นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 15 มี.ค. 2025 12:40 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ดำรงชีวิต
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 08 ม.ค. 2025 5:30 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4859
"..อันนี้พระพุทธเจ้าก็ว่าอยู่ กิจโฉ มนุสสปฏิลาโภ การที่ได้อัตภาพเป็นมนุษย์เป็นลาภใหญ่ เกิดมาชาติหนึ่ง ๆ แสนทุกข์แสนยากแสนลำบาก เราได้มาแล้ว เราเป็นผู้ไม่ประมาท รีบเร่งเอาทรัพย์ภายในไว้เสีย ความได้อัตภาพมาเป็นมนุษย์เป็นลาภอันสำคัญ มนุษย์เป็นชาติอันสูงสุด เป็นสัตว์ใจสูง มีเมตตาซึ่งกันแลกัน ได้สมบัติมาดีแล้วก็รีบเอามัน รับทำเอาเสีย อบรมบ่มอินทรีย์ให้มันแก่กล้า แก่กล้ามันสุก สุกมันก็ดี หมากไม้มันสุกมันก็หวานไม่ใช่สุกแกมดิบ นอกจากอัตภาพร่างกายของเราแล้วสิ่งอื่นไม่มีเรื่องนอกธรรม เรื่องข้างนอกกว้างขวาง ต้องเข้ามาพิจารณาแต่กายกับใจของเราเท่านั้น อันนี้ได้ชื่อว่าเข้ามาใกล้แล้ว ใกล้เข้ามาทุกที ใกล้ทางพระนิพพาน เป็นผู้อยู่ต้นทางพระนิพพานก็ว่าได้เป็นผู้ไม่ประมาท เข้าใกล้เข้าทุกที ๆ ครั้นบารมีของเราพร้อมบริบูรณ์แล้วก็สามารถที่จะพิจารณาได้.."

อนาลโยวาท
หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู
(พ.ศ.๒๔๓๑-๒๕๒๖)






"อย่าไปรอคอยเวลา เวลามันกลืนกินทุกอย่างเด้
ชีวิตที่แท้จริงไม่มีการรอคอย เพราะชีวิตคือความจริงในขณะนี้และวันนี้

การรอคอยคือการเอาจิตใจและชีวิตของเราในวันนี้ไปฝากไว้กับอนาคตซึ่งไม่มีอยู่จริง จงหมั่นภาวนาให้มากขึ้น ชีวิตจะได้สัมผัสกับความเป็นปัจจุบันในขณะนี้

อานิสงส์ของการภาวนาจะทำให้การรอคอยเริ่มหายไป การเจริญภาวนาจะทำให้หัวใจดวงนี้ได้พบกับชีวิตใหม่ ที่มีความสุขโดยไม่ต้องรอคอยสิ่งใด และนั่นแหละคือชีวิตที่แท้จริงของเรา"

หลวงปู่ประเสริฐ สิริคุตโต








ถ้าทำอะไรแล้วเป็นทุกข์ ก็หยุดทำ
ถ้าพูดอะไรแล้วเป็นทุกข์ ก็หยุดพูด
ถ้าคิดอะไรแล้วเป็นทุกข์ ก็หยุดคิด

#หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป






"... เราบวชมาหาทางพ้นทุกข์อย่างเดียว
... บ่ได้บวชมาเจริญพรขอกฐินผ้าป่ากับผู้ใด
... พระครูพระคันเราก็บ่อยากเป็นกับเขา
... เกิดมาชาตินี้ได้เป็น.. "พระชอบ ฐานสโม"
... เราก็พอใจแล้ว ..."

"" "" "" "" "" "" "" "" "" "" "" ""
#โอวาทธรรม
#หลวงปู่ชอบ_ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์
บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง
จังหวัดเลย ( พ.ศ.๒๔๔๔ -​ ๒๕๓๘ )








"..ในชีวิตของเรามีทางเลือกอยู่สองทาง คือ
คล้อยตามไปกับโลก หรือพยายามปฏิบัติให้อยู่เหนือโลก
พระพุทธเจ้านั้นท่านทรงปฏิบัติจนพระองค์เองทรงพ้นโลก
ด้วยการตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณ
ในทำนองเดียวกัน ปัญญาก็มีสอง คือ ปัญญาโลกีย์ กับปัญญาโลกุตตระ
หากเราไม่ภาวนาฝึกปฏิบัติอบรมตนเอง
ถึงจะมีปัญญาปานใด ก็เป็นเพียงปัญญาโลกีย์
เป็นโลกียวิสัย จะหลุดพ้นโลกไปไม่ได้
เพราะโลกียวิสัยนั้น มันเวียนไปตามโลก
เมื่อเวียนคล้อยไปตามโลก จิตก็เป็นโลกคิดอยู่แต่จะหามาใส่ตัว อยู่ไม่เป็นสุข
หาไม่รู้จักพอ วิชาโลกีย์เลยกลายเป็นอวิชชา
หาใช่วิชชาความรู้แจ้งไม่ มันจึงเรียนไม่จบสักที
เพราะมัวไปตามลาภ ตามยศ ตามสรรเสริญ ตามสุข
พาใจให้ติดข้องเป็นกิเลสกองใหญ่

เมื่อได้มาก็หึงก็หวง เห็นแก่ตัว
สู้ด้วยกำปั้นไม่ได้ ก็คิดสร้างเครื่องจักรเครื่องยนต์ เครื่องกลเครื่องไก
สร้างศาสตราวุธสร้างลูกระเบิดขว้างใส่กัน นี่คือโลกีย์ มันไม่หยุดสักที
เรียนไปก็เพื่อจะเอาโลก จะครองโลก
ได้อะไรก็หวงอยู่นั่นแล้ว นี่คือโลกียวิสัย เรียนไปแล้วก็จบไม่ได้

มาฝึกทางโลกุตตระ โลกุตตระนี้อยู่ได้ยาก
ผู้ใดหวังมรรค หวังผล หวังนิพพาน จึงจะทนอยู่ได้
จงทำตนให้เป็นคนมักน้อย สันโดษ
กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ทำให้มันหมดโลกีย์

ถ้าเชื้อโลกีย์ไม่หมด มันก็ยาก มันยุ่ง ไม่หยุดสักที
แม้มาบวชแล้วก็ยังคอยดึงให้ออกไป
มันมาคอยให้ความรู้ความเห็น
มันมาคอยปรุงคอยแต่งความรู้อยู่นั่นแล้ว
ทำให้ใจติดข้องอยู่ในกามคุณทั้งห้า
คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์
อารมณ์ของใจเป็นกาม คือ ความใคร่ ในความสุข ความทุกข์
ความดี ความชั่ว สารพัดอย่าง มีแต่กามทั้งนั้น

คนไม่รู้จักก็ว่า จะทำสิ่งในโลกนี้ให้มันเสร็จ
ให้มันแล้วเหมือนคนที่มาเป็นรัฐมนตรีใหม่ ก็คิดว่า ตนต้องทำได้
บริหารได้แล้วก็เอาอะไรๆ ที่คนเก่าทำไว้ออกไปเสีย
เอาวิธีบริหารของตนเข้ามาใช้แทน
ก็เลยต้องได้หามกันออก หามกันเข้าอยู่อย่างนั้นไม่ได้เรื่องสักที
ที่ว่าจะทำให้เสร็จ มันก็ไม่เสร็จ
เพราะจะทำให้ถูกใจคนทุกคนนั้น มันทำไม่ได้หรอก

คนหนึ่งชอบน้อย คนหนึ่งชอบมาก
คนหนึ่งชอบสั้น คนหนึ่งชอบยาว
คนหนึ่งชอบเค็ม คนหนึ่งชอบเผ็ด
จะให้เหมือนกันนั้นไม่มีในโลก

คนอยู่ครองโลก ครองบ้าน ครองเมือง
ทำทุกอย่างก็อยากให้มันสำเร็จ แต่ไม่มีทางสำเร็จหรอก
เรื่องของโลกมันจบไม่เป็น
ถ้าทำตามโลกแล้วจบได้ พระพุทธเจ้าท่านก็คงทรงทำแล้ว
เพราะท่านครองโลกอยู่ก่อน แต่นี่มันทำไม่ได้.."

"สองหน้าของสัจจธรรม"
พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท) (ตอนที่ 1) วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี






#ต้องรู้จักทุกข์ถึงจะมีทางแก้ทุกข์
"..เมื่อทุกข์เกิดขึ้นมา ใครทุกข์ ทุกข์นี้ทำไมมันจึงเกิด ต้องรู้จักทุกข์เกิดขึ้นมานะ ให้มันรู้จักทุกข์ซิ ทุกข์มันเกิดขึ้นมา เรากลัวทุกข์ ไม่รู้จักทุกข์ จะไปสู้ที่ไหนล่ะ ถ้าทุกข์มาก็ไม่รู้อีกจะไปสู้ทุกข์ที่ไหนล่ะนี่ เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด ต้องให้รู้จักทุกข์

การหนีทุกข์ก็คือให้รู้จักพ้นทุกข์ ไม่ใช่มันทุกข์ ที่นี้แล้วก็วิ่งไป หอบทุกข์ไปด้วย อยู่ที่นั้นทุกข์ก็เกิดขึ้นอีก ก็วิ่งอีก นี่ไม่ใช่คนหนีทุกข์เป็นคนไม่รู้จักทุกข์ ถ้ารู้จักทุกข์ต้องดูเหตุการณ์ ครูบาอาจารย์ท่านว่า อธิกรณ์เกิดที่ไหนให้ระงับที่นั้น

ทุกข์มันเกิดตรงนั้น เรื่องที่ไม่ทุกข์มันก็อยู่ตรงนั้น เรื่องที่ทุกข์ มันจะหายก็อยู่ตรงที่มันเกิด ถ้าทุกข์เกิดขึ้นมาต้องพิจารณา ไม่ต้องหนีนะ ต้องแก้อธิกรณ์ให้มันจบ รู้เรื่องของมัน

ทุกข์เกิดตรงนี้เราหนีไป กลัวทุกข์ นี้แหละคือโง่ที่สุด สร้างความโง่ขึ้นตลอดเวลา เราต้องรู้นะ ทุกข์นี้มันไม่ใช่อะไร ไม่ใช่ทุกขสัจหรือ เรื่องทุกข์นั้นเราจะเห็นในแง่ไม่ดี หรือทุกข์สัจ สมุทัยสัจ นิโรธสัจ มรรคสัจ ถ้าหนีจากสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็ไม่ปฏิบัติตามสัจธรรมเท่านั้นแหละ มันจะพบทุกข์เมื่อไร มันจะรู้เรื่องเมื่อไร

ถ้าหนีทุกข์เรื่องไปเราไม่รู้จักทุกข์ ทุกข์นี้เป็นสิ่งที่ควรกำหนดรู้ ถ้าไม่กำหนด จะรู้มันเมื่อไร ไม่พอใจหนีไป ไม่พอใจหนีไปเรื่อย

พระพุทธองค์ท่านให้หนีด้วยปัญญา เปรียบประหนึ่งว่าเรามีเสี้ยนหรือหนามน้อยๆ ตำเท้าเราอยู่ เดินไปปวดบ้างหายปวดบ้าง บางทีก็เดินไปสะดุดหัวตอเข้า ปวดขึ้นมาก็คลำดู คลำไปคลำมาไม่เห็น เลยขี้เกียจดูมัน ก็ปล่อยมันไป ต่อไปเดินไปถูกปุ่มอะไรขึ้นมาก็ปวดอีก มันเป็นอย่างนี้เรื่อยไป

ทุกข์ที่เกิดขึ้นมานั้นนะ เราต้องกำหนดรู้มัน ไม่ต้องปล่อยมันไป เมื่อมันเจ็บปวดขึ้นมา เออ ไอ้หนามนี่มันยังอยู่นี่นะ เมื่อความเจ็บปวดเกิดขึ้น ความคิดที่ว่าจะเอาหนามออกจากเท้าเราก็มีพร้อมกันมา ถ้าเราไม่เอามันออก ความเจ็บปวดมันก็เกิดขึ้น เดี๋ยวก็เจ็บ เดี๋ยวก็เจ็บ อยู่อย่างนี้ ความสนใจที่จะเอาหนามออกจากเท้าเรามันมีอยู่ตลอดเวลา

ผลที่สุดวันหนึ่งต้องตั้งใจเอาหนามออกให้ได้ เพราะมันไม่สบาย อันนี้เรียกว่าการปรารภความเพียรของเรา ต้องเป็นอย่างนั้น มันขัดตรงไหน มันไม่สบายตรงไหน ก็ต้องพิจารณาที่ตรงนั้น แก้ไขที่ตรงนั้น แก้ไขหนามที่มันยอกเท้าเรานั่นแหละ จิตใจของเรามันติดอยู่ที่ตรงไหนเราจะต้องรู้จักอยู่อย่างนั้น คลำไปคลำมาก็รู้อยู่ เห็นอยู่ เป็นอยู่อย่างนั้น แต่ว่าความเพียรของเราไม่ถอยเหมือนกัน ไม่หยุด ท่านเรียกว่า วิริยารัมภะ ปรารภความเพียรอยู่เสมอ

ฉะนั้น เรื่องสุขทุกข์นี้เราจะทำอย่างไร ถ้าไม่มีสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ จะเอาอะไรเป็นเหตุ ถ้าไม่มีเหตุ ผลมันจะเกิดตรงไหนเล่า นี่เรียกว่าธรรมมันเกิดเพราะเหตุ เมื่อผลมันจะดับไปนั้น เพราะเหตุมันดับไปก่อน ผลมันจึงดับไปด้วย.."

#เทศนาธรรมคำสอน
พระโพธิญาณเถระ (หลวงปู่ชา สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี







"ดำรงชีวิตอยู่เพื่อความสงบ รู้จักละ รู้จักพอ
รู้จักทำใจ ยิ้มให้ได้ บอกกับตัวเองเสมอว่า
เราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี สร้างความดี
สร้างคุณธรรม ไม่ใช่เกิดมา เพื่อสร้างบาปกรรม "

โอวาทธรรม
พระครูวิสุทธิธรรมโชติ (#หลวงปู่จรัส ธัมมธโร)

วัดดอยน้ำตกพัฒนา
บ้านดอยน้ำตกพัฒนา ต.ทุ่งก่อ อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย







สมบัติ กะ สมมุตินิละ ตายแล้วกะเอาไปนำบ่ใด่!!!

โอวาทธรรม

หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต







“ต้องล้างการกระทำ ล้างการพูด ล้างความคิดของตน
ด้วยนำ้ใส คือพระธรรม ไม่ล้าง ปีใหม่ก็ย่อมเหมือนปีเก่า
พรปีใหม่พระก็ยินดีให้หรอก แต่ของจริงของแท้
ต้องเกิดจากความพยายามของเรา แต่ละคน
เพื่อล้างชีวิตของตนให้สะอาดหมดจด”

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ







“พรที่ปรารถนา จะให้ในวันมงคลขึ้นปีใหม่นี่คือ
ขอให้พากันไม่ลืมนึกถึงความจริงที่สำคัญประการหนึ่ง
ไว้ให้เสมอว่าวันเวลากำลังเคลื่อนไป พร้อมกับวัย
ของเราทุกคน และจะไม่มีการถอยหลังย้อนกลับมา
ได้อีกเลย อะไรที่ดีงามให้รีบทำเสีย อย่าผัดวัน
ประกันพรุ่ง เมื่อโอกาสที่ทำได้ผ่านพ้นไป จะไม่มีโอกาส
เช่นนั้นอีก”

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จสังฆราชฯ






การที่เราเป็นคนใจเย็น ลดความโมโหได้ดี
ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนยอมคน
แต่หมายถึงว่าเรามี “สติ”

หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO