"..หาแต่พรปีใหม่ ไม่ทราบปีใหม่อยู่ที่ไหน ใครก็หาพรปีใหม่ๆ ลมๆ แล้งๆ ไม่ได้หลักได้เกณฑ์ จึงสอนว่าพรปีใหม่ปีเก่าอยู่กับตัวของเราเอง จะรับดีรับชั่วจากการกระทำดีกระทำชั่วของตัวเอง...พรปีใหม่อย่างในกรุงเทพ ซัดกันที่สนามหลวงแหลกหมด มีแต่สะแตกเหล้าทั้งนั้น นี่พรปีใหม่ของเขาเขาฟาดเหล้าลงไป... มีแต่ความชั่วความลืมเนื้อลืมตัว นี่ก็มาเป็นคติสอนพวกเรา ปีใหม่เช่นนั้นเป็นปีจม จมทั้งคนนั่นละ
ทำความดีงามซิ ยกตัวอย่างอย่างที่ว่า พระท่านตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพื่ออรรถเพื่อธรรม เพื่อมรรคผลนิพพานจริงๆ ท่านจ่ออยู่ในตัวของท่าน ความเคลื่อนไหวไปมาผิดถูกชั่วดีท่านจะรับผิดชอบตลอดเวลา หลับตื่นตลอดอยู่อย่างนั้น ท่านก็เป็นมงคลแก่ตัวเอง สุดท้ายท่านก็ทรงมรรคผลนิพพานได้เต็มหัวใจ นี่คือผู้รักษาความดี คือรักษาตัวของเราเอง.."
#พระธรรมคำสอน พระวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน) วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี (พ.ศ.๒๔๕๖-๒๕๕๔)
"..ถ้าหาความสุขจากความมัวเมา ท่านกำลังจะจับเงาในกระจก ถ้าอยากเป็นคนมีเกียรติ อย่าเหยียดหยามคนอื่น ถ้าอยากมีความรู้ อย่าลบหลู่อาจารย์ ถ้าอยากหาความสำราญ อย่าผลาญสมบัติ ถ้าอยากเป็นคนมีอำนาจ อย่าขาดความยุติธรรม ถ้าอยากเป็นคนดัง อย่าหวังความสงบ ถ้าอยากเป็นคนงาม อย่าวู่วามโกรธง่าย.."
#กระแสใจกระแสธรรม ๗ ธ.ค. ๒๓ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู (พ.ศ.๒๔๓๑-๒๕๒๖)
"..ปัจจุบันทุกวันนี้ ก็เหมือนกัน รูปที่เป็นอยู่ เป็นของสกปรกทั้งนั้น ไม่ว่ารูปหญิง รูปชาย รูปพระ รูปฆราวาส เป็นเหมือนกันหมด เหตุใดมันจึงเป็นอย่างนั้น ของที่เราขบฉันรับประทานลงไปเป็นของเน่า ของเหม็น ของเสียทั้งนั้น ไม่ใช่ของดิบของดีอะไร เป็นต้มเป็นแกง เป็นผัดเป็นทอดต่างๆ ถ้าเราทิ้งเอาไว้ ของเหล่านั้นจะเน่า จะเหม็น จะเสีย อยู่ไปคืนสองคืนมีกลิ่นแล้ว นี่ร่างกายของเราที่เอาของเน่าของเหม็นมาบำรุงบำเรอ มันก็เป็นก้อนของเน่า ของเหม็นปฏิกูล ไม่ใช่ของสวยงามอะไร เพราะเหตุนั้น ในร่างกายของเราทั่วไป ไหลออกทางทวารใดก็มีแต่ของสกปรกเน่าเหม็น ไม่เป็นของดิบของดี ของหอมหวาน มีแต่ของเน่า เพียงแต่ลมออกมาเท่านั้น มันก็ยังมีกลิ่น แสดงว่ามันเน่าทั้งตัว มันเหม็นทั้งตัว ไม่มีอะไรที่จะดีวิเศษ.."
ธมฺมวโรวาท พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร วัดป่าแก้วชุมพล ต.บ้านชุม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
วิธีใดที่จะมีสติรู้จิตใจ ให้ตรงเข้าไป ตรงเข้าไป อย่าเพิ่งไป เอาผิดเอาถูก ถูกก่อนถูก ผิดก่อนผิด เป็นก่อนเป็น เห็นก่อนเห็น ไม่ใช่ มันจะผิดต่อเมื่อมันผิด มันจะถูกต่อเมื่อมันถูก มันจะเป็นต่อเมื่อมันเป็น มันจะเห็นต่อเมื่อมันเห็น ให้มีสติซื่อๆ อย่าเพิ่งไปเอาเหตุเอาผล อย่าเพิ่งไปคิด ต่อไปมันไม่ต้องคิดดอก เมื่อมีสติเห็นกาย มีสติเห็นจิตใจอยู่นาน ๆ มันจะเห็นเอง เขาไม่เรียกว่าคิดดอก เขาเรียกว่าธรรมวิจย เรียกว่า โยนิโสมนสิกการ.
#พระธรรมคำสอน หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ วัดป่าสุคะโต ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ
"..อยากได้ของดีที่มีอยู่กับตัวเราทุกคนก็พากันปฏิบัติเอาทำเอา เมื่อเวลาตายแล้วจึงพากันวุ่นวาย หานิมนต์พระมาให้บุญกุสลามาติกา นั่นไม่ใช่เกาถูกที่คันนะ จะว่าไม่บอก ต้องรีบเกาให้ถูกที่คันเสียแต่บัดนี้ โรคคันจะได้หาย คือเร่งทำความดีเสียแต่บัดนี้ จะได้หายห่วงหายหวงกับอะไร ๆ ที่เป็นสมบัติของโลก มิใช่สมบัติอันแท้จริงของเรา แต่พากันจับจองเอาแต่ชื่อของมันเปล่า ๆ ตัวจริงไม่มีใครเหลียวแล.."
ภูริทตฺโตธมฺโมวาท พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)
"..ปีใหม่กำลังมาถึงแล้ว พึงทำชีวิตให้งดงามยิ่งขึ้น อะไรไม่ดีงามที่เคยมีอยู่ในจิตใจในชีวิตปล่อยให้พ้นไปเสียพร้อมกับปีเก่าเถิด ความดีงามใหม่ๆ มีเต็มไปทั้งโลก โอบอุ้มเข้าไว้ให้เต็มสติปัญญาความสามารถเถิด ฝึกตนเองให้เต็มกำลังที่จะได้มีที่พึ่งที่สำคัญยิ่ง
มีพระพุทโธเป็นที่พึ่งนั้นหนึ่งล่ะ ขณะเดียวกันต้องไม่ลืม ว่าพระพุทโธสูงส่งบริสุทธิ์สะอาดหาที่เปรียบมิได้ ต้องเตรียมใจของเราให้เป็นที่สมควรเป็นที่อัญเชิญพระพุทโธเข้าประดิษฐาน คิดดีพูดดีทำดีไว้ คือ การจัดเตรียมหัวใจให้เป็นแท่นบูชาพระพุทโธอย่างสูงส่งเหมาะสม
พระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ พรั่งพร้อมอยู่ในพระพุทโธแล้ว จะปกปักรักษาชีวิตให้ร่มเย็นเป็นสุข ให้สว่างแม้ในท่ามกลางความมืดของโลก ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก." พระนิพนธ์ 'แสงส่องใจ' สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
"..นึกพุทโธๆ แล้วใจรู้สึกยังไงชอบกล เหมือนกับเอาพริกใส่เข้าไปในปากเด็ก เด็กร้องทันที ใจนี้เป็นอย่างนั้นนะ ใจแสลงใจไม่อยากรับ จึงเป็นวิธีที่ละเอียดมากเกี่ยวกับเรื่องปกครองจิตใจหรือรักษาใจให้มีคุณธรรม ให้มีความดีเป็นความชุ่มชื่นอบอุ่นภายในใจ
เพราะฉะนั้น ผู้หวังสารคุณแก่ตน แม้จะลำบากยากเย็นก็ควรฝึกอบรมใจเราให้คุ้นกับธรรม มี พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ เป็นต้น ให้ใจได้รับความสงบเย็น ถึงคราวจำเป็นจำใจมาคว้าปั๊บติดมือปั๊บทันที สุคโตเป็นที่หวังได้ ไม่เสียความหวังอันพึงใจ จิตเมื่อฝึกอบรมให้อยู่ในขอบเขตเหตุผลแล้วย่อมไม่ดื้อดึง ไม่ฝ่าฝืนเหตุผลที่ตนเห็นว่าถูกต้องชอบธรรมแล้ว จนใจยอมจำนนทุกอย่าง จะทำอะไร จะพูดอะไร ใจยอมเหตุผลที่ควรหรือไม่ควร ชื่อว่าเราปกครองตนได้เป็นขั้นๆ
ถ้ายิ่งปกครองได้อย่างพระพุทธเจ้าและสาวกท่านด้วยแล้วก็ยิ่งดีเยี่ยม ปกครองใจจนกลายเป็นใจที่บริสุทธิ์ ทั้งๆ ที่แต่ก่อนเคยมีกิเลสตัณหาอาสวะฝังจมอยู่อย่างเต็มหัวใจ และก่อกวนวุ่นวายให้ได้รับความทุกข์ร้อนอยู่เรื่อยมา เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นตัวยุแหย่ก่อกวน แต่ชำระซักฟอกได้สะอาดหมดจด ด้วยอำนาจแห่งความเพียรพยายาม กลายเป็นใจที่บริสุทธิ์ขึ้นมา เรียกว่าวิมุตติพุทโธที่แท้จริง.."
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน) วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) จ.อุดรธานี (พ.ศ.๒๔๕๖-๒๕๕๔)
|