นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 14 มี.ค. 2025 1:54 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ความสุขกายสบายจิต
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 21 ม.ค. 2025 5:50 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4859
หลวงตามหาบัว ได้ฝากโอวาทธรรม ไว้กับพุทธศาสนิกชน
เรื่อง ๙ นิสัยของคนมีบุญมาก มีบุญสอนตนเองได้
เพราะมีกำลังบุญที่มากพอจิตของผู้มีบุญ

๑. ไม่บ่น เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นปัญญา ทำให้ยอมรับต่อความเป็นจริงของชีวิต ทำให้รู้เห็นและเข้าใจถึงระดับวาสนาของตนและบุคคลอื่น ความเป็น ไปของชีวิตนั้นขึ้นตรงต่ออำนาจบุญกรรมที่ทำไว้ บ่นไปก็แค่นั้นเอง ที่ได้มา ที่มีอยู่ ที่เสียใจ ที่ไม่ได้ดั่งใจ ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น มันคือ “ผลแห่งกรรม” อันเป็นสมบัติของเราเอง

๒. ไม่กลัว เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นความเข้มแข็ง กล้าหาญ ตามกำลังของบุญฤทธิ์ ทำให้ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคและปัญหาที่จะเกิดขึ้น เพราะมีความมั่นใจในความเป็นผู้บริสุทธิ์ ความเป็นผู้มีบุญของตน เมื่อจะคิด จะทำอะไรลงไป ล้วนมีกำลังบุญมารองรับทั้งหมดทั้งสิ้น

๓. ไม่ทำชั่ว เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นตัวควบคุม บริหารจัดการ ตามกำลังของบุญฤทธิ์ ทำให้เกิดความกลัว ความละอายต่อบาปต่อกรรม ความผิดน้อยใหญ่ ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง เห็นถึงความเสียหาย หลายภพหลายชาติ เห็นถึง ผลกระทบต่อครอบครัว ต่อโลกต่อสังคม อย่างมากมายมหาศาล

๔. ไม่คิดมาก เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นความสะอาด ความสว่าง ความสงบ ตามกำลังของบุญฤทธิ์ ทำให้เกิดพลังแห่งความสงบ แห่งจิตแห่งใจ ไม่ฟุ้งซ่านรำคาญใจ ไม่คิดเป็นทุกข์ ความคิดทุกความคิด ล้วนนำมาซึ่งความเบิกบานกายใจ ไม่คิดเบิกความทุกข์ มาใช้ก่อน

๕. รอได้ คอยได้ เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นความใจเย็น มีความยืดหยุ่น ตามกำลังของบุญฤทธิ์ ไม่ใจร้อน ใจเร็ว เห็นถึงจังหวะ และโอกาสของชีวิต

๖. อดได้ ทนได้ เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นพลังงานเข้มแข็ง ตามกำลังของบุญฤทธิ์ ทำให้มีความอดทน ที่เป็นหนึ่งเป็นเลิศ มีความคิดที่ไม่หวั่นไหว เห็นความสำเร็จทุกชนิดมาจากความอดทน อดทนอย่างมีความสุข

๗. สงบได้ เย็นได้ เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะเป็นสภาพให้เป็นคนที่สงบได้ เย็นได้ ตามกำลังของบุญฤทธิ์ ไม่เป็นคนที่ร้อนรน กระวน กระวาย สับส่าย วุ่นวาย ในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ในสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น แม้จะตกอยู่ใน เหตุการณ์ที่เลวร้าย ก็ทำใจได้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

๘. ปล่อยได้ วางได้ เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นคนที่รู้จักการละ การวาง ตามกำลังของบุญฤทธิ์ ไม่เป็นคนที่แบกทุกอย่างที่ขวางหน้า ยึดทุกอย่างที่เกิดขึ้น

๙. รู้ได้ ตื่นได้ และเบิกบานได้ เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นความรู้ตื่น เบิกบาน ตามกำลังของบุญฤทธิ์ เป็นผู้รู้ ต่อความ เป็นจริงของชีวิต ไม่ปล่อยชีวิตให้ตกไปในกระแสของความโลภ ความโกรธ ความหลง จิตใจมีความอิสระเต็มที่ ทุกวันทุกเวลาทุกนาที

ลักษณะของคนที่มีบุญในโอวาทธรรมของหลวงตามหาบัวนั้นถือว่าเป็นคำสอนที่สามารถเตือนสติเราได้ดีเลยนะคะ

ที่มา:siamnews/ ขอบคุณข้อมูลจากวิถีบ้านนา






“หลายคนมัวแต่คิดว่า
เราไม่มีบุญ ไม่มีบารมีเพียงพอ
จึงทำไม่ได้อย่างคนอื่น

แต่อาตมาเชื่อเหลือเกินว่าทุกคนในที่นี้
ต้องมีอย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิต
ที่เคยเปลี่ยนแปลงตัวเอง

อาจจะตั้งใจจะละนิสัยบางอย่างที่ไม่ดี แล้วละได้
หรืออะไรที่เราไม่เคยคิดว่าเราจะทำได้
แต่แล้วที่สุด เราก็ทำได้

ขอให้นึกถึงตัวเราในช่วงเวลาเหล่านั้นไว้
จำไว้ว่า เราทุกคนเป็นคนที่มีศักยภาพ
ที่จะทำอะไร ๆ ให้สำเร็จได้
ถ้าเราตั้งใจจริง และทำเหตุให้เหมาะสม”

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ







"ความสุขกาย สบายจิต
อยู่ที่ความพอเท่านั้น

สิ่งใด ที่เราพอแล้ว
สิ่งนั้น ไม่นำความทุกข์
ความเดือดร้อนใจ มาให้เลย

ถ้าเราไม่พอในสิ่งใด
ชื่อว่าเรายังจนอยู่ในสิ่งนั้น
ความไม่พอนั่นแหละ
ชื่อว่า เป็นคนจน"

หลวงปู่จันทร์ สิริจนฺโท






“ไม่มีอะไรที่จะเป็นไปตามใจเรา
มันเป็นไปตามธรรมชาติ

ความตาย ความเจ็บไข้ ความวิบัติ
เหล่านี้มันเป็นของธรรมดา
ไม่ใช่มีมาให้เรากลัว
ไม่ใช่มีไว้สำหรับให้เรากลัว
แต่มีไว้สำหรับให้เราเรียน
ให้เราศึกษา ให้เรากล้าเผชิญหน้า

สิ่งที่ไม่ตรงกับความต้องการของเรา
นั่นแหละ มันมาเพื่อให้เราเรียน
หรือมาเพื่อสอบไล่ความเก่งของเรา”

ท่านพุทธทาสภิกขุ






"….พระพุทธเจ้าจึงยังมีอยู่ ยังเมตตากรุณาสัตว์ทั้งหลาย
ยังช่วยมนุษย์สัตว์ทั้งหลายอยู่ ถ้ามนุษย์ผู้ใด
มีความประพฤติปฏิบัติดี จงรักภักดี ต่อพระพุทธเจ้า
ต่อพระธรรม ผู้นั้นก็จะมีคุณงามความดีอยู่ตลอดทุกวัน
ฉะนั้น ถ้าเรามีปัญญาก็จะเห็นได้ว่า เราไม่ได้อยู่ห่าง
พระพุทธเจ้าเลย เดี๋ยวนี้เราก็ยังนั่งอยู่ต่อหน้าพระพุทธเจ้า
เราเข้าใจธรรมะเมื่อใด เราก็เห็นพระพุทธเจ้าเมื่อนั้น
ผู้ใดที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมอยู่อย่างสม่ำเสมอแล้ว
ไม่ว่าจะนั่ง ยืน เดิน อยู่ ณ ที่ใด ผู้นั้นย่อมได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา….”

หลวงปู่ชา สุภทฺโท


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO