยก็เย็น โลกร่มเย็นไม่ค่อยมีการทะเลาะเบาะแว้งแย่งชิง เพื่อแข่งดิบแข่งดีกันให้เดือดร้อนไปทั้งสองฝ่าย ซึ่งสุดท้ายก็เป็นไฟไปตาม ๆ กัน ไม่มีใครได้ครองความสุขดังใจหวัง เพราะเอาใจดวงกำลังเป็นไฟทั้งกอง เข้าไปเป็นหัวหน้าว่าความในกิจการในโรงในศาล ในเรื่องต่าง ๆ ไม่มีประมาณ ด้วยเหตุนี้แลคนเราจึงหาประมาณความทรงตัวได้ยาก อยู่ที่ไหนก็ร้อนเป็นฟืนเป็นไฟไม่เป็นสุข เพราะใจแบกกองไฟไว้กับตัวตลอดเวลา ไม่คิดจะปลงวางลงบ้าง พอได้หายใจไกลทุกข์ประสบสุขเสียบ้าง.."
ภูริทตฺตธมฺโมวาท พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)
|