นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 15 มี.ค. 2025 9:37 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: สมมุติบัญญัติ
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 02 ม.ค. 2025 5:22 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4859
#หลวงปู่เทสก์เมตตามาสอน

ออกพรรษาที่ 2 แล้ว พระอาจารย์เปลี่ยนได้ย้ายจากวัดราษฎร์โยธี ไปอยู่วัดเขาควนดิน อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา …

ได้พบกับพระอาจารย์เนตร ซึ่งเป็นพระปฏิบัติเหมือนกัน ได้ปฏิบัติธรรมร่วมกันพักหนึ่งแล้วท่านก็ธุดงค์ต่อไปยัง จ.กระบี่

ต่อมาพระอาจารย์สุวัจน์ สุวโจ ซึ่งใฝ่ใจการปฏิบัติเช่นเดียวกัน ได้มาอยู่ปฏิบัติด้วยประมาณเดือนครึ่ง…

พระอาจารย์เปลี่ยนได้ขอร้องให้พระอาจารย์สุวัจน์ สุวโจ เทศน์ให้ฟัง ต้องคะยั้นคะยออยู่นาน…

พระอาจารย์สุวัจน์ได้เทศน์เรื่องอนัตตา เรื่องตัดธาตุ ตัดขันธ์ภายใน ซึ่งเทศน์ได้ดีมาก…

พระอาจารย์สุวัจน์ได้ธุดงค์ต่อไปที่วัดบางเหนียว จ.ภูเก็ต

พระอาจารย์เปลี่ยนอยู่ที่วัดเขาควนดินได้ระยะหนึ่ง…

ท่านต้องต่อสู้กับกิเลสภายในตัวเอง ต้องฝึกจิตให้มีความเข้มเข็ง เด็ดเดี่ยวมากขึ้นแล้ว ยังต้องต่อสู้กับสตรีเพศที่จะเข้ามาทำลายท่านด้วย

จึงกลับไปปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่เทสก์ ที่ จ.ภูเก็ต อีกประมาณ 2 เดือน แล้วย้ายกลับไปปฏิบัติธรรมที่วัดเขาควนดิน อ.ท้ายเหมือง อีก

หลวงปู่เทสก์มีความเป็นห่วงจึงเดินทางมาสอนท่านที่นี่ด้วย …

พระอาจารย์เปลี่ยนจึงมีโอกาสปรนนิบัติหลวงปู่เทสก์อย่างใกล้ชิด

หลวงปู่เทสก์ก็สอนและเทศน์ให้ฟังจนแน่ใจแล้ว…

หลวงปู่เทสก์จึงเดินทางกลับไปที่วัดเจริญสมณกิจ จ.ภูเก็ต

ระหว่างอยู่ที่ อ.ท้ายเมือง ท่านได้ทราบว่ามารดาป่วยจึงได้กราบเรียนหลวงปู่เทสก์

ซึ่งได้บอกให้ท่านกลับไปดูแลมารดา แต่พระอาจารย์เปลี่ยนยังไม่ยอมกลับ เพราะว่ายังปฏิบัติธรรมไม่พอกับความต้องการของใจท่าน… …

จึงอยู่กับหลวงปู่เทสก์อีกเกือบหนึ่งเดือน …

พระอาจารย์เปลี่ยนได้ถามหลวงปู่เทสก์

เรื่องการนั่งสมาธิของท่านแล้วจิตดิ่งลึกลงไปอยู่สามชั่วโมงครึ่ง

โดยที่ท่านไม่รู้ว่าจิตอยู่ที่ไหน เพราะว่าจิตดับหมด ไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งสิ้น

จิตเป็นสมาธิมากกว่าเมื่อจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาควนดิน จ.พังงา ที่วัดนั้นท่านยังได้ยินเสียงแต่ก็มีปิติมากจนไม่อยากจะฉันอาหาร

หลวงปู่เทสก์ชี้แจงว่า… อาการเช่นนี้เรียก นิพพานพรหม จิตดับจนกระทั่งไม่ได้ยินเสียง ไม่รับรู้อะไรจากภายนอก

จิตลงไปสู่ส่วนลึกที่สุดเป็นอัปปนาฌาน

เรียกว่าพรหมลูกฟักเป็นพรหมชั้นสูง

ถ้าไม่แก้ไขผู้นั้นจะคิดว่าตนได้พบพระนิพพาน จะไปไหนไม่รอด

หลวงปู่เทสก์ก็ได้เล่าว่า หลวงปู่ขาว อนาลโย …

เมื่อติดตามไปอยู่กับหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ทางภาคเหนือ และพักอยู่สำนักสงฆ์อรัญญวิเวก (วัดอรัญญวิเวก บ้านปง ปัจจุบัน) ได้นั่งสมาธิตั้งแต่ 6 โมงเย็นไปจนถึง 6 โมงเช้าวันรุ่งขึ้น

น้ำค้างจับร่างหลวงปู่ขาวจนเปียกชุ่มท่านจึงรู้สึกตัวออกจากสมาธิ ก็ไม่ทราบว่าจิตไปอยู่ที่ไหน จึงไปถามหลวงปู่มั่น

ท่านตอบหลวงปู่ขาวเพียงนิดเดียวคือ… …

ให้หลวงปู่ขาวตั้งต้นใหม่ติดตามดูจิตตั้งแต่เริ่มต้นเข้าสมาธิ ใช้สติปัญญาตามดูจิตให้ดีว่า…

วางอารมณ์อะไรจึงดับเสียงไปหมด ให้ดูว่าจิตไปอยู่ที่ไหนต้องตามให้รู้

#หลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป







"...ปีใหม่แล้ว ตั้งต้นใหม่เด้อชีวิตของเรา เจริญแล้วเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปอย่าให้เสื่อม สังขารไม่เที่ยงถ้ารักษาไม่ได้ก็เสื่อม เจริญได้ก็เสื่อมได้อยู่อย่างนี้แหละ

เอาธรรมพระพุทธเจ้านั้นแหละ ปีใหม่ก็เข้าหาธรรมนั้นแหละ น้อมจิตใจเข้าหาธรรม น้อมเข้าหาธรรมพระพุทธเจ้านั้นแหละ ศีลก็เป็นธรรม เข้าหาทาน หาศีลนะ

การสละความโลภ ความโกรธ ความหลงของเราไปทางกายของเรานี้แหละ ทานของเรา เราไม่เอากลับคืน กิเลสเราก็สละเป็นทาน เราจะไม่เอากลับคืน เพราะกิเลสตัวนี้เป็นภัยต่อเรามาหลายภพหลายชาติแล้ว เราเวียนตายเวียนเกิดจมในกองทุกข์ก็เพราะกิเลสของเรา มาคราวนี้เราจะยอมสละเป็นทาน เราไม่เสียดาย

อานิสงส์ทานของเรา ศีลก็สะอาดบริสุทธิ์ ศีลก็งาม งามเบื้องต้นคือศีล งามท่ามกลางคือสมาธิ งามที่สุดคือปัญญา อานิสงส์ทานศีลนั้นแหละจึงจะพบเห็นความเจริญรุ่งเรืองอนาคตข้างหน้า ถ้าเสื่อมจากทานจากศีลก็ไม่เห็นล่ะนะความเจริญ..."

โอวาทธรรม
#หลวงปู่อว้าน เขมโก





"..บุญนั้นผู้ถวายได้แล้วสำเร็จแล้วตั้งแต่ตั้งใจหรือเจตนาในครั้งแรก ตลอดจนนำมาถวายสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรอีก เพียงแต่ตั้งเจตนาดีเป็นกุศลหวังผลคือความสุข การพ้นจากทุกข์ทั้งปวงเท่านี้ก็พอแล้ว นั่นมันเป็นพิธีการหรือกฏเกณฑ์อย่างหนึ่งของเขา ไม่ต้องอะไรทุกขั้นทุกตอนดอก.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)






"... ผู้ที่ไม่เคยทำบุญไว้ แต่ชาติก่อน
ความสมหวังแห่งผู้นั้นย่อมไม่มี ย่อมคลาดแคล้วแห่งสมบัติหลายประการ ทำนา ข้าว
ตาย ค้าขายขาดทุน หาคนค้ำจุนไม่ค่อยได้

... คนนั้นป่วยไข้ไปหาหมอ ก็ขัดข้องรักษา
ไม่ได้ ให้ตกอับทุกหน้าที่ ตกลงคนนั้นต้องกอดเข่าเจ่าจุก เพราะไม่ได้ทำบุญไว้แต่ชาติปางก่อน ไม่ชวนให้คนอื่นเมตตา ..."

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
#หลวงปู่หลุย_จันทสาโร
วัดถ้ำผาบิ้ง บ้านนาแก ต.ผาบิ้ง
อ.วังสะพุง จ.เลย พ.ศ.(๒๔๔๔ -​ ๒๕๒๓)








"..ถ้าชาวโลกทุกถ้วนหน้าถึงพระพุทธเจ้าพระธรรมะเจ้าพระสงฆะเจ้า เป็นที่พึ่งที่ระลึกที่ปฏิบัติบูชา ผูกขาดจองขาดไม่เอาลัทธิอื่นมาปนเปสร้างปัญหา พร้อมทั้งทรงศีลห้าบริบูรณ์แล้ว โลกมนุษย์ทั้งโลก จะเป็นโลกุตตระโลก สงบเย็นปราศจากสรรพเวรสรรพภัยให้เห็นประจักษ์แก่ตานอกและตาใน จะพากันผินหน้าจิตใจพร้อมทั้งเจตนามุ่งหน้า สูงส่งตรงไปสู่ธรรมอันไม่ตายคือพระนิพพาน โดยมิได้มีพระอาจารย์ภายนอกมาชักจูงเลย เพราะอำนาจพระอาจารย์อันทรงอยู่มีอยู่ที่อู่ของขันธสันดาน ที่เรียกว่าสันทิฏฐิโกและปัจจัตตัง จะเป็นพลังธรรมะ
ทิพย์ ใจทิพย์ สติทิพย์ ปัญญาทิพย์ เกิดขึ้นไม่ต้องสงสัยสามัคคีกันไปในธรรม ไม่ตายแล.."

เขมปตฺโตวาท
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
วัดบรรพตคีรี (วัดภูจ้อก้อ) บ้านแวง ต.หนองสูงใต้ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร









ปีใหม่อีกแล้ว เรื่องใหม่ เรื่องเก่า อันนั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครจะสัมผัสได้ คำว่า ‘เก่า’ คำว่า ‘ใหม่’ นี่เรียกว่าเป็น ‘สมมุติ’ คือมันมีอยู่เพราะเราตกลงกันว่ามี เรียกว่า ‘สมมุติกันว่ามี’ แต่มนุษย์เราเก่งตรงนี้แหละ ที่เราสามารถสร้างหลักการ สร้างคุณค่า สร้างอะไรขึ้นมา เพื่อประโยชน์ต่อมนุษย์ จะสัมผัสว่าไอ้ตัวนี้เก่าหรือใหม่ ก็แล้วแต่จะคิด แล้วแต่จะตกลงกัน แต่สำหรับปีใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งวันเท่านั้นเอง

แต่มนุษย์ผู้มีปัญญาก็สามารถเอาความรู้สึกว่าใหม่ช่วย ช่วยในการทบทวนสิ่งที่ผ่านมาว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องไหม ที่เราควรจะปรับปรุงแก้ไข …ปีใหม่ นี่จะต้องตั้งใจใหม่ กำลังใจมาจากไหน กำลังใจมาจากคำว่า ‘ใหม่’ ฉะนั้น เราก็สมมุติว่า ‘ใหม่’ มีอะไรดีไหมที่ว่าจะทำ ก็ไม่ได้ทำสักที น่าจะมีนะ น่าจะเยอะเหมือนกัน จะทำ… จะทำ… ก็ไม่ทำสักที… ฉะนั้น ใหม่แล้ว ตั้งใจใหม่ ปีใหม่ อะไรดีๆ ที่คิดว่าวันใดวันหนึ่งต้องทำ เอ้า… รีบทำซะ เพราะชีวิตเรามันไม่แน่ ไม่นอน

พุทธองค์เคยกล่าวถึงสิ่งที่เป็นสิริมงคล เวลาไหนเป็นมงคล มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับดวงดาว ไม่ขึ้นอยู่กับอะไรหรอก ขึ้นอยู่กับตัวเรา ถ้าเราทำดี ก็เป็นวันดีของเรา สถานที่นั้นก็เป็นสถานที่ดีสำหรับเรา ถ้าวันไหนทำไม่ดี พูดไม่ดี คิดไม่ดี ก็เป็นอัปมงคล ไม่ได้อัปมงคลที่ปฏิทิน ไม่ได้อัปมงคลที่ไหน อัปมงคลที่ตัวเรา

สิ่งแวดล้อมจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เราก็บังคับบัญชาไม่ได้ ควบคุมไม่ค่อยจะได้หรอก แต่สิ่งที่ทำให้เรามีความหวังในชีวิตเราได้ ก็คือ เราไม่ใช่เหยื่อของสิ่งแวดล้อม ไม่มีใครหรอกจะทำให้เราเป็นทุกข์ได้ ไม่มีอะไรจะทำให้เราเป็นทุกข์ได้ ถ้าเรารู้จักดูแลจิตใจของตน

ฉะนั้น สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างไร ชวนให้วิตกกังวลก็มี ชวนให้เครียดก็มี ชวนให้ไม่พอใจก็มี แต่เราจะวิตกกังวล เราจะกลัว จะเครียด จะอะไร ตามคำชวน ตามการชวนเชิญนั้นหรือไม่ อยู่ที่เรา ถ้าเราเอาคำสั่งสอนพุทธเจ้ามาเป็นเครื่องมือพัฒนาชีวิต ไม่ต้องเครียดกับเขาก็ได้ ไม่ต้องกลัวกับเขาก็ได้ ไม่ต้องกังวลกับเขาก็ได้ ไม่ต้องเศร้าหมองกับเขาก็ได้ อยู่ที่เรา

ฉะนั้น ปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนตั้งต้นใหม่ด้วยความหวังว่า สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างไรช่างมัน แต่เราจะทำของเราให้ดี

#พระอาจารย์ชยสาโร








"ไม่ต้องตื่นเต้นกับวันใหม่ ปีใหม่
อันนั้นมันหมุนไปตามเรื่องของมัน
วันหนึ่ง เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง
อันนั้นเป็นสมมุติบัญญัติขึ้นมา

อันที่เราควรจะตื่นเต้นนั้น
ควรตื่นเต้นที่ตัวของเราว่าวันหนึ่งๆ
เดือนหนึ่ง ปีหนึ่งเราเจริญขึ้น หรือว่า
เราเสื่อมลง อันนั้นต่างหาก
เราเห็นความเสื่อม ความเจริญของเรา

แท้จริงร่างกายของเรามันเจริญขึ้น
ไม่มีหรอก มีแต่เสื่อมลง มันเกิดขึ้นมาแล้ว
ก็เสื่อมลงทุกทีๆ"

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี






"ให้ปีใหม่ มันดีกว่าปีที่แล้วมา
อย่างน้อย ก็ให้มันโลภน้อยกว่า
โกรธน้อยกว่า หลงน้อยกว่า
สรุปแล้วคือ เห็นแก่ตัวน้อยกว่า"

ท่านพุทธทาสภิกขุ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO