❝ มาตา ปิตุ อุปัฏฐานัง (การบำรุงบิดามารดาเป็นมงคลอย่างยิ่ง) ❞
เก่งปานใด่ กะอย่าลืมพ่อ ลืมแม่ เด้อ...!!!
โอวาทธรรม
#หลวงปู่จื่อ พนฺธมุตฺโต
ทำยังไง จะได้ทำทาน ๒๔ ชั่วโมง? ภาวนา ภาวนาทาน บ่แม่นทำได้ ๒๔ ชั่วโมง แต่ทำได้ตลอดชีวิต สรณัง คัจฉามิ นั่นชื่อว่าถึงที่สุด
อนุโมทนาทานที่คนอื่นทำก็เป็นบุญ ภาวนา ก็ให้ทานกิเลสออกจากใจ
ธรรมโอวาท
#หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๘
ความโกรธเหมือนกัน ความโลภพวกนี้เหมือนกัน มันเป็นของละได้ยาก มันไม่ใช่ว่ายาก
ถ้าคนรู้จักตรงที่มันละมันมี แล้ว ไม่เป็นเรื่องยาก..มันของง่ายๆ ถ้าคนไม่รู้ที่จะละมันก็จะยาก มันยากเพราะมันโง่ เราก็โง่เหมือนกันทุกคนนั่นแหละ โง่มันทุกเรื่อง ถ้าเราที่เราไม่เป็นยังไม่ทันได้รู้จักมันก็โง่หมดนั่นแหละ มีแต่เรื่องโง่ๆ มันไม่ยาก...มันไม่โง่...หากเรารู้ในแนวทางที่ถูกต้องตามธรรม
ฉะนั้น พระบรมศาสดา ท่านถึงตรัสว่า "ปัจจตุต เวทิตพฺโพ วิญญูหิ" วิญญูชนรู้เฉพาะ เจ้าของ...นั่น ดังนั้น..จึงให้ปฏิบัติให้เจ้าของเข้าไปเห็น มัวแต่ไปถามคนนั้น มัวแต่ไปถามคนนี้อยู่ เขาก็ว่าไปอย่างนั้น แหละ...คนพวกนี้ เรามันไม่เห็นเอง ให้เขาบอกแล้วเราก็รู้จัก แต่รู้อันนี้...รู้ไม่ถึง รู้อันนี้...รู้ไม่แจ้ง รู้คนอื่นบอก...รู้ไม่แจ้ง ถ้าเราเข้าไปรู้เองนั่น...เออ...รู้จักดี..ได้ธรรม..
พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)
"บุคคลบางคน เกิดขึ้นมาแล้วมีแต่โรคภัยไข้เจ็บ ตั้งแต่เล็กแต่น้อย จนถึงหนุ่มสาว จนถึงท่ามกลางคน จนถึงเฒ่าถึงแก่ ไม่รู้ว่ามีโรคอะไรต่อโรคอะไร ก็ด้วยอำนาจของกรรม เป็นโรคกรรม โรคกรรมนี้ รักษาด้วยหยูกยาไม่หาย บางทีก็ต้องแผ่เมตตา ให้ซึ่งกันและกัน ถ้าหากมันไม่ใช่โรคกรรม มันก็จะหายง่าย ถ้าเป็นโรคกรรม ก็ต้องอโหสิกรรมให้ "
หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
“คนที่เก่งในเรื่องทำความดี มีเมตตาสงสาร มีจิตสงบ ไม่ตอบโต้กับคนบาป ไม่ยุ่งกับคนบาป นี้คือลักษณะของคนมีบุญ”
หลวงปู่ไม อินทสิริ
“อยากให้ชีวิตง่ายขึ้น อย่ายุ่งกับเรื่องของคนอื่น ภาวนามากๆ ดูตัวเองมากๆ ธรรมดาเราดูแต่คนอื่น ๙๐% ดูตัวเองแค่ ๑๐% คือคอยดูแต่ความผิด ของคนอื่น เพ่งโทษคนอื่น คิดแต่จะแก้ไขคนอื่น
กลับเสียใหม่นะ ดูคนอื่นเหลือไว้ ๑๐% ดูเพื่อศึกษาว่า เมื่อเขาทำอย่างนั้น คนอื่นจะรู้สึกอย่างไร เพื่อเอามาสอนตัวเองนั่นแหละ ดูตัวเอง พิจารณาตัวเอง ๙๐% จึงเรียกว่าปฏิบัติธรรมอยู่
ธรรมชาติของจิตใจมันเข้าข้างตัวเอง โบราณพูดว่า เรามักจะเห็นความผิดของคนอื่น เท่าภูเขา ความผิดของตนเองเท่ารูเข็ม มันเป็นความจริงอย่างนั้นด้วย เราจึงต้องระวังความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้มากๆ
เห็นความผิดของคนอื่นให้หารด้วย ๑๐ เห็นความผิดตัวเองให้คูณด้วย ๑๐ จึงจะใกล้เคียงกับความจริงและยุติธรรม”
หลวงปู่ชา สุภทฺโท
“สิ่งใดที่มันล่วงมาแล้ว เลยมาแล้ว เราไม่สามารถไปตัด ไปปลงมันได้อีกแล้ว สิ่งที่เราทำไปนั้น ถ้ามันดี มันก็ดีไปแล้ว ผ่านไปแล้ว พ้นไปแล้ว ถ้ามันชั่ว มันก็ชั่วไปแล้ว ผ่านไปแล้ว เช่นกัน
อนาคตยังมาไม่ถึง สิ่งที่ยังไม่มาถึง เราก็ยังไม่รู้เห็นว่ามันจะเป็นอย่างไร อย่างมากก็เป็นแต่เพียงการคาดคะเนเอาเอง ว่าควรเป็นยังงั้น เป็นยังงี้ ซึ่งมันอาจจะเป็น ไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดคะเนก็ได้
ปัจจุบัน คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เราได้เห็นจริง ได้สัมผัสจริง เพราะฉะนั้น ความดีต้องทำในปัจจุบัน ทานก็ดี ศีลก็ดี ภาวนาก็ดี ต้องทำเสียในปัจจุบัน ที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราต้องการความดี ก็ต้องทำ ให้เป็นความดีในปัจจุบันนี้ ต้องการความสุข ต้องการความเจริญ ก็ต้องทำให้เป็นไปในปัจจุบันนี้”
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
|