นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 14 มี.ค. 2025 1:29 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: อุบายปัญญา
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 27 ธ.ค. 2024 8:12 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4859
...ไม่เชื่อลองทำดูซิ
ของที่พระพุทธเจ้าทรงสอนนี่
พิสูจน์ได้ ไม่ใช่เป็นของโกหก
ไม่ใช่เป็นของที่มีแต่พูดมีแต่บอก
แต่พิสูจน์ไม่ได้

.คำสอนของพระพุทธเจ้านี่..พิสูจน์ได้
ความสุขที่เกิดจากความสงบนี้
พวกเราพิสูจน์ได้ สร้างกันขึ้นมาได้
ไม่ยากเย็นเลย นั่งเฉยๆ “ไม่ให้ไปคิดอะไร”
เท่านั้นเอง

.นั่งหลับตา ดูลมเข้าออกไปก็ได้
บริกรรม “พุทโธ พุทโธ พุทโธ” ไปก็ได้
อย่าไปคิดถึงลาภยศสรรเสริญ
อย่าไปคิดถึงรูปเสียงกลิ่นรสต่างๆ
เท่านั้นเอง.

..........................................
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๑
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี






"..ภาวนา พุทโธ คือความรู้แจ้ง รู้เบิกบานตลอด รู้ถึงที่สุด รู้เหนือกว่าจิตของเราอีก รู้เรื่องของจิตทุกอย่าง ฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงให้อบรม คือการภาวนา เอาพุทโธนั้นไปบริกรรมให้มันรู้จิต ให้มันรู้เหนือกว่าจิต ให้เห็นแต่จิตนี้ จะคิดดีก็ตามคิดชั่วก็ตาม จนกว่าผู้รู้นั้นว่าจิตนี้สักแต่ว่าจิตเท่านั้น ไม่ใช่บุคคลตัวตนเราเขา.."

"..ตื่นอยู่ทุกกาลเวลา คือ พุทโธ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ผู้แจ้ง ผู้สว่าง ตัวนี้ไม่ได้นอน มันเป็นของมันอยู่.."

หลวงปู่ชา สุภทฺโท
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
จากหนังสือ กตัญญุตา ๑๐๐ ปี พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท) หน้า ๒๒๔ - ๒๒๙






“... สงสารมนุษย์ที่มัวเพลิดเพลินกับเงา
ไม่เข้าเรื่องราวกับเด็กอมมือ ตายแล้วก็จะล่มจมกันที่น่าเสียดายและสงสารมาก แต่
ช่วยอะไรไม่ได้ พากันทำตัวเหมือนสัตว์ที่
เขาขังไว้ต้มแกงเป็นอาหาร ยังมัวเพลินกันอยู่ ดูซิ สัตว์ที่เขากำลังจูงไปฆ่ามันรู้ตัวเมื่อไร ยังเพลินกัดหญ้าไปตามทาง ถ้ามันรู้จะไม่เพลินกัดหญ้าเป็นอันขาด นอกจากมันจะไล่ขวิดไล่ชนคนที่จูงมันพุงทะลุไปในเวลานั้นเท่านั้น

... คนที่เชื่อธรรมที่ให้ความปลอดภัยไร้ทุกข์แก่สัตว์โลก ก็เป็นคนประเภทสัตว์ที่รู้ตัวว่าเขากำลังจูงไปฆ่านั่นเอง จะไม่ประมาทนอนใจ รีดไถกอบโกยกันแบบสัตว์กัดกินหญ้าตามทางในเวลาที่เขาจูงไปฆ่า จะงดสิ่งเลวร้ายมหาภัยแก่ตนและผู้อื่นทันทีไม่ชักช้า ก้มหน้าทำแต่ความดีงามสุจริตยุติธรรมต่อกันถ่ายเดียว โลกก็สงบร่มเย็นเพราะต่างเห็นใจกัน ...”
---------------------------
#โอวาทธรรมโดย
#หลวงปู่ขาว_อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู (พ.ศ. ๒๔๓๑ - ๒๕๒๖)






การปฏิบัติคือการฝืนใจตัวเอง
(กิเลสมันเร่าร้อน แต่เรานึกว่าเราเร่าร้อน)

พระพุทธเจ้าว่ากิเลสเร่าร้อน เราทั้งหลายเป็นอย่างนี้มันจึงยาก เราไม่พิจารณาโดยมากมักเป็นไปตาม "กามสุขัลลิกานุโยค อัตตกิลมถานุโยค" มันติดอยู่นี่อยากทำตามใจของเรา อันไหนชอบก็ทํา อยากทําตามใจให้นั่งสบายนอนสบาย จะทําอะไรก็อยากสบาย นี่กามสุขัลลิกานุโยค ติดสุขมันจะไปได้อย่างไร

ถ้าหากเอากามความสบายไม่ได้แล้ว ความสุขไม่ได้แล้ว ก็ไม่พอใจโกรธขึ้นมา ก็เป็นทุกข์เป็นโทสธรรม นี่เป็นอัตตกิลมถานุโยค ซึ่งไม่ใช่หนทางของผู้สงบ ไม่ใช่หนทางของผู้ระงับ

กามสุขัลลิกานุโยค อัตตกิลมถานุโยค ทางสองเส้นนี้พระพุทธเจ้าไม่ให้เดิน ความสุขพระองค์ให้รับทราบไว้ ความโกรธความเกลียด ความไม่พอใจก็ไม่ใช่ทางที่พระพุทธเจ้าเดิน ไม่ใช่ทางของสมณะ เป็นทางที่ชาวบ้านเดินอยู่ พระผู้สงบแล้วไม่เดินอย่างนั้น เดินไปตรงกลางสัมมาปฏิปทา นี่กามสุขัลลิกานุโยคอยู่ทางซ้าย อัตตกิลมถานุโยคอยู่ทางขวา

พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)







ผู้มีความสุจริต คิดสุจริต พูดสุจริต ทำสุจริต แม้จะเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ชั่วเวลาใดเวลาหนึ่ง แล้วลองพิจารณาใจตนเองตลอดเวลานั้น จะพบความผ่องใสไม่เศร้าหมอง เพราะไม่ต้องรับรู้ความจริงว่าตนกำลังคิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี อันเป็นบาป

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร








"..ผู้ปฏิบัติพึงใช้อุบายปัญญาฟังธรรมเทศนาทุกเมื่อ ถึงจะอยู่คนเดียวก็ตาม คืออาศัยการกำหนดพิจารณาธรรม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็เป็นรูปธรรมที่มีปรากฏอยู่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ก็มีอยู่ ได้ยินอยู่ สัมผัสอยู่ ปรากฏอยู่ จิตใจเล่าก็มีอยู่ ความนึกคิด รู้สึกในอารมณ์ต่างๆ ทั้งดี และร้ายก็มีอยู่ ความเสื่อม ความเจริญ ทั้งภายนอก ภายใน ก็มีอยู่ ธรรมชาติอันมีอยู่โดยธรรมดา เขาแสดงความจริงคือ ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ให้ปรากฏอยู่ทุกเมื่อ เช่น ใบไม้มันเหลืองหล่นร่วงลงมา พินิจพิจารณาด้วยสติปัญญา โดยอุบายมีอยู่เสมอแล้ว ชื่อว่า ได้ฟังธรรมทุกเมื่อแล.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO